พบผู้ป่วยโควิด 'ปอดอักเสบ' เพิ่ม แนวโน้มตายสูงขึ้น เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง สูงอายุ โรคเรื้อรัง

10 มี.ค.2565 - พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า ได้มีการแจ้งผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ได้เห็นชอบมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 ไปสู่โรคประจำถิ่น แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ระยะขาขึ้น เป็นระยะที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ที่ต้องมีการควบคุมลดการระบาดให้ได้มากที่สุด ระยะที่ 2 ระยะคงที่ เป็นระยะที่ผู้ติดเชื้อจำนวนทรงตัว ระยะที่ 3 ระยะลดลงต่อเนื่อง และระยะที่ 4 ออกจากการเป็นโรคระบาดสู่โรคประจำถิ่น ตรงนี้ต้องพิจารณาการได้รับวัคซีน การครองเตียง อัตราการเสียชีวิต รวมถึงการจัดทำแผนรองรับ และแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรการ โดยมาตรการรองรับแต่ละระยะนั้นจะต้องปรับได้ตามสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เพราะเราอยู่กับโควิด-19 มา 2 ปีกว่า มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจะมีการจัดการมาตรการให้ครอบคลุมทุกแง่มุมในการเปลี่ยนผ่านไปยังโรคประจำถิ่นได้อย่างราบรื่น

พญ.สุมนี กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์ในประเทศพบว่าผู้ป่วยปอดอักเสบยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และมีผู้ป่วย 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบใส่เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างชัดเจน วันนี้ยอด 74 ราย ถือเป็นนิวไฮ ซึ่งต้องศึกษาผู้เสียชีวิตทุกวัน การระบาดรอบล่าสุดอัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 0.20% ของผู้ติดเชื้อ ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบทรงตัว จึงขอเตือนให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ขอให้มีการนำผู้มีความเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและโรคเรื้อนรังไปรับวัคซีนเข็มที่ 1 2 และ 3 โดยคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเกิน 3 เดือน ขอให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้เลย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข และศบค.ชุดเล็ก ได้พูดคุยกันถึงการรณรงค์เร่งรัดฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ตั้งเป้าการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุก่อนเทศกาลสงกรานต์ให้ครอบคลุม 70% โดยกำหนดให้สัปดาห์ที่ 21-31 มี.ค.เป็นสัปดาห์ของการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กลุ่มดังกล่าว จึงขอความร่วมมือประชาชนคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้ทำแผนเชิงรุกกับกระทรวงมหาดไทย และเร่งสำรวจผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้มารับวัคซีนโดยเร็ว เพราะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้มาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ

ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่