14 มี.ค.2565 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ทุกสัปดาห์ ขณะนี้ประเทศไทยได้ถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว (Whole Genome Sequencing) โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจไป 2,000 กว่าตัวอย่าง พบเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ร้อยละ 99.7 ที่เหลือเป็นสายพันธุ์เดลต้าบางส่วน โดยเป็นเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 ร้อยละ 32.4 และสายพันธุ์ย่อย BA.2 เพิ่มจากร้อยละ 52 เป็นร้อยละ 68 โดยพบมากกว่าร้อยละ 50 ในทุกเขตสุขภาพ
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนข่าวที่ฮ่องกงพบสายพันธุ์ที่คาดว่าจะกลายพันธุ์มาจาก BA.2 เป็น BA.2.2 ที่พบว่ามีการกลายพันธุ์จุดสไปก์โปรตีน (spike protein) I1221T โดยส่วนนี้ ระบบข้อมูลจีเสด (GISAID) ยังไม่ได้ระบุชื่อไว้ ซึ่งต้องรอเวลาอีก 2-3 วัน น่าจะได้ข้อสรุปเรื่องชื่อ เบื้องต้นพบในฮ่องกง และอังกฤษ ทั้งนี้ ฮ่องกงกำลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากสายพันธุ์ BA.2.2 หรือไม่ ต้องเรียนว่า การที่ฮ่องกงผู้เสียชีวิตมากขึ้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสายพันธุ์ใหม่ที่พบ เนื่องจากเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ทั่วไป แพร่และติดเชื้อง่ายอยู่แล้ว เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น ระบบสาธารณสุขรองรับไม่ไหว ก็อาจทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงเร็วเกินไปที่จะบอกว่าสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ตามข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์ฯ ที่ส่งเข้าไปในจีเสด สอดคล้องว่าเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 ส่วนใหญ่ โดยพบประมาณ 4 ราย ที่กำลังวิเคราะห์รายละเอียดว่า อาจจะเข้าข่ายสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 แต่ด้วยจีเสดยังไม่ได้กำหนดรายละเอียด จึงต้องมีการติดตามใกล้ชิด
นพ.ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังไม่ต้องวิตกกังวล เพราะยังไม่มีสัญญาณอะไรน่ากังวล สิ่งสำคัญคือ ต้องเฝ้าระวังเพื่อตอบคำถาม 3 ข้อ ว่าแพร่เร็วกว่าหรือไม่ รุนแรงมากขึ้นทำให้เสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่ และหลบภูมิคุ้มกันหรือไม่ ตรงนี้ต้องใช้ข้อมูลมากกว่านี้ หากการกลายพันธุ์ไม่ได้กระทบ 3 ส่วนนี้ ก็อาจเป็นการกลายพันธุ์ทั่วไป ขอให้มั่นใจว่ากรมวิทยาศาสตร์ฯทำการเฝ้าระวังเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ส่วนที่ประเทศไทยกำลังวิเคราะห์ว่า มีผู้ติดเชื้ออาการใกล้เคียงสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 มี 4 รายนั้น เป็นต่างชาติ 1 ราย ที่เหลืออีก 3 ราย เป็นคนไทย อาการป่วยไม่พบปัญหาอะไร และยังไม่ชัดว่าจะใช่หรือไม่ ขอรอผลวิเคราะห์ที่จะออกมาในเร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 549 ราย ดับเพิ่ม 1 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2567
โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้
เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป
สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว
สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ
ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่