นายกฯห่วงสงกรานต์ คนฉีดเข็มกระตุ้นน้อย เร่งจัดวัคซีนลงพื้นที่ ขู่จัดงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการสั่งปิดทันที

นายกฯ ห่วงสงกรานต์คนฉีดเข็มกระตุ้นน้อย เร่งจัดวัคซีนลงพื้นที่ ขู่จัดงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการสั่งปิดทันที ย้ำยังไม่มีประกาศเลิกถอดหน้ากาก ขอฟังศบค.

18 มี.ค.2565 -เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ครั้งที่5/2565 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงต้นของการประชุม ว่า หลังพบโควิด-19 สายพันธุ์ BA 2.2 ขอให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์การกลายพันธุ์และเชื้อชนิดนี้ ทั้งเรื่องการตรวจหาเชื้อประสิทธิภาพวัคซีน อาการความรุนแรงของโรค และการตอบสนองต่อยารักษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดต่อไป สำหรับผลงานวิจัยของไทยที่เกี่ยวข้องให้นำไปขึ้นทะเบียน เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนนำไปใช้ได้ในราคาที่ประหยัดลง นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้จัดหาอยู่แล้ว ส่วนการปรับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ยังคงไม่ใช่ในระยะเวลานี้เดี๋ยวจะเกิดการเข้าใจกันผิด เหมือนที่ไปพาดหัวข่าวกันอยู่ทุกวันนี้ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก แต่ก็ต้องเตรียมแผนรองรับไว้ล่วงหน้า

ต่อมาเวลา 11.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า การประชุมศบค.วันนี้เป็นเรื่องของการปรับมาตรการ ปรับสีพื้นที่ รวมถึงมาตรการทำอย่างไรให้เกิดการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยซึ่งตอนนี้เราเปิดประเทศแล้ว ก็มีการปรับปรุงมาตรการอยู่หลายอันที่มีรายละเอียดปลีกย่อย สิ่งสำคัญที่สุดที่ตนเป็นห่วงช่วงนี้คือสถานการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกพื้นที่ที่มีการจัดงานต้องระมัดระวังตัวเอง ต้องรับผิดชอบปฏิบัติตามมาตรการในการจัดงานสงกรานต์ ถ้าตรงไหนไม่ปฏิบัติตามต้องถูกปิด ก็ต้องระมัดระวังกัน เพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นประเพณีไทยแต่โบราณ ขอให้ฟังมาตรการของศบค.ด้วย และปฏิบัติให้ได้ตามนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่มากขึ้น ซึ่งวันนี้สถานการณ์ในต่างประเทศก็มีมากกว่าเราเยอะ แต่มาตรการในการดูแลรักษาเราทำได้ดีกว่าเขา ทั้งเตียง ยารักษา ขณะนี้เราเพียงพอ

"เรื่องสำคัญอีกประการคือการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 วันนี้มีวัคซีนเพียงพอเตรียมไว้ถึง 3 ล้านกว่าโดส แต่คนก็ยังไม่ค่อยอยากมาฉีดกัน จึงต้องรณรงค์ให้มาฉีดกันมากขึ้น ผมก็สั่งการให้มีการลงไปฉีดในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่จะมีการจัดงานต้องฉีดให้ได้มากที่สุด และให้ระมัดระวังกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว วันนี้มีปัญหาอีกอันคือกลุ่มผู้ที่มีโรคไต ที่จะต้องฟอกไตเมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 ก็ไปฟอกไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดจึงมีความเสี่ยงสูง ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขในทุกมิติ เดี๋ยวโฆษกศบค.จะชี้แจง ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการจะปรับให้เป็นโรคประจำถิ่นนั้นเป็นเพียงแผนงานถ้าเป็นไปได้สถานการณ์ดีขึ้นก็จะสามารถเดินไปสู่จุดนั้นได้ ยังไม่ได้หมายความว่าจะทำเลย เขามีขั้นตอนของเขา ถ้าไม่ผ่านตรงนี้ก็เป็นไปไม่ได้เท่านั้นเอง ก็ต้องใช้วิธีการ มาตรการเดิมๆที่เราทำอยู่แล้วให้เข้มงวด


เมื่อถามว่าในเรื่องการจัดคอนเสิร์ตสามารถผ่อนคลายได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ให้ไปขออนุญาตให้จัดในที่แจ้ง จำนวนคนเท่าไหร่ก็มีกำหนดไว้อยู่แล้ว แต่การที่จะไปจัดในสถานที่ปิดมิดชิดที่เขายังไม่ให้เปิดก็จัดได้แค่ในลักษณะที่เป็นเหมือนร้านอาหาร ไม่กลัวกันหรือไง ไม่กลัวโควิดกันหรืออย่างไร สถานที่แบบนี้เมื่อเข้าไปเราไม่ได้ไปห้ามการแสดงดนตรี ก็ขอแสดงกันในที่ไม่ใช่พื้นที่ปิด ในส่วนพื้นที่เสี่ยงวันนี้ก็ตรวจเจอกันหลายพื้นที่ ก็สั่งการกำชับไปแล้วถ้าไม่ปฏิบัติตามมาตรการสั่งปิดทันที ต้องมีความผิดและรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะทำให้คนเดือดร้อน ขอเตือนแล้วกันถ้าเราไม่อยากจะติดเชื้อ ไม่อยากให้คนในครอบครัวติดเชื้อก็ต้องระมัดระวังตัวเองในการใช้ชีวิต ยังคงต้องระวังอยู่ หน้ากากยังคงต้องใส่อยู่ อย่าเพิ่งไปพาดหัวข่าวว่าจะเลิกถอดหน้ากาก เลิกนั่นเลิกนี่ มันยังไม่เลิก เพราะมติศบค.ยังไม่ออกมาตรงนี้ ก็พูดกันไปล่วงหน้ากันเอง มันเป็นประเด็นเข้าใจหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘บิ๊กตู่’ ร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ‘คุณแม่ชดช้อย’ มารดานายกรัฐมนตรี

ที่ศาลา 9 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภรรยา เดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ นางชดช้อย

รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!

'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด