เกาะฮ่องกงเผชิญวิกฤตโควิด-19 สี จิ้นผิง สั่ง ‘โควิดต้องเป็นศูนย์

ภาพคนไข้ล้นโรงพยาบาลออกมาข้างถนนอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องเก่าของปีที่แล้ว แต่เป็นรูปจากฮ่องกงวันสองวันที่ผ่านมา
ทำให้เกิดคำถามว่าตกลงโควิด-19 อยู่ “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง” กันแน่
ใครที่ติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ช่วงนี้คงจะเห็นความ “ย้อนแย้ง” ของข้อมูลระหว่างที่ว่า “รุนแรงขึ้น” กับ “เริ่มจะแผ่วลง”
หลายประเทศแจ้งว่าตัวเลขติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron แม้จะสูงขึ้น แต่จำนวนคนป่วยหนักและเสียชีวิตเริ่มลดลง ดังนั้นจึงได้เวลาปรับนโยบาย หันมาเปิดประเทศมากขึ้นตามลำดับ

 

แต่ก็มีบางประเทศที่เจอกับภาวะที่หนักขึ้น ทั้งจำนวนคนติดเชื้อและที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล รวมไปถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งขึ้นอย่างน่ากังวล
ฮ่องกงเป็นตัวอย่างที่กำลังเผชิญกับภาวะอันไม่พึงปรารถนา
ร้อนถึงท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องส่งสัญญาณจากปักกิ่งว่ารัฐบาลท้องถิ่นของฮ่องกงจะต้อง “ดำเนินการทุกวิถีทาง” ที่จะต้องจัดการบริหารให้การแพร่ระบาดของโควิดนั้นอยู่ใต้การควบคุมได้จงได้
ฮ่องกงกำลังเจอศึกหนักเมื่อจำนวนคนติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคนป่วยล้นโรงพยาบาลในหลายจุด...ทำให้ผู้บริหารสูงสุด Carrie Lam ประกาศว่าจะต้องให้คนทั้งเกาะ 7 ล้านคนตรวจหาเชื้อภายใต้นโยบาย Covid-Free Policy ตามแนวของปักกิ่ง
ตัวเลขทางการบอกว่าจำนวนคนติดเชื้อบนเกาะแห่งนี้พุ่งขึ้น 60 เท่าในหนึ่งเดือน
และอัตราการครองเตียงได้วิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วถึง 90% ของความสามารถรองรับแล้ว
ถือว่าเข้า “เขตอันตราย” สำหรับบริการสาธารณสุขของเกาะแห่งนี้แล้ว
รายงานของสื่อหลายสำนักที่นั่นแจ้งว่า โรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ป่วยบางราย รวมถึงผู้สูงอายุ
บางคนถูกทิ้งให้นอนอยู่บนเตียงข้างนอกในสภาพอากาศหนาวเย็น บางครั้งมีฝนตก
โรงเรียน โรงยิม โรงภาพยนตร์ และสถานที่สาธารณะส่วนใหญ่ปิดให้บริการ
เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านสุขภาพรายงานว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน 6,116 ราย เพิ่มขึ้นจาก 4,285 ในวันก่อนหน้า ทำให้ยอดรวมตั้งแต่มกราคมถึงมากกว่า 16,600 เสียชีวิตใหม่ 24 ราย
จำนวนเคสที่พุ่งสูงขึ้นคือการทดสอบครั้งใหญ่ที่สุดของนโยบาย “Dynamic Zero COVID-19” แต่ Carrie Lam ยืนยันสัปดาห์นี้ว่า “เราไม่สามารถยอมจำนนต่อไวรัสได้”
รายงานของสื่อบางฉบับที่อ้างถึงแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า รัฐบาลวางแผนที่จะทดสอบผู้คนมากถึง 1 ล้านคนในแต่ละวันตั้งแต่เดือนมีนาคม และผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับ 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
“เนื่องจากจำนวนเคสที่รุนแรง เราจึงต้องเร่งการตั้งรับของโรงพยาบาล และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการแยกผู้ป่วยจากชุมชน” ปลัดกระทรวงอาหารและสุขภาพ Chui Tak-yi บอกผู้สื่อข่าว
“รัฐบาลกำลังพยายามบรรเทาปัญหาคอขวดเหล่านี้”
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้พูดคุยกับเจ้าของโรงแรมบนเกาะ วางแผนที่จะจัดหาห้องพักในโรงแรมให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 10,000 ห้อง
ข่าวบางกระแสบอกว่าอาจจะต้องเตรียมห้องพักในโรงแรมสำหรับผู้ป่วย หรือ hospitels ถึง 20,000 ห้องด้วยซ้ำ
เรื่องต้องเตรียมห้องพักโรงแรมกว่า 20,000 ห้องสำหรับคนติดโควิดนั้น มาจากแถลงการณ์ของผู้บริหารสูงสุดแคร์รี หล่ำ เมื่อวานนี้เอง
กลุ่มธุรกิจนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รวมตัวกันยื่นมือสนับสนุนการทำสงครามกับโควิดกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อสถานภาพความเป็นศูนย์กลางการเงินโลกของฮ่องกง
แคร์รี หล่ำ บอกว่าโรงแรม 21 แห่งแสดงความสนใจที่จะปรับเปลี่ยนตนเองให้เป็นสถานที่กักตัว จากเป้าเดิมของรัฐบาลที่ 7,000 เป็น 10,000 ห้อง
ทางการยืนยันว่าสถานกักกันในฮ่องกงเริ่มเต็มแล้ว และเตียงในโรงพยาบาลก็เต็มแล้วกว่า 90%
เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่หนักเป็นพิเศษคือผู้ป่วยสูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวที่ต้องการการดูแลมากกว่าผู้ป่วยคนอื่น
Sun Hung Kai Properties (SHKP) แจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีว่าสามารถจัดหาห้องพัก 1,000 ห้องในโรงแรม 2 แห่งเพื่อการกักตัว
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกเจ้าหนึ่ง New World Development รายงานว่าจะจัดหาห้องพักประมาณ 700 ห้อง
Henderson Land Development บอกว่าครอบครัวผู้ก่อตั้งของบริษัท “ตระกูลลี” จะบริจาคเงิน 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อส่งวัสดุป้องกันโรคระบาดให้บ้านผู้สูงอายุ และอื่นๆ
ผู้นำฮ่องกงตอกย้ำแนวทางจากปักกิ่งโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ประกาศว่า "ภารกิจสูงสุดของฮ่องกงคือการรักษาเสถียรภาพและควบคุมการแพร่ระบาด”
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ปักกิ่งได้ส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทรงอิทธิพลของฮ่องกงให้ทุ่มเทเงินทองและทรัพยากรช่วยแก้ไขสถานการณ์นี้ด้วย
เป็นการพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าหากฮ่องกงถูกปักกิ่งสั่งให้ใช้นโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” แบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด
ที่เรียกว่า “หนึ่งประเทศ สองระบบ” นั้นบัดนี้กลายเป็น “หนึ่งประเทศ หนึ่งระบบ”
ทั้งในแง่การเมืองและการสู้รบกับโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว!.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ