ข่าว 'ควรถาม-ควรตอบ'

น่าจะมีใครประมวลคำถามยอดฮิตของนักข่าวยุคนี้บันทึกไว้เพื่อการศึกษานะ

เท่าที่ผมฟังๆ ผ่านหูจากข่าวโทรทัศน์ กลุ่มประโยคคำถามที่นักข่าวใช้ จะวนเวียนอยู่ประมาณนี้

ท่านนายกฯ คะ....

-เรื่องนี้ ท่านจะว่าอย่างไรคะ?

-เรื่องนี้ ท่านมีความเห็นอย่างไรคะ?

-เรื่องนี้ คืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะท่าน?

-เรื่องนี้ เขาว่าอย่างนี้ แล้วท่านจะว่าอย่างไรคะ?

มันก็ "ครอบจักรวาล" หรือ "กำปั้นทุบดิน" ดีนะ

ถ้าเจอนักการเมืองเก๋าๆ เขาจะรู้ทันที นักข่าวคนนี้ มีภูมิ ทำการบ้านมา ศึกษาเรื่องราวนั้นมา หรือกลวงโบ๋ แค่ถือไมค์มาจ่อเป็นอาชีพเท่านั้น

ซึ่งแบบนี้ อาจตกเป็นเครื่องมือให้คนที่มีเป้าหมายซ่อนเร้น อาศัย "ความผิวเผิน" ของนักข่าวเป็นช่องทาง "ปล่อยข่าว-สร้างกระแส" ได้ง่ายๆ

อย่างเมื่อวาน (๒๒ ก.พ.๖๕) เห็นข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ตะโกนปาวๆ ทำนองว่า "นายกฯ ถูกนักข่าวยิง ๔ คำถามเด็ด หนีเลย ไม่กล้าตอบ"

ก็ไปดูประเด็นเด็ด ที่นักข่าวถามจนนายกฯ ไม่กล้าตอบหรือตอบไม่ได้ จนต้องหนีซิว่า เป็นคำถามลุ่มลึกขนาดไหน?

คำถามแรก เป็นดังนี้.......

-นายกฯ มองอย่างไร ต่อกรณี ส.ส.พรรคภูมิใจไทยยกเรื่องการออกกฎหมายกัญชา-กัญชง เป็นเงื่อนไขการจะอยู่ต่อหรือถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล?

นี้เป็นคำถามเรื่องมอง คือ "นายกฯ มองอย่างไร"

คำถามที่สอง

-นายกฯ มาเลเซียจะเดินทางมาเยือนประเทศไทย ในวันที่ ๒๔-๒๕ ก.พ.นี้ จะหยิบยกเรื่องใดหารือกับผู้นำมาเลเซียในครั้งนี้บ้าง?

และมีความกังวลหรือไม่ว่า จะมีการก่อเหตุความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างประเด็นในช่วงที่ผู้นำมาเลเซียอยู่ระหว่างการเยือนไทย?

เป็นประเด็นถาม "หยิบเรื่องไหนหารือ กังวลไหม ต่อการที่ชายแดนใต้อาจก่อเหตุ"

คำถามที่สาม

-นายรังสิมันต์ โรม พยายามเชื่อมโยงข้อมูล การค้ามนุษย์โรฮีนจา ว่า ๓ ป.มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จะชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างไร?

ประเด็นถามอยู่ที่ เรื่องป้ายสี นายกฯ จะชี้แจงสีที่นายโรมป้าย ว่า ๓ ป.เกี่ยวข้องค้ามนุษย์อย่างไร

และ คำถามที่สี่

-นายกฯ มองการแก้ไขกฎหมายลูกอย่างไร หลังพรรคเพื่อไทยสอดไส้ ปลดล็อกคนนอกชี้นำพรรค?

เรื่องสายตา คือประเด็นนักข่าวถาม "นายกฯ มองอย่างไร"

สรุปคำถามได้ ดังนี้

-มองอย่างไร, หยิบยกเรื่องใด กังวลไหม, ชี้แจงอย่างไร  และ มองอย่างไร

ก็จะเห็นว่า เป็นคำถามมุ่ง "ความรู้สึก" ไปตอบโต้อีกฝ่าย จะได้เป็นข่าวมัน ไม่ต้องการเนื้อหาสาระ เพราะคนถามก็เข้าไม่ถึงสาระที่นำไปตั้งประเด็นถาม

สรุปแล้ว ประโยคคำถามแบบนี้ เป็นคำถาม "หุ่นยนต์ตั้งโปรแกรม" มากกว่าเป็นคำถาม "นักข่าวอาชีพ"

อย่างนายกฯ มาเลย์มา ประเด็นไทยฟื้นสัมพันธ์กับซาอุฯ, ประเด็นคณะผู้แทนประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) มาเยือนไทย เพื่อประสานให้พี่น้อง "ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม" ชายแดนใต้ อยู่ร่วมกันอย่างศานติสุข

และประเด็น "องค์มกุฎราชกุมารซาอุฯ" จะเสด็จเยือนไทยตามคำเชิญของรัฐบาล

เหล่านี้ เมื่อนายกฯ มาเลย์เดินทางมา ในฐานะไทย-มาเลย์เพื่อนบ้านชานเรือนติดกัน ด้วยไหวพริบนักข่าว ควรรู้ว่าเรื่่องเหล่านี้มิใช่หรือ ที่ควรเป็นประเด็นถาม

มากกว่าจะถามผิวเผินว่า "จะหยิบยกเรื่องใดมาหารือ  และกังวลมั้ย ว่าทางใต้จะก่อเหตุ"

ซึ่งมันฟังแล้ว ตื้นเขิน ไม่เกิดบรรยากาศสร้างสรรค์เลย!

หรือเรื่องค้ามนุษย์ นักข่าวก็พูดเอง "นายโรมโยงข้อมูล" ว่า ๓ ป.เกี่ยวข้อง

แล้วเอาเรื่องที่อีกฝ่ายป้ายสี ตั้งเป็นคำถามให้นายกฯ ชี้แจง เหมือนเขาสาดขี้ แล้วจะให้นายกฯ ลงไปเล่นขี้ มันหายเหม็น หายเลอะหรือ มันควรตอบหรือ?

กับบางคำถามนะ....

ถ้าตอบตามที่ถาม คนตอบก็โง่กว่าคนถาม!

เรื่องค้ามนุษย์ เรื่องโรฮีนจาที่ขุดกรุมาสร้างกระแสกันนี่  ความจริงคดีสิ้นสุดในขั้นศาลไปนานแล้ว

แต่ขบวนการ "ล่มชาติ-ล้มสถาบัน" กับ "พล.ต.ต.ปวีณ" มีเจตนาอะไรก็ไม่ทราบ ช่วยกันชงเรื่อง-ชงลูก ให้เป็นประเด็นไปยิงประตูรัฐบาลและสถาบันอีกแบบจงใจ

กรณี พล.ต.ต.ปวีณ อ้างลี้ภัยอยู่ออสเตรเลียนั้น สองสามวันนี้ เห็นคุณเอ็ดดี้ "อัษฎางค์ ยมนาค" ซึ่งอยู่ออสเตรเลีย โพสต์น่าสนใจติดๆ กัน ประมาณนี้

.................................

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค

 “คุณปวีณอยู่ที่ไหน ด้วยวีซ่าอะไร กันแน่!”

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า ผมก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง แค่ตั้งข้อสังเกต เพราะมันผิดสังเกต ว่า…

คุณปวีณอยู่ออสเตรเลียจริงๆ หรือเปล่า

เพราะดูเสื้อผ้าที่แกสวมใส่ในวันที่ live คุยกับโรมและช่อ ดูเหมือนว่าจะอากาศเย็น!!!

แต่ตอนนี้ออสเตรเลียเป็นฤดูร้อน

ยกตัวอย่างเมื่อวานซิดนีย์ 30 องศา

อุณหภูมิ 30 องศาของคนไทยที่เมืองไทยอาจรู้สึกเฉยๆ แต่อุณหภูมิ 30 องศาในเมืองหนาวอย่างออสเตรเลียคือ ร้อนตับแตก ร้อนขนาดใส่เสื้อบางๆ ชั้นเดียวยังอึดอัด แล้วดูเสื้อผ้าที่คุณปวีณใส่!!!!

แกอยู่มา 6 ปีแล้ว ไม่ใช่ 6 เดือนหรือ 6 วัน ที่จะไม่คุ้นชินกับสภาพภูมิอากาศ

ส่วนเรื่องวีซ่าลี้ภัย

ผมอยู่ออสเตรเลียมานาน คนที่อยู่ในออสเตรเลียส่วนใหญ่มาด้วยวีซ่านักเรียน วีซ่าท่องเที่ยว ตามมาด้วยการเป็น PR (ผู้อยู่อาศัยถาวร)

และ Citizens (พลเมือง) ส่วนน้อยเป็นวีซ่าทำงาน ส่วนวีซ่าลี้ภัยเท่าที่ทราบ ไม่เคยมีเลย

ที่ออสเตรเลีย มักมีคนไทยขอวีซ่ามาท่องเที่ยวแล้ว "โดด" อยู่เรื่อยๆ

ศัพท์ของคนไทยที่ออสเตรเลียพูดกันคือ มาวีซ่าท่องเที่ยวแล้ว "โดด เป็น ผี"

"ผี" ในที่นี้ คือลักษณะเดียวกับที่อเมริกาเรียกว่าโรบินฮู๊ด ซึ่งก็หมายถึง "พวกที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย"

และพวกผีนี่แหละที่มักพูดถึงความพยายามในการทำวีซ่าลี้ภัย ซึ่งผมทราบมาจากผู้รู้นานแล้ว และต่อมาได้รับการยืนยันจากผู้หลักผู้ใหญ่ว่า

 “ออสเตรเลียไม่ให้วีซ่าลี้ภัยกับคนไทย เพราะประเทศไทยไม่มีภัยให้ลี้ภัย”

เพราะฉะนั้น ถ้ายึดตามข้อมูลเท่าที่มี ก็สรุปเป็นการตั้งข้อสังเกต เพราะมันผิดสังเกตว่าคุณปวีณอยู่ในออสเตรเลียหรืออยู่ที่ไหนกันแน่!

และอยู่ด้วยวีซ่าอะไร?

ถ้าเริ่มต้น…หัวจดหมายย้ายสังกัด ก็ผิด

ตามมาด้วย…วีซ่าลี้ภัย ก็ไม่มี

และสุดท้าย…ไม่ได้อยู่ออสเตรเลียจริง

โรมและช่อ…ก็คงจบไปพร้อมคุณปวีณล่ะครับงานนี้

และ "อัษฎางค์ ยมนาค" มีโพสต์ต่อมา ว่า........

 “ไม่มีคดีความใดๆ ติดตัว แล้วเอาอะไรไปขอวีซ่าลี้ภัย”

เมื่อเช้าเขียนโพสต์ตั้งข้อสังเกตเรื่องวีซ่าลี้ภัยของคุณปวีณไปแล้ว ตกหล่นประเด็นสำคัญไป นั้นคือ

คุณปวีณลาออกจากราชการไปเอง ทั้งที่ได้รับ offer  งานจาก สตช. หรือแม้แต่ สนง.นรป.ที่คุณปวีณออกมาพูด และคุณปวีณไม่มีคดีความอะไรเลยจากเมืองไทย

แล้วคุณปวีณใช้อะไรไปขอวีซ่าลี้ภัยที่ออสเตรเลีย!!!

ผู้จะลี้ภัย ต้องมีภัย

คุณปวีณเอาเหตุผลอะไรไปอ้างและมีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอที่ทำให้รัฐบาลออสซี่เชื่อว่าคุณปวีณมีภัย

หรือว่า…จากเหตุดังกล่าว

คุณปวีณจึงร่วมมือกับนักการเมืองไทย ทำเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อให้ตนเองโดนคดีหรือเกิดเป็นประเด็นข่าวร้อนแรงจากรัฐบาลไทย เพื่อนำไปใช้ยื่นวีซ่าลี้ภัย หรือไม่?

งานนี้ win win กับนักการเมืองไทย

กล่าวคือ ถ้าคุณปวีณโดนคดีก็จะได้นำไปขอวีซ่าลี้ภัย

ในขณะที่นักการเมืองได้เรื่องจริงอิงนิยายของคุณปวีณ ไปโจมตีรัฐบาล, ม.112 และสถาบันพระมหากษัตริย์

กร้าวกลวง สร้างจินตนาการดราม่าได้พร่ำเพรื่อ

ดังนั้น ผมเลยขอลองจินตนาการ จากข้อสังเกตที่ผิดสังเกตจากข่าวนี้ดูบ้างจะเป็นไรไป

อัษฎางค์ ยมนาค

........................................

คงต้องซื้อตั๋วเรือบินให้นักข่าวไปถาม พล.ต.ต.ปวีณซะแล้วละมั้งว่า "เรื่องนี้เขาว่างี้ แล้วท่านจะว่าไงคะ"

เออ...แต่ว่า "ท่านอยู่ไหนล่ะ"

นายโรมนั่นแหละรู้ เพราะติดต่อกันอยู่ นักข่าวรีบไปถามนายโรมเร้วว ว่า "คู่หูอยู่ไหน?"

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'Grab rider ต้วง'

ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา