ปูตินกล้ากดปุ่มนิวเคลียร์ไหม?

พอผมได้ยินรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย Sergey Lavrov พูดประโยคนี้ก็พลอยหนาวไปด้วย

แกบอกว่าถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มันคือสงครามนิวเคลียร์แน่นอน

และมันจะทำลายล้างโลกไปในพริบตาเช่นกัน

สอดคล้องกับที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันได้สั่งให้ “กองกำลังป้องปรามนิวเคลียร์” ของเขาอยู่ใน “สถานะพร้อมปฏิบัติหน้าที่” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกก็ตกอยู่ในภาวะประหวั่นพรั่นพรึงอย่างปฏิเสธไม่ได้

สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มประเมินว่าประเทศไหนมีคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์เท่าไหร่

เพื่อวิเคราะห์ว่าหากเกิดสงครามนิวเคลียร์จริง ใครจะได้เปรียบเสียเปรียบ

ทั้งๆ ในความเป็นจริงแล้วหากเกิด “สงครามโลกครั้งที่ 3” คงจะเป็นการทำลายล้างที่กว้างขวางที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา

และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับมนุษยชาตินั้นคงจะเกินกว่าที่ใครจะสามารถคาดการณ์หรือประเมินได้

นักวิเคราะห์จึงมองว่านี่เป็นเพียง “คำขู่” ของปูตินในภาวะที่เขาเห็นว่าโลกตะวันตกกำลังเริ่มส่งอาวุธและความช่วยเหลือทางด้านทหารมาให้กับยูเครนอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งการรุกคืบของทหารรัสเซียต่อเมืองใหญ่ๆ ของยูเครนในช่วงวันแรกๆ ของการเปิดศึกนั้นไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นจะ “ปิดเกม” ได้อย่างที่มอสโกคาดหวังเอาไว้

แต่ก็ยังมีคำถามว่า หากสถานการณ์เข้าถึงจุดที่ปูตินคิดว่าตัวเอง “จนมุม” เขาจะกล้ากดปุ่มนิเคลียร์หรือไม่

แต่ก่อนนี้ปูตินเคยทำอะไรหลายเรื่องที่คนอื่นคาดไม่ถึงมาก่อน ดังนั้นจึงเริ่มจะมีนักวิเคราะห์ตั้งประเด็นว่าเรื่องกดปุ่มนิวเคลียร์ก็อย่าได้ประมาท

ที่ผ่านมาผู้นำรัสเซียคนนี้เคยสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งโลกด้วยการทำสิ่งที่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ

เช่น การผนวกคาบสมุทรไครเมีย

หรือการจุดชนวนสงครามในภูมิภาคดอนบาส

หรือแม้กระทั่งการส่งทหารรัสเซียเข้ารุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

นักวิเคราะห์ของบีบีซีตั้งข้อสังเกตว่า การที่ปูตินสั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียเตรียมพร้อมเป็นพิเศษ ก็เท่ากับส่งสัญญาณว่าเขาอาจใช้การโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เป็น “ไม้ตาย” ในการจัดการกับยูเครน

ถ้าอ่านถ้อยแถลงของปูตินมาตลอดก็พอจะเห็นว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้ความน่ากลัวของสงครามนิวเคลียร์มาข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม

ตอนที่เขาเปิดฉากปฏิบัติการบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบนั้น ปูตินก็ส่งเสียงคำรามแล้วว่า

"ใครก็ตามที่คิดจะเข้าแทรกแซงจากภายนอก หากลงมือทำจริงจะต้องพบกับผลที่ตามมา ซึ่งจะรุนแรงใหญ่หลวงยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เคยพบมาในประวัติศาสตร์"

หลายคนอาจจะมองว่านั่นเป็นลีลาและท่าทีของปูตินที่อาศัยความกร้าวมากดดันฝ่ายตรงกันข้าม

บ่อยครั้งเขาอาจพูดอะไรเพียงเพื่อตอบสนองความสะใจของผู้คนในบ้านมากกว่าที่จะคิดว่าจะทำอย่างที่เขาพูดออกมาได้

เช่น ปูตินเคยบอกว่าถ้าไม่มีประเทศรัสเซีย โลกใบนี้จะมีไว้ทำไม

บางคนตีความว่าปูตินกำลังต้องการจะบอกว่า ถ้าโลกตะวันตกต้องการจะทำลายล้างรัสเซีย...เขาก็พร้อมที่จะทำสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดเพื่อลากเอาส่วนอื่นๆ ของโลกลงนรกแห่งหายนะไปด้วย

อาจจะฟังดูเป็นเรื่องเพียงแค่ขู่ให้กลัว แต่ความหมายของถ้อยคำเหล่านี้จากปูตินก็คือ การบอกว่ารัสเซียไม่ล้อเล่นนะ หากมอสโกไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็พร้อมจะทำลายทุกอย่างให้พินาศย่อยยับไปต่อหน้าต่อตาได้เช่นกัน

บีบีซีอ้างผู้เชี่ยวชาญว่า ปูตินเคยพูดอะไรแบบนี้ในสารคดีเรื่องหนึ่งที่ออกเผยแพร่เมื่อปี 2018

เขาเตือนว่าใครที่คิดจะทำลายล้างรัสเซียก็ต้องตระหนักว่า หากผู้นั้นลงมือทำจริง รัสเซียมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะตอบโต้ “แม้จะต้องทำให้เกิดหายนะต่อมวลมนุษยชาติและโลกใบนี้ก็ตาม”

วันนี้ปูตินรู้สึกว่ากำลังถูกต้อนให้ติดมุมหรือไม่หากเขาไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการเปิดสงครามกับยูเครน...นั่นคือประเด็นหลักที่ควรจะพิจารณา

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าปูตินกำลังอยู่ในจุดที่ถูกกดดันและยากลำบาก เพราะการบุกยูเครนยังไม่ประสบผลสำเร็จตามที่คาดหวัง

อีกทั้งเมื่อถูกโลกตะวันตกประกาศมาตรการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้นทุกที เขาก็เริ่มเดือดร้อน

และทันทีที่ธนาคารกลางรัสเซียถูกอายัดทรัพย์สินตามมาตรการคว่ำบาตร ระบบการเงินของรัสเซียก็จะเข้าสู่โหมดของการพังทลายได้

ยิ่งเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลกับดอลลาร์ร่วงหล่นลงกว่า 30% จนธนาคารกลางรัสเซียต้องประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 9.5 เป็น 20% ชั่วข้ามคืน ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพความอ่อนแอของเศรษฐกิจรัสเซียอย่างชัดแจ้ง

ภาพของคนรัสเซียเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อไปเบิกเงินธนาคาร เพราะตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก ก็ยิ่งทำให้ปูตินเห็นว่าความไม่พอใจของชาวบ้านรัสเซียอาจจะลามไปกว้างขวางจนสร้างความสั่นสะเทือนให้กับบัลลังก์แห่งอำนาจของตน

ความเชื่อมั่นในตัวเองสูงส่งกับความบ้าระห่ำในการตัดสินใจทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงมากๆ นั้น บางทีก็มีเส้นแบ่งบางๆ เท่านั้น

ยิ่งหากถามว่า มีใครรอบๆ ปูตินที่สามารถเตือนสติเจ้านายไม่ให้ถลำตัวทำอะไรบ้าคลั่งหรือไม่ก็ยิ่งน่ากังวล

เพราะหาคนที่หาญกล้าเตือนปูตินอย่าได้แม้แต่จะคิดเรื่องใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ยากเต็มที

ผมสงสัยด้วยซ้ำไปว่า หาก สี จิ้นผิง เตือนสติสหายผู้ใกล้ชิดคนนี้ ปูตินจะเชื่อเพียงใด...ในยามที่ผู้นำรัสเซียคนนี้อาจจะกำลังบอกตัวเองว่า

“ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าข้าพเจ้า”

น่ากลัวครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ