อย่าอวดเก่งกับสงคราม

สงครามไม่เคยปรานีใคร
แต่สงครามเป็นเหรียญสองด้าน
ด้านหนึ่งสร้างความขัดแย้ง มนุษย์ฆ่าฟันกันเอง

อีกด้านต้องก่อสงครามเพื่อยุติความขัดแย้ง
โดยภาพรวมประเทศที่อยู่ในสงคราม ต้องพบกับวิกฤตซ้อนวิกฤต มีการบาดเจ็บล้มตาย ของทหารและพลเรือน รวมทั้งเศรษฐกิจพังพินาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มนุษย์ก็ก่อสงครามกันเรื่อยมาโดยเฉพาะชาติมหาอำนาจ ผู้จุดไฟสงคราม มักอ้างเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป

กรณี รัสเซีย บุก ยูเครน มองในแง่ความวิบัติที่มวลมนุษยชาติต้องเจอ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ อเมริกา บุก อิรัก
เหตุผลการก่อสงคราม ล้วนเกิดจากชาติมหาอำนาจเป็นผู้กำหนด

วันข้างหน้า จีน อาจบุก ไต้หวัน เพราะกรณีไต้หวันไม่ต่างจากยูเครนมากนัก ปฏิกิริยาของจีนจึงถูกจับตามองจากชาติตะวันตก จีนไม่ยอมประณามรัสเซีย แต่โทษอเมริกาเป็นผู้กระตุ้นให้เกิดสงคราม เพราะให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ยูเครน

ขณะที่รัสเซียมีอิสระสามารถวางยุทธศาสตร์ให้เป็นไปตามผลประโยชน์ของตัวเองได้ เหมือนกับที่อเมริกาทำในหลายภูมิภาคทั่วโลก

หันมาทางไต้หวัน ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน และ นายกรัฐมนตรีซู เจิงชาง ประณามรัสเซียที่รุกรานอธิปไตยของยูเครน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ไต้หวัน ดินแดนเล็กๆ ต้องออกมาแสดงท่าทีเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เพราะสถานะไม่ต่างจากยูเครนเท่าไหร่

แต่สำหรับไทย ไม่มีความจำเป็นต้องออกตัวแรงต้องระวัง เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนอน อย่าเอากระดูกมาแขวนคอเป็นอันขาด กระทรวงการต่างประเทศของไทยออกแถลงการณ์ แสดงท่าทีได้ถูกต้องแล้ว

"...ประเทศไทยได้ติดตามพัฒนาการในยูเครนด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทวีความตึงเครียดในทวีปยุโรป
ทั้งนี้ เราสนับสนุนความพยายามที่ยังคงดำเนินอยู่เพื่อแสวงหาการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติผ่านการหารือ..."

คนอย่าง "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" ยังมองออกว่ากรณียูเครนเป็นเรื่องที่มีความลำบาก เราไม่อาจยอมรับ “ข่าวสาร” จากสื่อตะวันตกได้ล้วนๆ

"...ขณะเดียวกันเราก็ไม่ควรสนับสนุนให้รัสเซียแก้ปัญหาด้วยสงคราม ท่าทีของกระทรวงต่างประเทศ (และของไทย) ที่ไม่พยายามเข้าไปเกี่ยวข้องนับว่าถูกต้องแล้ว..."

ถือว่า สมศักดิ์ เจียม มองปัญหานี้ได้ทะลุเพราะในความเป็นจริงหลายประเทศที่มีชื่อว่าร่วมก่อสงครามครั้งนี้ ไม่ยอมลงไปในสนามรบด้วยซ้ำ เนื่องจากเกรงผลกระทบในหลายด้านที่จะตามมานั่นเป็นที่มาว่า ทำไม ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ต้องกล่าวผ่านวิดีโอถึงประชาชนทั่วประเทศว่า "เราถูกปล่อยให้ปกป้องประเทศของเราเองเพียงลำพัง"

พร้อมถามว่า "ใครพร้อมสู้เคียงข้างเราบ้าง ผมไม่เห็นมีใครเลย ใครพร้อมมอบคำรับประกันยูเครนในฐานะสมาชิกนาโตบ้าง ทุกคนต่างกลัวกันหมด" นี่สะท้อน พวกยุให้รบมีเยอะ แต่พอรบจริง หายหัว
อีกมุมหนึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่นาโตและอเมริกา ไม่ส่งทหารร่วมทำสงครามด้วย หาไม่แล้วการสู้รบยืดเยื้อยาวนานแน่นอน

เมื่อยูเครนรบอย่างโดดเดี่ยวข้อดีคือ การเจรจาหยุดยิงจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน ว่าไปแล้วกรณีนี้คล้ายๆ กับความขัดแย้งทางการเมืองในไทยมีพวกยุเด็กสามนิ้วล้มเจ้า พอถึงเวลาเด็กเข้าแถวติดคุก ส่วนผู้ใหญ่จอมเสี้ยมนั่งโวยวายในห้องแอร์ ชี้นิ้วสั่งให้คนนั้นคนนี้ทำตามที่ตัวเองต้องการครับ...สงครามรัสเซีย ยูเครน คนไทยแบ่งข้างถือหางรัสเซีย อเมริกา เปิดสงครามกันในโซเชียล ซัดกันมันหยด ไม่แพ้สงครามจริงๆ กันเลยทีเดียว

ในภาวะสงคราม ไม่มีประเทศไหนถูก ๑๐๐% เช่น เดียวกัน ไม่มีประเทศไหนผิด ๑๐๐% มันอยู่ที่ว่า ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นการแสดงท่าทีจึงควรระมัดระวัง แต่นักการเมืองไทย แกว่งตีนหาเสี้ยนจนเป็นนิสัย

"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" อยากเล่นบทพระเอก

"...ผมขอเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารจากยูเครนในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข..." แม้จะไม่เสียหายอะไรเพราะ "พิธา" ไม่ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย แต่ทัศนคติแบบนี้ หากวันข้างหน้ามีบุญวาสนาได้เป็นรัฐบาล "พิธา" จะพาประเทศติดกับดักความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจทันที อย่าทำเป็นเท่ครับ!

ประเทศเล็กๆ ถ้าไม่จำเป็นอย่างไต้หวัน อย่าเพิ่งไปเลือกข้างโดยที่คลื่นลมยังไม่สงบ เพราะเลือกข้างผิดคือหายนะ รัฐบาลปัจจุบัน วางบทบาทไทยต่อประเทศมหาอำนาจไว้ถูกต้องแล้ว มีการถ่วงดุลที่พอดี ใกล้ชิดอเมริกา สนิทกับจีน ซี้กับรัสเซีย ในคราวเดียวกันมีไม่กี่ประเทศครับที่ทำได้เช่นนี้ ก็ควรจะปล่อยอย่างที่ควรจะเป็นต่อไป เมื่อสงครามเกิดขึ้นแล้ว แม้ไม่ใช่สงครามของไทย แต่คนไทยต้องชั่งใจและหันมามองตัวเอง

มีคำถามก่อนหน้านี้ว่า "ทหารมีไว้ทำไม"

คำตอบก็เห็นตอนมีสงครามนี่แหละครับซื้ออาวุธทำไม คำถามนี้ถ้าไม่โลกสวยเกินไป ควรหันดูประเทศรอบบ้านซื้ออาวุธขนานใหญ่ เราไปห้ามเขาไม่ได้

ฉะนั้นเราก็ต้องมีอะไรมาป้องกันตัวเองบ้าง ไม่มีใครตอบได้ว่าวันหนึ่งในอนาคต สงครามรอบบ้านจะเกิดขึ้นหรือไม่ สำหรับกองเชียร์อเมริกา และรัสเซีย เชียร์ได้ครับ แต่ต้องรับรู้ความเป็นไปในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตด้วย

กรณี ยูเครน ใกล้เคียงกับ กรณี คิวบา ยุคสงครามเย็นค่อนข้างมาก ยูเครน ถูกอเมริกา นาโต ปั้นขึ้นมาเป็นกันชน วางขุมกำลังทางทหารจ่อคอหอยรัสเซีย ส่วน คิวบา ในอดีต โซเวียต ใช้เป็นฐานทัพจ่อรูจมูกอเมริกา

นี่คือที่มาของวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา เกิดความตึงเครียดในช่วงสงครามเย็น จนหวิดจะกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ การเผชิญหน้าเมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๐๕ ภาพถ่ายจากเครื่องบินสังเกตการณ์ U-2 ของอเมริกา เผยให้เห็นฐานปล่อยขีปนาวุธ กำลังถูกสร้างขึ้นในคิวบา ภายใต้การปกครองของฟิเดล คาสโตร เป็นการตอบโต้การสร้างฐานขีปนาวุธของสหรัฐอเมริกา ณ บริเวณพรมแดนของตุรกีและสหภาพโซเวียต หลังการเผชิญหน้าผ่านการโต้ตอบทางการทูตไม่นาน ทั้งประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี และนายกรัฐมนตรีนิกิตา ครุสชอฟ ต่างตกลงยินยอมที่จะถอนนิวเคลียร์ออกจากตุรกีและคิวบา เป็นอันจบวิกฤต

คราวนี้แค่สลับข้างนิดหน่อย อเมริกาไปจ่อคอหอยรัสเซียบ้าง สงครามนี้ไม่ใช่สงครามของไทยครับ ฉะนั้น นักการเมืองฝ่ายแค้นเพลาๆ ลงหน่อย พลาดพลั้งไปเท่ากับดึงคนไทยทั้งประเทศไปร่วมรับผิดชอบด้วย
"พิธา" กลับไปตามเรื่องที่ ตระกูล "จึงรุ่งเรืองกิจ" รุกป่า จะเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนมากกว่าครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อคอหอย 'ทักษิณ'

สงสัยกันเยอะพอควร... พรรคเพื่อไทยกับพรรคส้ม ถล่มกันเละในสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี มันของจริง หรือทะเลาะทิพย์

แบบนี้ต้องล้างคุกรอ

เสี่ยงคุกจริงๆ ครับ... วันนี้ไม่มีใครในรัฐบาลพูดเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท ผ่านระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูงสุดกันแล้ว

'ยิ่งลักษณ์' จะกลับไง

ตามที่จั่วหัวไว้เลยครับ "ยิ่งลักษณ์" จะกลับไทยด้วยวิธีไหน นิตยสาร Nikkei Asia อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของ "ทักษิณ ชินวัตร" ช่วงที่ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.

ผลาญเงินแผ่นดิน

รอวันฉิบหายครับ... มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบสิ้นคิดของรัฐบาล นึกอะไรไม่ออกก็แจกเงิน ผลาญงบประมาณแผ่นดินหมดไปกับความมักง่ายของนักการเมือง

'ป่าส้ม' ล้อมเมือง

นับเป็นมิติใหม่ทางการเมือง... ปกติเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ใคร่จะเป็นที่สนใจของประชาชนในวงกว้างทั้งประเทศนัก