ปี65เศรษฐกิจไทยยังไปต่อ

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2565 ว่าจะขยายตัวในกรอบ 3.5-4.5% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 4% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ, การฟื้นตัวที่ดีขึ้นของภาคการท่องเที่ยว โดยมีการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ที่ระดับ 5.5 ล้านคน, แรงขับเคลื่อนจากการลงทุนของภาครัฐ และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออก โดยมีการประเมินว่าตัวเลขส่งออกไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ระดับ 4.9% แต่การส่งออกที่ยังคงเติบโตนั้นก็ยังมีความเสี่ยงจากปัญหาชะงักงันของห่วงโซ่การผลิตที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางการกลายพันธุ์ของไวรัส, การเพิ่มขึ้นของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อตามการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ธนาคารกลางของประเทศสำคัญๆ ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ, ฐานะการเงินของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่ยังคงมีความเปราะบาง ภายใต้สถานการณ์ที่ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่

อีกทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น จะส่งผลให้ภาคธุรกิจมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีหนี้สินด้วย รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก

ขณะที่ ภาครัฐเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ระดับ 3-4% โดย “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน” ยืนยันว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ยังมีสัญญาณเป็นบวก และเชื่อว่าจะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวฟื้นขึ้นมาอยู่ในโซนบวก หลังจากไทยกลับมาเปิดประเทศอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติค่อยๆ ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

โดย กระทรวงการคลังเองก็ออกมาการันตีว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และหลังจากนี้เข้าสู่ช่วงทยอยฟื้นตัว พร้อมยอมรับอีกว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้อาจจะกินระยะเวลายาวนานกว่าวิกฤตครั้งก่อน ๆ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลายในได้ในระดับหนึ่งแล้ว

คำถามว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ดีแค่ไหน คงขึ้นอยู่กับการบริหารนโยบายด้านเศรษฐกิจและการควบคุมโรคว่าทำได้อย่างเหมาะสม ทำได้อย่างดี และทำได้อย่างสมดุลแค่ไหน หากรัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจโดยไม่มีข้อติดขัด ขัดข้อง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะกลับมาเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 4% “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง” ระบุ

ด้าน Economic Inteligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ : SCB EIC ยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะฟื้นตัวในอัตรา 3.2% ตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ทั้งภายในและนอกประเทศ แม้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปีจะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนและแรงกดดันจากสถานการณ์เงินเฟ้อเป็นปัจจัยฉุดรั้งการใช้จ่ายในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน แต่ในภาพรวมเศรษฐกิจจะยังคงฟื้นตัวได้จากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่การส่งออกสินค้าจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยต่อไป!!

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางปัจจัยบวกที่มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ให้ยังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงให้ต้องติดตาม โดยเฉพาะสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน ที่หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นก็จะส่งผลกระทบกับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ที่หลายหน่วยงานต่างก็ออกมาแสดงความเป็นห่วง เพราะอาจกลายเป็น “ระเบิดเวลาลูกใหญ่” ที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยสภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการหารือเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวเร็วๆ นี้.

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม