บันทึกหน้า4

ไทยโพสต์ ‘อิสรภาพแห่งความคิด’ www.thaipost.net ผ่านไปแล้ววันแรก สำหรับการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 หรือภาษาชาวบ้านเรียกเวทีตีเช็คเปล่า ให้ฝ่ายค้านยืนด่ารัฐบาลฟรีๆ แต่ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น เพราะเน้นสีสัน วาทกรรมเชือดเฉือน ใครตบหน้าได้ฉาดใหญ่กว่า ก็เสียงดังกว่า

เห็นฝ่ายค้านโหมโรงว่า อภิปรายรอบนี้เป็นการเปิดแผลเพื่อเตรียมรอโรยเกลือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ในเดือนพฤษภาคม แต่ ‘นิโรธ สุนทรเลขา’ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล หยาม บอกเห็นเปิดมา 3 ปี ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เป็นไปตามคาด สุดท้ายฝ่ายค้านมาตามนัด ประดิษฐ์วาทกรรมเตรียมมาจากบ้าน ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “แพง จน พัง ทั้งแผ่นดิน” ขณะที่ ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าปีที่ 4 ของรัฐบาล ชักจะเจนเวทีสภาขึ้นทุกที เดี๋ยวนี้มีสำบัดสำนวน ยกวรรณคดี ‘รามเกียรติ์’ มาเปรียบเปรยกับสภาไทย

 “ท่านเคยบอกว่าผมเข้ามาในสภาควรวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ ผมเล่นในบทพระราม พระลักษณ์ ฉะนั้น อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องเล่นบททศกัณฐ์ ผมไม่ได้คิดว่าประเทศชาติจะต้องเป็นแบบรามเกียรติ์ แต่ท้ายที่สุดของเรื่องรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์เป็นอย่างไรในตอนท้ายก็รู้อยู่แล้ว”

ไม่ต้องแปลความหมายว่า ‘บิ๊กตู่’ ขู่ฝ่ายค้าน เพราะตอนจบรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์ถูกพระรามแผลงศรเข้ากลางอก ดับอนาถตัวโกงแห่งวรรณคดีเก่าแก่ นอกจากนี้ ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “อย่าให้พระรามแผลงศรบ่อยก็แล้วกัน”

ศรพระรามแผลงบ่อยได้ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือ ‘บิ๊กตู่’ ต้องหาดวงใจของ ‘ทศกัณฐ์’ ให้เจอ แผลงศรผิดเป้า ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย!

มีคนเอาไมค์ไปจ่อ ‘เสี่ยหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถามหัวหน้าค่ายสีน้ำเงินว่า อยากเป็นตัวละครตัวไหนในรามเกียรติ์ เจ้าตัวบอกขอเป็น ‘นางสีดา’

แหม่ เลือกเป็นนางเอกของเรื่องเสียด้วย ระวัง ‘บิ๊กตู่’ จะขอให้ ‘เสี่ยหนู’ ลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจเถอะ เพราะในช่วงที่พรรคภูมิใจไทยเนื้อหอม มีแต่คนขอมาซบชายคา ถูกตั้งข้อสังเกตกันว่า ทำเพื่อ ‘บิ๊กตู่’ หรือเพื่อตัวเองกันแน่ มีเจตนาลึกๆ อะไรหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นส้มหล่น หรือเพิ่มอำนาจต่อรองให้ตัวเอง

ทั้งนี้ มันเหมือนจะดีที่พรรคภูมิใจไทยเติมเสียง ส.ส.ให้ฝ่ายรัฐบาล แต่ยิ่ง ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีความสำคัญต่อรัฐบาลมากขึ้นเท่านั้น เรียกว่าถอนตัวจากรัฐบาลคือ พัง ไม่เข้าประชุมสภาคือ ล่ม ยิ่งช่วงนี้มีเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กำลังเย้วๆ กันอยู่ ไม่รู้จะกล้าขัดใจบ้านใหญ่บุรีรัมย์ขนาดไหน

เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจมากในช่วงสัปดาห์นี้ กรณีคณะรัฐมนตรีรับทราบมติราชบัณฑิตยสถานเสนอเรื่องการใช้ชื่อเมืองหลวงของไทย โดยให้ใช้คำทางการว่า ‘Krung Thep Maha Nakhon’ พร้อมกับเอาชื่อเดิมไปไว้ในวงเล็บด้านหลังแทนว่า (Bangkok) เล่นเอาคนไปแปลความหมายว่า เป็นการเปลี่ยนชื่อเมืองหลวง

เดือดร้อน ‘วิษณุ เครืองาม’ รองนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาเคลียร์ใหม่แบบเอาให้ชัด ราชบัณฑิตไม่ได้มีอำนาจกำหนดชื่อเมืองหลวง หรือกำหนดชื่อจังหวัดอะไรทั้งนั้น มีหน้าที่เพียงเอามาสะกดให้ถูกต้อง ขณะเดียวกัน ในราชการไทยใช้คำว่า กรุงเทพมหานครมาโดยตลอด เช่น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่เคยใช้ผู้ว่าราชการบางกอก ส่วนคำว่าบางกอก หรือ แบงค็อก เป็นคำที่ต่างชาติเรียก สรุปง่ายๆ ใช้ได้ทั้งสองอย่าง ไม่มีการเปลี่ยนชื่อใดๆ แค่กำหนดให้รู้ว่า จะใช้อย่างไร โอกาสไหน และสะกดอย่างไร 

ฝาก ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตอนนี้ต่างจังหวัดกลับมาระบาดหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแบกภาระค่าครองชีพที่สูง ยังต้องถูกซ้ำเติมจากเจ้าหนี้นอกระบบที่ฟาดดอกเบี้ยโหด หากไม่สามารถปิดเงินต้นได้ ก็นั่งกินดอกเบี้ยลอยๆ รายวัน เรียกว่าส่งทั้งปีทั้งชาติก็ไม่หมด สงสารชาวบ้าน ลองสางปัญหานี้ดีๆ ได้ใจชาวบ้านมากกว่านโยบายประชานิยมอีก.

ปรารถนา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0

บันทึกหน้า 4

หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568

บันทึกหน้า 4

" ปีใหม่วันแรก 1 มกราคม 2568 ห้วงเวลา สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2567 เต็มไปด้วยความสูญเสีย ในประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วงผู้คนสัญจรไปต่างจังหวัด

บันทึกหน้า 4

การเมืองท้ายปี อาจทำให้พรรคส้มใจชื้นขึ้นมาบ้าง สำหรับนิด้าโพลเที่ยวล่าสุด โดยคะแนนขึ้นนำมาเป็นอันดับ 1 ส่วนจะส่งผลนัยทางการเมืองหรือไม่ ต้องไปถาม “เทพไท เสนพงศ์” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ฟันธงโดยผลการสำรวจความคิดเห็นของ “นิด้าโพล”

บันทึกหน้า 4

เหนื่อยทั้งปีมีแต่เรื่องเรืองอำนาจ คนทั้งชาติตั้งตารอของขวัญอันปรารถนา ภาวนาเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองเฟื่องเงินตรา แต่รัฐบาลไม่นำพาให้ประชาได้อุ่นใจ แพทองทาพาทองโพยโดยไอแพด

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "ฉายาสภาประจำปี 2567" หลังเปิดฉายารัฐบาลไปก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตลอดของนักข่าวสายการเมือง ที่ต้องการสะท้อนภาพการทำงานของ 2 สถาบันหลักของบ้านเมือง ฝ่ายบริหารซึ่งก็คือรัฐบาล