ผู้นำตะวันตกตั้งแต่ โจ ไบเดน จนถึงเลขาธิการนาโตยืนยันตรงกันว่า รัสเซียได้ตัดสินจะบุกยูเครนแน่แล้ว
แต่รัสเซียยังปฏิเสธเสียงแข็ง
คำถามขณะนี้ก็คือถ้ารัสเซียบุกยูเครนจริงจะรุกเข้าไปถึงเมืองหลวงของยูเครนเลยหรือไม่
หรือแต่เพียงชิมลางด้วยการผนวกส่วนที่เป็น Donbas ซึ่งได้ประกาศแยกตัวด้วยการสนับสนุนของมอสโกเท่านั้น
นักยุทธศาสตร์ด้านการทหารยังวิเคราะห์ไม่ถูกว่า วลาดิเมียร์ ปูติน จะลุยเข้ายูเครนลึกขนาดไหน...หากตัดสินใจว่าจะต้องเผด็จศึกจริงๆ
วันนี้ก็ยังเป็นการเลือกระหว่าง “สงครามกับการทูต” ที่ทั้งฝ่ายรัสเซียกับฝ่ายสหรัฐฯ และนาโตต้องชั่งใจกันอย่างระมัดระวังกันเต็มที่
การที่ปูตินสั่งให้มีการซ้อมปฏิบัติการขีปนาวุธที่ใช้นิวเคลียร์ได้ในช่วงนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้ตะวันตกรู้ว่ามอสโกพร้อมจะเล่นทุกเกมหรือไม่
และถ้ารัสเซียบุกเข้ายูเครนจริงจะใช้แสนยานุภาพทางทหารในระดับไหน
สำนักข่าวต่างประเทศบางแห่งอ้างคำกล่าวที่แวดวงทหารรัสเซียมันจะพูดกันคือ
“รถถังรัสเซียไม่กลัวโคลน”
ถึงขั้นที่มีการใช้วลีเด็ดนี้เป็นชื่อรายการทางโทรทัศน์ และเป็นข้อความที่คนรัสเซียมักเขียนอยู่บนกระจกหน้าต่างรถของตนเพื่อสะท้อนถึงความภาคภูมิใจของการเป็นชาตินักรบของรัสเซีย
บางคนตีความว่าข้อความนี้อาจจะกำลังถูกกล่าวขานดังๆ อีกครั้งในรัสเซีย เพื่อสะท้อนยุทธศาสตร์ทางทหารของรัสเซียว่าพร้อมจะส่งกำลังเข้าบุกยูเครนได้ในทุกสภาพอากาศและสถานการณ์เช่นกัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้เตือนว่า ขณะนี้รัสเซียอยู่ในฐานะพร้อมจะบุกยูเครน “หากสภาพพื้นดินในบริเวณทางเหนือของกรุงเคียฟยังแข็งตัว” และไม่เป็นสภาพโคลนตมเพราะอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น
โดยสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์แล้ว กรุงเคียฟซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครนอยู่ห่างจากพรมแดนด้านที่ติดกับเบลารุส เพื่อนบ้านทางเหนือและเป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญของรัสเซียเพียง 75 กิโลเมตรเท่านั้น
อีกทั้งรัสเซียกำลังซ้อมรบร่วมกับเบลารุสอยู่ด้วย จึงเกิดความกังขาว่าถ้ารัสเซียจะบุกยูเครนและยึดเมืองหลวงก็จะต้องใช้เส้นทางนี้
ประสบการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 สอนรัสเซียว่า หิมะและอากาศหนาวเหน็บเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงสำหรับการทำสงคราม
รัสเซียสามารถปกป้องตนเองจากการบุกของนาซีเยอรมันก็เพราะอากาศหนาวเหน็บช่วยไว้ส่วนหนึ่ง
แต่คำพูดของไบเดนเรื่องสภาพอากาศกับการทำสงครามในยูเครนไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ทำให้เห็นว่านักวางแผนรบของสหรัฐฯ วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของปฏิบัติการทหารรัสเซียในยูเครนอย่างไร แต่รัสเซียไม่ได้มีแค่กองทัพรถถังเท่านั้น
แต่ยังมีเครื่องบินทิ้งระเบิดและจรวดนอกเหนือจากรถถังและรถหุ้มเกราะที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพพื้นดินที่เป็นโคลนตมหรือชื้นแฉะเพราะหิมะและน้ำแข็งในฤดูหนาว
หากรัสเซียบุกยูเครนจริง นักวิเคราะห์ทางทหารเชื่อว่า รัสเซียอาจเปิดฉากการรุกด้วยการโจมตีทางอากาศและการยิงจรวดโดยมีเป้าหมายหลักคือที่ตั้งทางทหารของยูเครนในจุดต่างๆ ที่เป็นหัวใจของยุทธศาสตร์
VOA ภาคภาษาไทยอ้างนักวิเคราะห์ทางทหารผู้หนึ่งคือ Mykola Sunhurovskyi จากสถาบันคลังสมอง Razumkov Center ในกลุ่มเคียฟของยูเครนว่าถ้าปูตินตัดสินใจบุกยูเครน รถถังกับเรือรบจะไม่ใช่กำลังที่อยู่ในแนวหน้า แต่จะเป็นอากาศยานและจรวดขีปนาวุธมากกว่า
เป้าหมายในลำดับต้นๆ น่าจะเป็นระบบป้องกันตนเองทางอากาศและระบบต่อต้านขีปนาวุธของยูเครน
รวมทั้งที่ตั้งกองบัญชาการทหารและระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ
ข่าวบางกระแสบอกว่ายูเครนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากประเทศพันธมิตรตะวันตกเพื่อเพิ่มศักยภาพระบบป้องกันตนเองทางอากาศ
นอกเหนือไปจากอาวุธภาคพื้นดิน ซึ่งสหรัฐฯ อังกฤษ กับประเทศอื่นๆ ได้ให้ความสนับสนุนไปก่อนแล้ว
แสนยานุภาพทางทะเลของรัสเซียก็เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินกำลังของรัสเซียต่อยูเครน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้แพร่ภาพเรือรบจากกองเรือทะเลดำของรัสเซียกว่า 30 ลำที่ออกเดินทางไปซ้อมรบในทะเลทางใต้ของยูเครน
ยูเครนยอมรับว่ากองกำลังทางเรือของตนมิอาจจะเทียบกับของรัสเซียได้เลยหากเกิดเหตุที่ต้องสู้รบกันทางทะเล
ทางเดียวที่ยูเครนจะยับยั้งการรุกของรัสเซียได้คือ ความพร้อมของประเทศตะวันตกที่จะสนับสนุนยูเครน
นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนประกาศที่มิวนิกในการประชุมความมั่นคงของยุโรปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า
ยุโรปตะวันตกต้องให้คำรับรองความปลอดภัยของยูเครน และขออย่าได้เพียงแค่พูด ต้องแสดงด้วยการกระทำด้วย
นักวิเคราะห์ทางทหารรัสเซียบางคนบอกสื่อว่ารัสเซียไม่มีแผนจะบุกยูเครน
แต่ถ้าบุกจริง รถถังของรัสเซียมีน้ำหนักเบากว่ารถถังของชาติตะวันตกมาก และจะไม่ติดหล่มง่ายๆ
พร้อมกับเย้ยหยันด้วยว่าพื้นดินที่เป็นหลุมเป็นบ่อนั้นจะเป็นอุปสรรคก็สำหรับรถถังของประเทศตะวันตกเท่านั้น
การบลัฟกันระหว่างรัสเซียกับตะวันตกนั้นไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของวาทะนักการทูตเท่านั้น
นักการทหารของทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งปรามาสในความเก่งกาจด้านการสู้รบเช่นกัน
ไม่ว่าจะเปิดศึกกันจริง หรือเป็นเพียงสงครามน้ำลายในขณะนี้ก็ตาม!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ