นายกฯ กำชับเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง 608-เด็กให้ทั่วถึงมากที่สุด

18 มี.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ว่า ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีขอให้มีการติดตามสถานการณ์การกลายพันธุ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งการพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อ ประสิทธิภาพของวัคซีน รวมทั้งอาการและความรุนแรงของโรค การตอบสนองต่อยารักษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ จากมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่เห็นชอบการปรับโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ยืนยันว่าไม่ใช่ในเวลานี้ เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า กำหนดเป็น 4 ระยะ ซึ่งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โรคโควิด-19 จะออกจากโรคระบาดและเข้าสู่โรคประจำถิ่น เป็นการคาดการณ์โดยจะต้องพิจารณาสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นด้วย เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นไว้ใจ ให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ปกติ สามารถทำมาค้าขายได้ ดังนั้น มติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จึงเป็นเสมือนทิศทางการทำงานของทุกหน่วยงานในการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ทั้งเตรียมการให้พร้อมการตรวจหาเชื้อ การฉีดวัคซีน ระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อเพื่อลดการระบาดและลดจำนวนผู้เสียชีวิต เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติและให้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการพบปะกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างประชาชนในสองประเทศให้มากขึ้นอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการเดินทางของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส แบบไม่ต้องกักกันโรคผ่านช่องทาง VTL (Vaccinated Travel Lane) ซึ่งประเทศไทยได้เปิดรับผู้เดินทางจากมาเลเซียที่ฉีดวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางเข้าประเทศทางอากาศได้โดยไม่ต้องกักตัว ผ่านระบบ Test and Go พร้อมเตรียมเปิดการเดินทางผ่านพรมแดนทางบกเพิ่มเติม และจะขยายไปยังภาคการค้าต่อไป เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหากันได้อย่างสะดวกดังเดิม

นายธนกร กล่าวว่า พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีเร่งรัดสร้างการรับรู้ว่าการได้รับวัคซีนจะทำให้ลดความรุนแรงของโรคได้ โดยนายกฯกล่าวแสดงความห่วงใยกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนและผู้ป่วยโรคไตที่ต้องฟอกไต ทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ รวมถึงให้เร่งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นและฉีดวัคซีนสำหรับเด็กให้ทั่วถึงให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญยังคงต้องรักษามาตรการ VUCA คือการฉีดวัคซีน (Vaccine) การป้องกันตนเองตลอดเวลา (Universal Prevention) ซึ่งจะช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ สำหรับสถานประกอบการต่าง ๆ ยังคงใช้มาตรการ COVID-Free Setting และการตรวจ ATK อย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งได้มีการปรับมาตรการไปแล้วหลายอย่าง และขอให้ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้ที่ฝ่าฝืน

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าโดยที่ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคมเป็นฤดูกาลผลไม้ของไทยที่จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะทุเรียนที่จะมีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งเรื่องการส่งออก การผ่านด่าน ตรวจคัดกรอง ท่าเรือ การขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อให้การส่งออกผลไม้ของไทยสามารถไปถึงประเทศผู้ซื้อได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ค้างอยู่ในประเทศ ไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ส่งกระทบหรือเป็นปัญหาต่อการส่งออกของไทย โดยให้หน่วยที่เกี่ยวข้องประสานงานกับประเทศจีนด้วย

นายธนกร กล่าวว่า ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีเน้นทุกส่วนต้องทำงานอย่างเต็มที่ เฝ้าระวังอย่าให้มีการบิดเบือน สร้างความไม่เชื่อมั่น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจรัฐบาล เน้นการส่งเสริมให้คนไทยเรียนรู้การอยู่ร่วมกับโควิด สร้างการรับรู้ COVID UCEP ยืนยันรัฐบาลดูแลตามสถานการณ์ของโรค ผู้ป่วยต้องได้รับรักษาและเข้าถึงการรักษา พร้อมย้ำการจัดงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้อยู่ภายใต้มาตรการ VUCA ให้จัดชุดตรวจลงพื้นที่ เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิดโดยเฉพาะเข็มกระตุ้น ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงควรเข้ารับวัคซีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดที่ขออนุมัติจัดกิจกรรมสงกรานต์ ควรฉีดวัคซีนคนในพื้นที่ให้แล้วเสร็จก่อนถึงเทศกาลสงกานต์ ทั้งนี้ ให้จังหวัด อำเภอ ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ เฝ้าระวังดูแลตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด สถานประกอบกิจกรรม/กิจการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ย้ำการดูแลเฝ้าระวังตัวเอง เป็นมาตรการป้องกันที่ดีที่สุด ยืนยันที่ผ่านมารัฐบาลทำงานเต็มที่เพื่อดูแลประชาชนภายใต้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ

วาระแห่งชาติ! 'มาดามแพ' ดูนิทรรศการ 'ผ้าไทยใส่ให้สนุก' ยันออกแบบทันสมัย วัยรุ่นใส่ทำงานได้

ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (

'อุ๊งอิ๊ง' ประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่-ทีมไทยแลนด์ประจำภูมิภาคอเมริกา ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง)