ภาพนี้เซเลนสกีเจอปูตินเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2019 ที่กรุงปารีส
ทั้ง 2 เจอกันเพื่อเจรจาการหยุดหยิงที่ยูเครน รวมถึงเรื่องแลกเปลี่ยนเชลยศึก
แต่ก็ไร้ผล
ทั้ง 2 คนเจอกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่มีการจับมือทักทายกัน ต่างไม่มองหน้ากัน
เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันตึงเครียดที่วันนี้กลายเป็นสงครามที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
ผู้นำยูเครนคนนี้ใช้ทุกวิถีทางที่จะเป็นผู้นำประเทศในการต่อต้านการรุกของทหารรัสเซียเกินความคาดหมายของผู้คน
เพราะเขาเคยเป็นนักแสดงตลก ไม่เคยเจอความท้าทายที่หนักหนาขนาดนี้
แต่เมื่อ Volodomir Zelensky ต้องเจอกับการบุกครั้งใหญ่ของรัสเซียตามคำสั่งของประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin เขากลับแสดงตนเป็นผู้ลุกขึ้นนำการต่อสู้อย่างน่าทึ่ง
เซเลนสกีประกาศปักหลักสู้ในประเทศ ไม่หนี ไม่ถอย และไม่ยอมประนีประนอม
เขาประกาศว่าสหรัฐฯ ได้เสนอจะช่วยให้เขาลี้ภัยไปต่างประเทศ และพร้อมจะรับรองรัฐบาลพลัดถิ่นของเขา
"ผมปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ เพราะสิ่งที่ผมต้องการตอนนี้คือกระสุน ไม่ใช่รถพาผมหนี"
เขาประกาศให้ประชาชนลุกขึ้นสู้ แจกปืนยาวกว่า 18,000 กระบอก ให้ประชาชนลุกขึ้นสู้ทหารรัสเซีย
เขาปลุกระดมให้ประชาชนทำระเบิดขวดเพื่อสู้กับปืนใหญ่และขีปนาวุธของทหารรัสเซีย
เขาใช้มือถือถ่ายเซลฟีกับผู้นำรัฐบาลคนอื่นๆ เพื่อบอกกล่าวกับประชาชนและชาวโลกว่าเขายังอยู่ที่กรุงเคียฟและจะยืนหยัดต่อสู้จนนาทีสุดท้าย
เซเลนสกีต่อสายไปคุยกับผู้นำยุโรปอีก 27 ประเทศของสหภาพยุโรป ถามว่า "เมื่อไหร่จะให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต"
เขาบอกว่าผู้นำเหล่านั้นเงียบกริบ ไม่ตอบ เพราะมีความกลัว
เซเลนสกีสำทับกับผู้นำยุโรปเหล่านั้นว่า "ถ้าท่านไม่รีบส่งความช่วยเหลือมาให้เรา วันนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ท่านเห็นผมยังมีชีวิตอยู่"
เขาประกาศตั้ง "กองกำลังนานาชาติ" ด้วยการขอให้คนต่างชาติทั่วโลกสมัครมาช่วยยูเครนรบด้วยการไปสมัครที่สถานยูเครนในประเทศต่า ๆ ทั่วโลก
เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการต่อสู้กับต่างชาติที่เข้ามารุกราน
เซเลนสกีจะยืนหยัดได้นานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ แต่ดูเหมือนความพยายามของทหารรัสเซียที่จะยึดกรุงเคียฟในช่วง 2-3 วันแรกนั้นเกิดอาการสะดุด ไม่อาจจะ "ปิดเกม" ได้เร็วอย่างที่ปูตินวางแผนเอาไว้
พอปูตินประกาศว่าพร้อมจะเจรจากับยูเครน และจะส่งคณะตัวแทนไปที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เพื่อนบ้านทางเหนือของยูเครน
แต่เซเลนสกีโต้ว่าเขาพร้อมจะเจรจา แต่ไม่ใช่ที่เลบารุส ซึ่งเป็นจุดที่รัสเซียใช้ยิงขีปนาวุธใส่ยูเครน
"วอร์ซอ, อิสตันบูล, บากู...เราเสนอให้รัสเซียจัดการเจรจาในเมืองเหล่านี้ หรือเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่จุดที่ปล่อยขีปนาวุธใส่เรา..." เขาบอก
แต่โอกาสของการเจรจาระหว่างยูเครนกับรัสเซียยังไม่เกิดขึ้นง่ายๆ
ตราบที่ทหารรัสเซียยังไม่สามารถยึดครองเมืองหลวงเคียฟได้อย่างเบ็ดเสร็จ
และตราบที่ปูตินยังมีเงื่อนไขก่อนการประชุมว่ารัสเซียต้องการให้ยูเครนเป็นประเทศ "ปลอดทหาร" (demilitarized) และ "เป็นกลาง" (neutral) ตามคำนิยามของปูติน
ทั้งๆ ที่ในขณะเดียวกันปูตินก็เรียกร้องให้กองทัพยูเครนก่อรัฐประหารเพื่อโค่นเซเลนสกี
ปูตินบอกว่าถ้ากองทัพยูเครนยึดอำนาจได้ การเจรจากับรัสเซียจะง่ายขึ้น
เป็นภาพย้อนแย้งที่ทำให้เห็นว่าการเจรจาระหว่างปูตินกับเซเลนสกีไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
เพราะด้านหนึ่งปูตินขอเจรจา
อีกด้านหนึ่งปูตินต้องการให้กองทัพยูเครนโค่นเขา
เซเลนสกีบอกว่า เขารู้ว่าทหารรัสเซียได้วางตัวเขาเป็น "เป้าหมายหมายเลขหนึ่ง"
และครอบครัวของเขาเป็น "เป้าหมายหมายเลขสอง" หากทหารรัสเซียยึดเมืองหลวงได้สำเร็จ
เซเลนสกีคือนักการเมืองและนักแสดงตลก ที่ประชาชนเลือกเขาเป็นผู้นำคนใหม่
เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนเมื่อ 20 พ.ค.2019
โดยชูปัญหาเร่งด่วนคือ การยุติความขัดแย้งกับกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ทางตะวันออกของประเทศ
เซเลนสกีไม่มีประสบการณ์การเมืองมาก่อน ที่จะชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนล้นหลามเอาชนะประธานาธิบดีเปเตร โปโรเชนโก ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2014
เขาประกาศว่า "เราต้องเป็นเหมือนชาวไอซ์แลนด์ในเรื่องฟุตบอล เป็นเหมือนชาวอิสราเอลเรื่องการปกป้องดินแดนตัวเอง และเป็นเหมือนชาวญี่ปุ่นเรื่องเทคโนโลยี"
ตอนนั้นเขาประกาศว่า
"งานแรกของเราคือบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในดอนบาส (ภูมิภาคทางตะวันออกของประเทศที่กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียควบคุมอยู่)"
แต่ผ่านมาไม่ถึง 3 ปี แคว้น Donetsk และ Luhansk ก็ประกาศแยกตัวออกจากยูเครน
โดยที่ปูตินก็ประกาศรับรองอย่างรวดเร็วฉับพลัน ก่อนจะส่งทหารรัสเซียบุกเข้ายูเครนจนกลายเป็นสงครามเขย่าขวัญโลกวันนี้ด้วย และตกลงให้จัดในวันนี้แทน
เซเลนสกีแสดงในซีรีส์ตลกเสียดสี Servant of the People ("คนใช้ของประชาชน") ซึ่งเป็นรายการที่ได้ความนิยมต่อเนื่องอย่างยาวนาน
ที่เป็นเรื่องแปลกไม่น้อยคือ เขาแสดงบทเป็นประธานาธิบดีก่อนจะได้เป็นประธานาธิบดีตัวจริง
ในซีรีส์ชุดนั้น เขาเล่นเป็นครูซึ่งอยู่ๆ ก็ได้รับเลือกเป็นผู้นำสูงสุดประเทศ หลังจากวิดีโอซึ่งเขาสบถด่าเรื่องปัญหาคอร์รัปชันได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง
ต่อมาเซเลนสกีตั้งพรรคการเมืองชื่อเดียวกันกับชื่อพรรคในละคร
วันนี้เขาต้องเล่นบทชีวิตจริงในสงครามที่เขาและคนส่วนใหญ่ในโลกไม่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ