ได้มันปากกันอีกแล้ว
ฝ่ายค้าน ลับมีดรอ เตรียมซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ช่วงกลางเดือนนี้
เห็นว่าขอเวลาตั้ง ๔ วัน
เอาให้น้ำลายเหนียวกันเลยทีเดียว
หนึ่งในประเด็นที่ตีปี๊บตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่คือ เหมืองทองคิงส์เกต
"ชลน่าน ศรีแก้ว" ขู่ฟ่อ! เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
ครับ...ก็เอาที่สบายใจ
วานนี้ (๒ กุมภาพันธ์) เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ยื่นหนังสือให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย "ชลน่าน" และสมาชิกฝ่ายค้านระดับตัวเป้ง
ขอให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตรวจสอบรัฐบาลกรณี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า ตัวแทนรัฐบาลไทยได้เจรจากับบริษัทคิงส์เกตฯ มีข้อกังวลอาจจะนำผลประโยชน์ของชาติไปแลกเปลี่ยนไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ให้คิงส์เกตได้รับอนุญาตประทานบัตรให้กลับมาทำเหมืองใหม่ เป็นการได้รับอนุญาตประทานบัตร และการอนุญาตผลประโยชน์อื่น ที่เกินไปกว่าข้อพิพาทในชั้นอนุญาโตตุลาการ เพื่อแลกกับการที่รัฐบาลประยุทธ์ ไม่ต้องถูกอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งชี้ขาดให้ต้องแพ้คดี ซึ่งต้องเสียค่าปรับประมาณ ๒๔,๗๕๐ ล้านบาท
เป็นเหตุให้คณะอนุญาโตตุลาการ เลื่อนอ่านคำวินิจฉัยชี้ขาด จากเดิม ๓๑ มกราคม ออกไปไม่มีกำหนด
หนังสือร้องเรียนอ้างถึงผลกระทบที่อาจจะทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ ๔ ข้อ คือ
๑.การประกอบกิจการเหมืองทองคำคิงส์เกตในนามบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) คือ การมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชน ในการประกอบกิจการเหมืองทองคำดังกล่าวที่รอยต่อ ๓ จังหวัด คือ จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ถูกกดให้อยู่ในระดับต่ำมาโดยตลอด เพราะไม่มีมาตรการทางสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชน ที่บังคับใช้เป็นการเฉพาะ มีแต่การปรึกษาหารือในระดับแจ้งเพื่อทราบ
๒.ระดับความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาชุมชนของเจ้าของกิจการอยู่ในระดับต่ำ
๓.เป็นการทำเหมืองโดยไม่มีแนวกันชนที่ต้องรักษาระยะห่างระหว่างชุมชนกับเขตเหมืองแร่
และ ๔.เป็นการทำเหมืองที่หลีกเลี่ยงหรือหาช่องโหว่ของกฎหมาย เพื่อไม่สร้างหลักประกัน และแผนปฏิบัติการในการฟื้นฟูเหมืองที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
ประเด็นนี้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ง้างมาจากบ้าน กะจะปล่อยหมัดฮุกให้รัฐบาลล้มทั้งยืน
มันง่ายอย่างนั้นเลยหรือ?
คุยเรื่องนี้ก็ต้องย้อนไปหลายรัฐบาล เพราะรัฐบาลลุงตู่เป็นรัฐบาลที่ต้องเช็ดอาจมให้รัฐบาลก่อนๆ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมยังต้องเอากระดูกมาแขวนคอ
จริงอยู่ครับในความเป็นรัฐบาลนั้นจะต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง ไม่ว่ารัฐบาลก่อนหรือรัฐบาลสร้างเรื่องเอาไว้ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบในฐานะรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย
แต่การที่รัฐบาลปัจจุบันต้องแก้ปัญหารัฐบาลก่อนทำไว้ อย่างน้อยๆ นักการเมืองที่อยู่ร่วมรัฐบาลก่อน ต้องมีสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศ ประชาชน ด้วย
ไม่ใช่บิดเบือนปัญหาที่ตัวเองร่วมสร้างไว้ มาโยนใส่ว่ารัฐบาลปัจจุบันต้องรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไปเสีย
ออกไปแล้ว จะให้ตัวก่อปัญหา เข้ามาสร้างปัญหาอีกอย่างนั้นหรือ
มาดูไทม์ไลน์กันนะครับ
๒๕๓๗ ยุครัฐบาลชวน ๑ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด เริ่มทำการสำรวจแหล่งแร่ทองคำในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์
ทั้งสองจังหวัดเป็นพื้นที่กรรมสิทธิ์ที่อยู่นอกพื้นที่พัฒนาเหมืองแร่ทองคำ เป็นโครงการใหญ่ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
๒๕๔๓ รัฐบาลชวน ๒ บริษัทอัคราฯ ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และพิจิตร รวม ๔ แปลง
๒๕๔๔ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร บริษัทอัคราฯ ได้รับสิทธิส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ๘ ปี จึงเริ่มผลิตทองคำเชิงพาณิชย์
๒๕๔๖ รัฐบาลทักษิณ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลย ๖ แปลง แต่มาเปิดกิจการทำเหมืองและประกอบโลหกรรมแร่ทองคำ ก่อนรัฐบาลนายทักษิณประกาศยุบสภา
แน่นอนครับ เหมือง กับ ชาวบ้าน ทั่วโลก ส่วนใหญ่มักไปด้วยกันไม่ได้ เพราะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ตามมานำไปสู่การกระทบกระทั่ง
หลังบริษัทอัคราฯ ผลิตทองคำในเชิงพาณิชย์ได้ไม่นาน ก็เริ่มมีความขัดแย้งกับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งปัญหาเรื่อง ฝุ่นละออง เสียงรบกวน มีการยื่นหนังสือให้รัฐบาลระงับการทำเหมืองมาต่อเนื่อง
๒๕๔๙ รัฐบาลพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาจากการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ สั่งทบทวนนโยบายพัฒนาเหมืองแร่ทองคำ
รัฐบาลขณะนั้นยืนยันให้ความสำคัญกับเรื่องความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร
มติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๐ วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๐ มอบหมายให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาทบทวนการกำหนดค่าภาคหลวงแร่ทองคำให้เหมาะสม
ตุลาคม ๒๕๕๐ กระทรวงอุตสาหกรรม ออกกฎกระทรวงปรับอัตราค่าภาคหลวงใหม่
จากเดิมใช้อัตราคงที่ ร้อยละ ๒.๕ เปลี่ยนมาใช้อัตราก้าวหน้าร้อยละ ๐-๒๐ ซึ่งมีอัตราการจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่ทองคำที่แท้จริง หรือ effective rate เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ ๑๐
แต่ความขัดแย้งในพื้นที่ยังคงดำเนินต่อไป
ปี ๒๕๕๖ กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างนโยบายสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำฉบับใหม่ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อใช้เป็นกรอบในการกำหนดหลักเกณฑ์การกำกับดูแลและการทำเหมืองแร่ทองคำ
แต่ "ยิ่งลักษณ์" ประกาศยุบสภาไปเสียก่อน
เรื่องค้างมาถึงรัฐบาลลุงตู่
"ลุงตู่" ใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ออกคำสั่งที่ ๗๒/๒๕๕๙ ระงับการทำเหมืองทองคำและประกอบโลหกรรมแร่ทองคำ ท่ามกลางเสียงสรรเสริญจากชาวบ้าน และองค์กรพัฒนาเอกชน
มาวันนี้รัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักเพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลก่อนๆ สร้างไว้ โดยเฉพาะรัฐบาลของนายทักษิณ
ต้องเสียค่าปรับประมาณ ๒๔,๗๕๐ ล้านบาท หรืออนุญาตให้ทำสัมปทานต่อ
ตัดสินใจง่ายหรือครับ?
พรรคเพื่อไทยดูกระเหี้ยนกระหือรือที่จะนำเรื่องนี้มาโจมตีรัฐบาลปัจจุบัน ถ้าคิดว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์ชาติ ก็ทำไปเถอะครับ
แต่อยากให้กลับไปดูกำพืดก่อนว่า ช่วงที่รัฐบาลทักษิณ ให้สิทธิ BOI ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ๘ ปี แก่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด นั้น รัฐบาลได้คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน ที่เป็นปัญหาต้องแก้ในวันนี้หรือไม่
ผมมีข่าวเก่าให้อ่านครับ
เมื่อปี ๒๕๖๑ มีเฟซบุ๊กไอโอของระบอบทักษิณ ที่ชื่อว่า "กรุงเทพ กรุงเทพ" มักโพสต์ข้อความโชว์ความร่ำรวยของ "ทักษิณ"
"...หาเงินซื้อเองไม่ต้องยืมเพื่อน คนที่เก่ง ฉลาด มีกึ๋นส์ และมีวิธีคิดตามทันโลก อย่าง 'ทักษิณ' อยู่ที่ไหนก็ร่ำรวย
ที่ผ่านมา..มีธุรกิจเหมืองทองใน ๕-๖ ประเทศ เหมืองเพชร ในแอฟริกา เหมืองแพลทินัม (ทองคำขาว) น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โรงงานสร้างเฮลิคอปเตอร์ในกรุงอาบูดาบี ร่วมทุนนักวิจัยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ตั้งบริษัท ประดิษฐ์เครื่องมือขนาดเล็กตรวจหามะเร็งด้วยลมหายใจ
แนวคิดการลงทุนทำธุรกิจในต่างประเทศของท่านไม่ได้ยึดติดกับธุรกิจเดิมที่เคยทำ จะทำอะไรก็ได้ที่ดี เป็นประโยชน์ 'และทำเงินได้'
เรื่องการลงทุนทำเหมืองทองเกือบ ๑๐ ปีก่อน ตอนนั้นท่านคาดว่าค่าเงินจะมีความผันผวน ต่อไปทองคำจะมีมูลค่ามากขึ้น อาจจะอยู่ในรูปของธนาคารที่รับฝากทองคำ จึงได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองทองใน ๕-๖ ประเทศ จึงได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ จนได้ลงทุน!
ในประเทศยูกันดา มีถึง ๓๑ เหมือง อีก ๕ ประเทศ มีอย่างละ ๑-๒ เหมือง รวมมูลค่ากว่า ๕ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐบาลแล้ว ก็ยังมีรายได้เหลืออีกนับหมื่นล้านบาท..."
"เฉลิม อยู่บำรุง" เคยให้สัมภาษณ์ตอนไปหาทักษิณที่ดูไบว่า
"..ทักษิณ เล่าให้ฟังว่านายโมฮัมหมัด อัล-ฟาเอ็ด เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ ได้ติดต่อขายเฮลิคอปเตอร์ ๑ ลำ เพราะซื้อมาแล้วไม่ค่อยได้ใช้งาน ทักษิณ อาจจะตัดสินใจซื้อเนื่องจากจะใช้เดินทางไปดูเหมืองทองทั้ง ๕ เหมือง..."
"ทักษิณ" เก่งครับ หากินกับเหมืองมานานแล้ว
ส่วนรัฐบาลลุงตู่ เหมืองไม่เคยทำ กลับต้องมานั่งปวดหัวเรื่องเหมืองที่คนอื่นทำไว้
แถม เพื่อไทย จะเอาไปด่าในสภาอีก
นี่เรื่องจริงนะครับ ไม่ใช่ละครริษยาหลังข่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แก้รัฐธรรมนูญแกงส้ม
ก็เผื่อไว้... อาจจะมีการลักไก่ ลัดขั้นตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
เบื้องหลังผู้ลี้ภัย
เริ่มต้นปีก็ประกาศกันคึกคักแล้วครับ ทั้งฝั่งตรวจสอบ "ทักษิณ" ยัน "ผู้ลี้ภัย" สำหรับ "ทักษิณ" ปีนี้น่าจะโดนหลายดอกตั้งแต่ต้นปี
วันนี้ของ "วันนอร์"
ไม่ค่อยได้เขียนถึง "อาจารย์วันนอร์" สักเท่าไหร่ เพราะไม่มีเหตุให้ต้องวิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่ฉายา “รูทีนตีนตุ๊กแก” ที่นักข่าวรัฐสภาตั้งให้ ก็ยังแอบเคืองแทน หาว่ากอดเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯ แน่น
๒๕๖๘ อันธพาลการเมือง
ที่สุดแห่งปีในปีที่แล้วไม่มีใครเกิน "หมูเด้ง" เกิดมาเพื่อดังจริงๆ ไม่ใช่ดังธรรมดา แต่ดังข้ามทวีป คนรู้จักไปทั่วโลก
'ยิ่งลักษณ์' จะกลับมา
สิ้นปีแล้ว...แทนที่จะได้พักหูบ้าง "พ่อริ-ลูกยำ" สมุนตาม ชาวบ้านด่ากันขรม ยังไม่พออีกหรือ
'ทักษิณ' ไม่ไกลคุก
เหตุบ้านการเมืองก่อนสิ้นปี เป็นไปตามสภาพครับ คะแนนนิยมของ "แพทองโพย" ลดลง ตามนิด้าโพล ที่เขาสำรวจ คะแนนนิยมทางการเมือง ไตรมาสสุดท้าย ที่ ๒๙.๘๕ % จากไตรมาส ๓ ที่สูงกว่านิดหน่อย ๓๑.๓๕%