สถานบันเทิงส่อวืด! 'หมออุดม' แย้มหลังสงกรานต์ค่อยเปิด วอนปชช.ฉีดวัคซีนเข็ม 3

18 มี.ค. 2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.15 น. ศ.นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงการผ่อนคลายมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า คงต้องผ่อนคลายมาตรการและเราจะไม่ไปล็อกอะไรทั้งสิ้น เพราะสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมไทยที่สำคัญ แต่ประชาชนต้องเข้าใจว่ายังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 จึงต้องระมัดระวังตัวเอง

สำหรับเทศกาลสงกรานต์อยากย้ำว่า วันนี้ผู้ติดเชื้อใหม่นิวไฮ 2.7 หมื่นคน และเสียชีวิต 80 ราย ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ แม้ขณะนี้จะไม่ติดเชื้อและเจ็บป่วยรุนแรง แต่เราไม่อยากให้กลับไปเหมือนสงกรานต์ปี 64 ที่ไม่ล็อกดาวน์ทำให้ตัวเลขสูงขึ้นมากลากยาวถึงสิ้นปี เราต้องการจะกดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ให้เพิ่มขึ้น เพราะตามการคาดการณ์กลางปีนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลงมาหลักพันต้นๆ ตัวเลขไม่มีทางเป็นศูนย์ ประชาชนต้องช่วยกัน กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลทำเต็มที่แล้ว

ศ.นพ.อุดม กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 3 หมื่นรายต่อวัน วันนี้ติด 2.7 หมื่นคน ตนคิดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เราไม่อยากให้ยอดผู้เสียชีวิตขึ้นเลข 3 เพราะจะถือว่าเยอะเกินไป ตอนนี้เรามาถึงทางแยก ว่าจะให้การแพร่ระบาดโควิดสิ้นสุดกลางปี 65 ตามที่เราทำนายไว้หรือไม่ แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ เทศกาลสงกรานต์ หากเรากดตัวเลขไว้ไม่อยู่จนขึ้นไปสูงจะลากยาวสิ้นปี ทำให้การใช้ชีวิตลำบากและเศรษฐกิจไม่เดินหน้า ดังนั้นประชาชนต้องให้ความร่วมมือ

ที่ปรึกษา ศบค. กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์สิ่งที่อยากขอประชาชนคือ การรับวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากสถิติพบว่าผู้รับวัคซีน 2 เข็ม จะลดอัดตราการป่วยตายจากเชื้อโอมิครอนได้ 6 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้ฉีดวัคซีน และหากฉีดวัคซีนจะลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 41 เท่า และเมื่อดูจากผู้เสียชีวิต 95-98% เป็นผู้มีอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว อีกทั้งในจำนวนผู้เสียชีวิตมีถึง 60% ที่ไม่ได้รับวัคซีน อีกทั้งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัดเพราะเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข นอกจากนี้ยังวิตกกังวลและลังเลจะฉีดวัคซีน คิดว่าเชื้อไม่รุนแรง

จึงอยากให้ประชาชนได้รับวัคซีน จะแบ่งเป็นสองส่วนคือ ปู่ย่าตายายที่อยู่ในต่างจังหวัดจะต้องฉีดวัคซีนก่อนที่ลูกหลานจะกลับไปเยี่ยม ส่วนลูกหลานที่จะกลับไปเยี่ยมจะต้องฉีดเข็ม 3 อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางเพื่อให้ภูมิขึ้น นอกจากจะช่วยไม่ให้เชื้อเข้าตัวแล้วยังช่วยป้องกันกระจายไปสู่คนรอบข้าง และอยากให้ลูกหลานเก็บตัวอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางไปหาปู่ย่าตายาย พยายามไม่ออกไปไหนเพื่อลดความเสี่ยง ให้ตัวสะอาดและป้องกันการรับเชื้อโดยไม่รู้ตัว ไม่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์หรือกินข้าวกับคนอื่น เพราะปัจจุบันการติดเชื้อมาจากการกินข้าวกับเพื่อนฝูง

ทั้งนี้ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัยที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้มาก อีกทั้งอยากให้ตรวจเอทีเคก่อนกลับภูมิลำเนา เพื่อตรวจสอบตัวเองว่าไม่ติดเชื้อ หากพบว่าติดเชื้อก็อย่ากลับ แม้ว่าจะไม่มีอาการก็ต้องกักตัว เพราะขณะนี้ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการระบาดมากขึ้นมาจากคนที่มีความเสี่ยงไม่ยอมกักตัวเอง

เมื่อถามว่า จากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน จะสามารถเปิดสถานบันเทิงได้หรือไม่ ศ.นพ.อุดม กล่าวว่า ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต้องเข้าใจว่าเราอยากให้เปิด แต่ต้องยอมรับว่าสถานบันเทิงอยู่ในบริบทที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นพื้นที่ปิด คนอยู่ใกล้ชิดกันเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีการตะโกนเสียงดังหรือดื่มแก้วเดียวกัน ความเห็นส่วนตัวจึงอยากให้ผ่านเทศกาลสงกรานต์ไปก่อน เราพิจารณาและเตรียมการอยู่แล้ว หากตัวเลขยังทรงตัวอยู่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และอีก 2-3 เดือนยอดติดเชื้อจะลดลง หากเราควบคุมทุกอย่างให้ดีช่วงเดือน ก.ค. ไปแล้วจะสามารถเปลี่ยนโควิด 19 มาเป็นโรคติดต่อทั่วไปเหมือนไข้หวัดได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ