ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรบ่งบอกผลกระทบต่อผู้ว่าฯและธนาคารแห่งประเทศไทย พฤหัสบดีกาลกิณีจร (5) เดินในราศีเมษทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวเดิม (๑) ระหว่าง 21 เมษายน 2566 - 21เมษายน 2567 พฤหัสบดีมนตรีจร (5) เดินในราศีพฤษภทับพระอังคารดวงเดิม (๓) ระหว่าง30เมษายน 2567 - 13 พฤษภาคม 2568 พระเสาร์จร (7) เดินในราศีกุมภ์ ส่งกระแสถึงราศีเมษถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม (๑) เดินผิดปกติระหว่าง 19 มิถุนายน - 1 ธันวาคม 2567
ตั้งแต่วันเกิดเมืองที่21เมษายนปีที่แล้วถึงวันเกิดเมืองปีนี้คือ21เมษายน 2567 เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มที่เมืองต้องฆาฎร้ายทางโหรที่เรียกว่าปัสสะวะชีโว(พฤหัสบดีกาลกิณีจรทับลัคนาเมือง)
ฆาฎนี้ส่งผลด้านลบทางระเบียบ-กฎหมายต่อเมืองที่เหมือนไร้ขื่อแป-ไร้หลักหลายเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีนักโทษเด็ดขาดชาย-ชั้นสิบสี่โรงพยาบาลตำรวจ อีกทั้งเกิดเรื่องด้านลบทางระเบียบ-กฎหมายกับบุคคลสำคัญ-ผู้นำ-คนมีมียศศกดิ์หลายคน-หลายตำแหน่งนั้น
ผู้เขียนก็ลุ้นตัวโก่งว่าในระหว่างหนึ่งปีที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้เหตุร้ายใดๆจะเกิดกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิและธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติหรือไม่?
ทั้งนี้ด้วยข้อบ่งชี้ทางโหรที่ว่าฆาฎร้ายที่เกิดกับลัคนาเมือง เล่นงานธนาคารและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าอย่างจังด้วยเช่นกัน (พฤหัสบดีกาลกิณีจรทับพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง๑ตัวแทนธนาคารและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่กุมลัคนาเมืองอยู่ในราศีเมษ)
ถ้าเป็นคนก็ร้ายแรงเข้าข่าย…ท่านว่าชาตาฆาฎ ต้องอุบาทว์ร้ายนักหนา ทุกข์โศกโรคบีฑา ชีพชีวาอาจวอดวาย มิฉะนั้นบุตรภรรยา ทรัพย์โภคาจักเสียหาย พรากพลัดจัดกระจาย ป่นปี้ร้ายไม่เป็นอัน…เลยทีเดียว
พูดง่ายๆคือผู้ว่าฯหรือคนในองค์กรอาจกระเด็นกระดอนไปคนละทางสองทาง เพราะเจอเรื่องอุบาทว์บีบและเล่นงานเอา
แต่โชคดีที่หนึ่งปีที่ผ่านมาดวงชะตาเมืองมีเกณฑ์ช่วยคานไว้ถึงสองชั้น ทำให้องค์กรนี้และผู้นำแม้จะโดนเรื่องอะไรก็ตีฝ่าได้ด้วยหลักโหรคือ
1.ผู้ว่าฯและธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ในระหว่างเข้มแข็งด้วยหลักการ-ความรู้-วิชาการ(พระเสาร์จร7ที่ราศีกุมภ์-ภพสิบเอ็ด-ลาภะดวงเมือง-สาดแสงถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม๑-ได้คู่อสิติธาตุดิน-ผลรุ่งเรืองด้วยความรู้)อันจะเห็นว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามยืนบนหลักการ เช่นเรื่องดอกเบี้ยนโยบายที่ถูกส่งสัญญาณบีบจากนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคุณเศรษฐา ทวีสินเป็นระยะๆให้ลดลง ก็ได้รักษาท่าทีโดยไม่นำตัวบุคคลหรือองค์กรเข้าปะทะด้วยให้เป็นความรับผิดชอบคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง.แทน
และแม้มีการปลอบ-ขู่เป็นระยะๆ แต่นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ระวังตัวแจไม่ให้ก้าวล่วงอำนาจของธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการนโยบายการเงินเพราะอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นได้หากใช้ท่าทีมากเกินไปจนอันตรายกับประเทศ-ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตามโฉลก…ถ้อยคำจะถึงตรู ศัตรูจะปองผลาญ แม้นหมิ่นประมาทการ ก็จะเป็นภยันตราย..(พระเสาร์จร7ถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม๑)
2.ดาวที่ทำให้ผู้ว่าฯและธนาคารแห่งประเทศไทยต้องฆาฎร้าย(คือพฤหัสบดีกาลกิณีจร5)ไม่ว่าจะร้ายแรง-กดดันแค่ไหนแต่ก็เป็นคู่มิตรใหญ่เกื้อกูลกันกับดาวตัวแทนผู้ว่าฯและธนาคารแห่งประเทศไทย(คือพระอาทิตย์๑)ตามที่คนเรียนโหรท่องกันคือ…อาทิตย์เป็นมิตรกับครู…
อีกทั้งเมื่อถูกทั้งขู่-ปลอบมากเท่าใด คนธนาคารแห่งประเทศไทยก็ดูคล้ายจับมือสามัคคี-เป็นมิตรกันมากเท่านั้น
เอาละเมื่อผ่านพ้น21เมษายน 2567มาได้ทางโหรถือว่าผู้ว่าฯและธนาคารแห่งประเทศไทยพ้นระยะฆาฎร้ายได้อย่างสวยงาม และความเข้มแข็งก็บังเกิดตามมาเช่น
วันที่30เมษายน 2567 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยดร.เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ ได้รับมอบทองคำจำนวน 12.5 กิโลกรัม จากหลวงปู่คลาด ครุธัมโม วัดป่าบ้านใหม่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ประธานสงฆ์และผู้แทนคณะศิษยานุศิษย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ซึ่งทองคำดังกล่าว เป็นทองคำที่ได้รับจากการจัดงานบุญประเพณี "ผ้าป่า 12 เมษาฯ สืบต่อแขนงคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา" ตามเจตนารมณ์ของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อสมทบเข้าเป็นทุนสำรองเงินตราพร้อมได้รับกำลังใจเพียบ
แต่ขณะเดียวกันแรงกดดันจากการเดินหน้าแจกเงินหมื่น-กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก็แรงจัดด้วยเช่นกัน
จึงต่อไปนี้แม้จะพ้นฆาฎร้าย และเพิ่มความเข้มแข็งด้วยวิชาการ-ความรู้-หลักการต่อไป แต่เคราะห์จากเกณฑ์อื่นยังจะมีมาท้าทายเป็นระยะๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งด่านที่เริ่มตั้งแต่ประมาณ19มิถุนายน-1ธันวาคม2567ที่คาดว่าเป็นระยะของการปรับครั้งใหญ่ในรัฐบาลหรือพรรคร่วมหรือนโยบาย(พระเสาร์จร7เดินผิดปกติ)เป็นไปได้ว่าผู้ว่าการ-ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโดนหางเลขไปด้วย เพียงแต่จะระดับใดเท่านั้น
แต่ไม่ว่าสถานการณ์-ตัวบุคคลจะผันแปรไปเยี่ยงใด-ลมการเมืองจะพัดพาแรงขนาดไหน เชื่อว่าองค์กรนี้ยังเข้มแข็งจะเป็นความหวังให้เพิ่งพิงได้ด้วยวิชาการ-หลักการ-มืออาชีพไปถึงประมาณ14กุมภาพันธ์2569 (พระเสาร์จร7ที่ราศีกุมภ์ยังส่งกระแสสร้างคู่อสีติธาตุไปยังพระอาทิตย์๑ที่ราศีเมษ)
ส่วนตัวบุคคลนั้นก็ดังที่ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิกล่าวในวันรับมอบทองคำคือ นักการเมืองมาแล้วไป-ผู้ว่าฯมาแล้วไปแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอยู่
ฟองสนาน จามรจันทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนามังกรกับเค้าโครงชีวิต ปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ลูกหลาน-ความรัก-ความหวัง ตลอดปียังอดเอาทุกข์นำหน้าชีวิตไม่ได้- ตั้งแต่พฤษภาคมเป็นต้นไประวังป
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
ลัคนาพิจิกกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่คู่ครองและหุ้นส่วน หลังพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ชีวิตรับแนวลบเหตุการณ์ใหญ่ทยอยรออุบัติรอบทิศ เตรียมกลั่นพลังทั้งก๊อกสำรองสู้สุดๆ เพราะก๊อกหลักหรือดาวใหญ่ออกแนวลบ
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ลัคนากันย์กับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการทำตามความฝันและเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางชีวิต ตลอดทั้งปีเจอเรื่องแสบ-เศร้าแทรกในชีวิตสองช่วง แต่ไม่เกินกำลังรับมือ แถมสู้กลับแล้วได้อะไรดีๆ