จะสรุปว่าอยู่ยาวว์ว์ว์-อยู่ไม่ยาว อยู่นาน-อยู่ไม่นาน...ก็คงพูดลำบาก!!! สำหรับการตีตั๋วยาวระดับ 7 ปี- 8 ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮาทั้งหลาย เพราะเรื่องทำนองนี้มันออกจะหนักไปทางอินเตอร์แอคชั่น อินเตอร์แอคทีฟ อะไรประมาณนั้น คือมันเป็นสิ่งที่ปฏิสัมพัทธ์ ปฏิสัมพันธ์ ไปกับ อารมณ์-ความรู้สึก ของบรรดาทวยไทยในแต่ละราย ที่ย่อมผิดแผก แตกต่าง กันไปตามสภาพ...
---------------------------------------------------------
คือถ้าหากเป็นประเภท แดง-ไม่แดง...แต่ขอให้แรงเข้าว่า ก็น่าจะออกไปในแนว ไม่รู้อีกซักเมื่อไหร่...มันถึงจะไปซะที!!! เรียกว่า...แค่ล่าออกไป เลื่อนออกไป ซัก 1 ชั่วโมง-สองชั่วโมง เผลอๆ อาจอ้วกแตก-อ้วกแตนเอาง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงภายในปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหนๆ
ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากเป็นประเภท ติ่งบิ๊กตู่ ประเภท ไอโอ หรือประเภท องครักษ์เสื้อแพร ทั้งหลาย ก็อาจแค่ กระจิ๊ดเดียว เท่านั้นเอง เผลอๆ อยากให้อยู่ยาวว์ว์ว์ ยืดเยื้อคาราคาซังไปอีก 4 ปี 8 ปี หรือ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เอาเลยก็ไม่แน่ ความสั้น-ความยาว ในการดำรงฐานะ ตำแหน่ง แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ มันจึงเป็นอะไรที่เกี่ยวโยง เกี่ยวพัน กับสิ่งที่เรียกว่า อารมณ์-ความรู้สึก ของผู้คนแต่ละกลุ่ม แต่ละเหล่า หรือแต่ละคน อย่างมิอาจแยกออกจากกันได้เลย...
-----------------------------------------------------
เหมือนอย่างที่ อภิมหาพระ อีกราย...คือ หลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านได้แสดง ปริศนาธรรม ให้เป็นที่รับรู้ รับทราบ ต่อบรรดาญาติโยมทั้งหลาย ด้วยการหยิบท่อนไม้ที่วางอยู่ข้างๆ มาชูเอาไว้พร้อมกับตั้งคำถามประมาณว่า โยม...ไม้นี้สั้น-หรือยาว อะไรทำนองนั้น ก่อนที่จะแสดงธรรม เฉลยปริศนาธรรม ด้วยคำพูดต่อไปในประโยคที่ว่า...ถ้าสมมุติว่าโยมอยากได้ไม้ที่ยาวกว่านี้...ไม้นี้ก็สั้น แต่ถ้าหากว่าโยมอยากได้ไม้ที่สั้นกว่านี้....ไม้นี้ก็ยาว แล้วสรุปตบท้ายแบบแทงลงไปในใจดำ ใจแดงของบรรดาสาธุชนทั้งหลาย ด้วยคำถามที่ว่า...นี่เป็นเพราะอะไร??? นี่เป็นเพราะไม้ หรือเป็นเพราะความอยากของโยม...
--------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...เลยคงหนีไม่พ้นต้องสรุปว่า ระหว่าง ไม้ ในมือ หลวงพ่อชา กับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ บิ๊กตู่ น่าจะไม่ถึงกับผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่นัก คือทุกสิ่ง-ทุกอย่างมันคงขึ้นอยู่กับ ความอยากของโยม นั่นแหละเป็นสำคัญ หรือถ้าหากโยมดันเป็น ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น อะไรมันช่างจะยาวว์ว์ว์ฉิบหายไปได้ถึงปานนั้น!!! แต่ถ้าหากโยมดันถูกดัดแปลงสภาพให้กลายเป็น ติ่งบิ๊กตู่ หรือเป็น แรมโบ้-แรมบ้า ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ แม้จะบวกไปอีก 4 ปี 8 ปี หรือ 20 ปีก็เถอะ...ย่อมเป็นอะไรที่ กระจิ๊ดเดียว เท่านั้นเอง...
--------------------------------------------------------
ไม่ต่างอะไรไปจาก ความเร็ว-ความช้า อีกนั่นแหละ...ที่คุณปู่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ผู้ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพระอาจารย์ของ ด๊อกเตอร์เอ้ ไอน์สไตน์ หรือผู้ที่ถือเป็นเจ้าพ่อแห่ง ทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Theory of Relativity) ทฤษฎีอันว่าด้วย สภาวะที่เหตุการณ์หนึ่งๆ อาจปรากฏให้เห็นผิดแผกแตกต่างไปจากกันก็ย่อมได้ ถ้ามองจากคนละมุม คนละแห่ง คนละที่ มีแต่ต้องอาศัย อัตราความเร็วของแสง เท่านั้น เป็นตัวชี้วัด เปรียบเทียบ ถึงพอจะสรุปได้ว่าใครมองจากมุมไหน แห่งไหน และที่ไหนกันแน่!!! อีกทั้งถ้าหากใครก็ตาม...ที่ดัน เคลื่อนที่ เร็วเท่ากับความเร็วของแสง คือประมาณ 186,000 ไมล์ต่อวินาที หรือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที โอกาสที่จะสูญสลายหายตัวกลายเป็น พลังงาน ไม่ได้มีตัว มีตน เป็นวัตถุ สิ่งของหรือเป็นใครคนใด-คนหนึ่ง ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
--------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ในเมื่อท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านยังไม่ได้แปรสภาพเป็นพลังงาน ยังไม่ได้สูญสลาย หายไป จากมุมมองของใครต่อใคร ไม่ว่า ณ ที่ไหนต่อที่ไหน ยังคงยืนหยัด ท้าทาย แบบ ขอ...อย่ายอมแพ้แอ๊ๆๆ จนตราบเท่าทุกวันนี้ ก็จึงถือเป็นเรื่อง ไม่แปลก ที่แม้จะ 7 ปี 8 ปีเข้าไปแล้ว แต่การ ปฏิรูปตำรวจ ก็ยังไม่คิดจะไปไหน หรือไม่คิดจะไปไกลเกินไปกว่านี้ ซึ่งจะไปสรุปว่า เร็ว หรือ ช้า ก็คงเป็นไปไม่ได้อีกนั่นแหละ มีแต่ต้องยอม ทำใจ และ ทัมใจ ยอมรับสภาพไปตามมี-ตามเกิด ตราบใดที่ไม่ว่าใครก็ใคร ก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ ได้เท่ากับอัตราความเร็วของแสง อยู่แล้วแน่ๆ...
------------------------------------------------------
นี่...สรุปอย่างนี้ไม่รู้ว่าถูก-หรือผิด ได้เรื่อง-ไม่ได้เรื่อง เอาเป็นว่าคงต้องไป ปวดหัว เอาเองก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดบวก-คิดลบ หรือคิดยังไงกับท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ก็แล้วแต่ คงหนีไม่พ้นต้องหันไปทบทวน ใคร่ครวญ ถึงสิ่งที่เรียกว่า อารมณ์-ความรู้สึก ของตัวเองเอาไว้ให้จงหนัก ว่าสิ่งที่คิดๆ มันก่อให้เกิด ทุกข์ หรือ สุข หรือก่อให้เกิดอะไรกันแน่ ไม่เช่นนั้น...นับวันบรรดาผู้ที่อ้วกแตกตาย ลงแดงตาย หรือผู้ที่เจ็บปวดรวดร้าวทรมานร่างกายและจิตใจ อาจมีจำนวนสูงไม่น้อยไปกว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิดเอาเลยก็เป็นได้ อันเนื่องมาจากความอยู่ยาว-ไม่อยู่ยาว ความเร็ว-ความช้า ภายใต้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ บิ๊กตู่ นั่นแล...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Hal Boland (อีกครั้ง)... “Summer ends and autumn comes. And he who would have it otherwise would have high tides always and a full moon every night. - ฤดูร้อนผ่านไป...ฤดูใบไม้ร่วงจึงตามมา ผู้ที่อยากให้เป็นอย่างอื่น ก็เช่นเดียวกับผู้ที่อยากให้กระแสน้ำขึ้นเสมอๆ อยากให้พระจันทร์เต็มดวงในทุกๆ คืน...”
---------------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าถึงกับต้องไปถือสาหาความ
ถือซะว่า...ท่านอาจ หาเสียง มาซะจนเคย!!! คือการประกาศจะสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.มาก่อนล่วงหน้า 2 ปีเนี่ย ย่อมมิใช่น้อยๆ
ต้องเริ่มต้นด้วยการทำลาย 'ความเกลียด'
นับตั้งแต่คุณน้า ชัชชาติ บุรุษผู้กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี ท่านแลนด์สไลด์ แอฝะล้านช์ หิมะถล่ม ดินทลาย ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!
เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย
ว่าด้วย...ชัยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
อืมม์ม์ม์...ต้องเรียกว่าทั้ง แลนด์ ทั้ง สไลด์ เอาเลยทีเดียวเจียว สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
จาก กทม.ถึงความเป็นชาติ เป็นสังคมไทย
ขณะกำลังปั่นต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่มีโอกาสรับรู้ได้เลยว่า ตกลงใครเป็นหมู่ เป็นจ่า เป็นสารวัตรกันแน่!!!
ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”
หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น