พอราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลาย ก็ทำให้คนไทยต้องทำความเข้าใจกับปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมัน
ทำอย่างไรจึงจะทำให้จำนวนที่ผลิตออกมาพอๆ กับที่ต้องการใช้
อุปทานต้องตามอุปสงค์ให้ทัน
ผู้ผลิตน้ำมันโลกที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม OPEC ถูกเรียกร้องและกดดันให้เพิ่มปริมาณก็ผลิตเมื่อราคาน้ำมันพุ่งอย่างไม่ลดละ
สมาชิก OPEC ประชุมกันครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอย่างเสียไม่ได้ คุยกันทั้งหมด 16 นาที และตกลงกันว่าจะเพิ่มการผลิตตามที่ได้บอกเอาไว้แต่เดิมคือ วันละ 400,000 บาร์เรล
ผู้นำ OPEC อ้างว่าสาเหตุที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นไม่ใช่เพราะการผลิตน้อย แต่เป็นเพราะความตึงเครียดทางด้านการเมืองระหว่างประเทศต่างหาก
ที่เรียกว่าปัญหา “ภูมิรัฐศาสตร์” หรือ geopolitics นั่นแหละ
เช่น กรณีรัสเซียเผชิญหน้ากับโลกตะวันตก กรณียูเครน
ความวุ่นวายทางการเมืองในคาซัคสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผลิตน้ำมันในเอเชียกลาง
สัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน และการโจมตีด้วยโดรนของเผ่า Houthi ต่อประเทศ UAE
คนเข้าประชุม OPEC สัปดาห์ที่ผ่านมาบอกว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์แต่อย่างใด
เน้นแต่เรื่องปริมาณการผลิตเป็นหลัก เพราะไม่อยู่ในฐานะที่จะแก้ปัญหาวิกฤตในภูมิภาคต่างๆ (แม้ว่าสมาชิกหลายประเทศจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งเหล่านั้น แต่คู่กรณีไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย)
สมาชิก OPEC บอกว่า ได้พยายามช่วยเต็มที่แล้วในการปรับเพิ่มปริมาณการผลิต แต่ก็ทำได้แค่นี้ เพราะการแพร่ระบาดของโควิดทำให้ต้องลดการผลิตอย่างหนัก เนื่องจากความต้องการของโลกหดหาย
OPEC อ้างว่าตอนที่พวกเขาลำบากเพราะราคาน้ำมันร่วงนั้นไม่มีใครเห็นใจ ตอนนี้พอราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการกระเตื้องก็ต้องเห็นใจพวกเขาบ้างรายได้ที่หดตัวลงจากการขายน้ำมันก็ต้องได้รับการชดเชยในช่วงขาขึ้น
อีกประเด็นหนึ่งคือ ในช่วงระบาดของโควิดนั้น หลายประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ได้ลงทุนในการรักษาความสามารถในการผลิตระหว่างการระบาดของโควิด จะบอกว่าเป็นเรื่องของทีใครทีเขาก็คงไม่ผิดนัก
ต้องทวนความจำว่า OPEC มีสมาชิกเป็นประเทศไหนบ้าง และ OPEC+ คือใคร
OPEC+ เป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 24 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 14 ชาติของ Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) และสมาชิกที่ไม่ใช่ OPEC อีก 10 ประเทศ รวมถึงรัสเซีย
กลุ่ม OPEC นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของกลุ่ม
ขณะที่รัสเซียเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศที่ไม่ใช่กลุ่มโอเปก
OPEC เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลถาวรที่ก่อตั้งขึ้นในการประชุมแบกแดดในปี 2503
วันนี้รายชื่อทางการของสมาชิก OPEC คือ Algeria, Angola, Equatorial Guinea, Gabon, Iran, Iraq, Kuwait, Libya, Nigeria, the Republic of the Congo, Saudi Arabia, the United Arab Emirates and Venezuela.
อดีตสมาชิก OPEC มี Ecuador, Indonesia and Qatar.
มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการอุปทานน้ำมันเพื่อพยายามกำหนดราคาน้ำมันในตลาดโลก เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิตและผู้ซื้อ
มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
สมาชิกโอเปกเปิดกว้างสำหรับทุกประเทศที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่และมีหลักการร่วมกัน
OPEC Plus คืออะไร?
OPEC Plus คือประเทศผลิตน้ำมันนอกเหนือ OPEC 11 ประเทศ คือ Azerbaijan, Bahrain, Brunei, Kazakhstan, Malaysia, Mexico, Oman, Russia, South Sudan and Sudan
ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียต่างก็เป็นแกนหลักของพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันที่รู้จักกันในนาม OPEC Plus มาเป็นเวลา 3 ปีโดยมีเป้าหมายเพื่อหนุนราคาน้ำมันด้วยการลดการผลิต
OPEC+ เกิดขึ้นเพราะอะไร?
เมื่อรัสเซียสรุปข้อตกลงเวียนนาในปี 2559 ปูตินเชื่อว่าจะช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียในเดือนมีนาคม 2561
ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้มั่นใจความสามารถทางการเงินของเครมลินเพื่อผลักดันให้การรณรงค์หาเสียงที่นำไปสู่การสร้างความมั่นใจว่าปูตินจะยังคงครองอำนาจเอาไว้ได้
เท่ากับเป็นการจัด “ลำดับความสำคัญของระบอบการปกครอง” ใหม่
ซึ่งย่อมหมายถึงการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันด้วย
สำหรับซาอุดีอาระเบีย การเปลี่ยนสิ่งที่เคยเป็นพันธมิตรแบบ "เฉพาะกิจ" ให้เป็นกลุ่มที่เป็น “ทางการ” ถือเป็นวิธีลดความผันผวนและปั่นป่วนของตลาดน้ำมันในอนาคตได้ด้วย
สำหรับรัสเซีย การทำให้ความสัมพันธ์มีความ “เป็นทางการ” มากขึ้นอาจช่วยขยายอิทธิพลของปูตินในตะวันออกกลาง
น่าจะเป็นไปได้ว่าทั้งสองมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ราคาน้ำมันตกต่ำลง เพื่อตั้งรับกับผลกระทบต่อผู้ผลิตน้ำมันจากหินดินดานของสหรัฐ
แต่วันนี้เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตยูเครน ปูตินก็ต้องปรับยุทธศาสตร์ให้รับ “ศึกรอบด้าน” ให้ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว