
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” การเมืองพักรบชั่วคราว แต่หลังเทศกาลสงกรานต์มีหลายเหตุที่จะต้องจับตาว่าการเมืองจะราบรื่น และรัฐบาลจะอยู่ครบเลือกตั้งหรือไม่ หลังกรณี เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยประกาศไม่เอากาสิโน กลางสภา ขณะที่หัวหน้าพรรคสีน้ำเงินก็ออกมาปัดว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค
หลายฝ่ายจึงประเมินว่า เกมสองหน้าแบบนี้ พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลคงจะไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะหากไม่ทำอะไร ก็อยู่ในสภาวะถูกพรรคร่วมรัฐบาลขี่อย่างหลายฝ่ายวิจารณ์
เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาวิเคราะห์ในหัวข้อ “ทักษิณ หยาม ภูมิใจไทยคือภูมิใจไทย” โดยระบุว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่าไม่มีปัญหาที่มีการชะลอออกไป และกล่าวว่า กาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่มีกาสิโนเป็นหลัก คนที่ต่อต้านก็จะนำไปพูดว่าเป็นกาสิโนอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่บิดเบือน
ได้ยินการพูดถึงประเด็นนี้ ทั้งจากปากของนายทักษิณและนางสาวแพทองธารมาแล้ว จึงขอตั้งคำถามกลับไปว่า ใครกันแน่ที่บิดเบือนเรื่องการเปิดกาสิโน แม้ว่าสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั้งหมด มีกาสิโน 10% แต่ 10% นี้คือหัวใจ มีมูลค่ามากกว่า 90% ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นักลงทุนเห็นความสำคัญของกาสิโน จึงยอมลงทุน ถ้าไม่มีกาสิโนอยู่ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย คงไม่มีนักลงทุนคนไหนมาลงทุนเมกะโปรเจ็กต์แบบนี้
เพราะเรื่องกาสิโนคือส่วนสำคัญของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงทำให้พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย เมื่อถูกถามถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ที่ประกาศไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ นายทักษิณได้แสดงท่าทีแบบดูถูก ไม่แคร์ไม่สนเลย และยังสบประมาทว่าพรรคภูมิใจไทยก็คือพรรคภูมิใจไทย พูดแบบไม่ให้ราคา หรือไม่ให้ความสำคัญใดๆ เพราะคิดว่าแม้พรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาชาติ ไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ ก็ไม่มีผลสะเทือนกับรัฐบาล และมีความมั่นใจว่ารัฐบาลมีเสียงมากเพียงพอที่จะทำให้กฎหมายผ่านไปได้ ซึ่งเป็นการท้าทายกระแสสังคม และดูถูกดูแคลนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างมาก
จะต้องรอดูว่ากาสิโนจะเดินหน้าไปต่ออย่างไร ถ้านายทักษิณยังมั่นใจและเดินหน้าต่อไป เชื่อว่าจะเกิดวิกฤตสังคมรอบใหม่อย่างแน่นอน
๐ อีกความเคลื่อนไหวสำคัญคือ การแก้ปัญหาภาษีของสหรัฐ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะผู้เจรจาจะเดินทางล่วงหน้าไป ที่นครซีแอตเทิล สหรัฐ ในวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายนนี้ จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน นี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเดินทางไปร่วมกับคณะของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเป็น “ทีมไทยแลนด์” และทั้งคณะจะเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเตรียมเข้าพบกับผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันจันทร์ที่ 21 เมษายนนี้ สำหรับแนวทางการดำเนินการของไทยต่อกรณีนโยบายการค้าและมาตรการด้านภาษีของสหรัฐ ภายใต้ 5 หลักการดังนี้ 1.การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมที่ไทยและสหรัฐเกื้อหนุนกัน
2.การเปิดตลาดและลดภาษี ลดอุปสรรคทางการค้าตาม National Trade Estimate 2025 ของสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลพร้อมพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีนำเข้า และบริหารโควตาสินค้าเกษตรที่สหรัฐมีความสามารถในการแข่งขัน
3.การเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐ ในสินค้าที่ไทยจำเป็นต้องใช้ โดยไทยเตรียมพิจารณานำเข้าพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติ และวัตถุดิบที่ภาคอุตสาหกรรมต้องใช้แต่ผลิตไม่ได้เพียงพอ เช่น วัตถุดิบด้านปิโตรเคมี หรือเครื่องบินพาณิชย์ เพื่อเติมเต็ม supply chain ของประเทศ
4.การตรวจสอบเพิ่มความเข้มงวดสินค้าส่งออกไปสหรัฐ ป้องกันการสวมสิทธิ์จากประเทศที่สาม โดยรัฐบาลตระหนักถึงความกังวลของสหรัฐ เกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าราคาต่ำจากประเทศที่สามผ่านไทย เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
5.การส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐ ซึ่งนอกจากนำเข้าสินค้าจากสหรัฐแล้ว ไทยยังมีแผนผลักดันให้ภาคเอกชนไทยลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปในสหรัฐ โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ผลิตสินค้าส่งออกจากฐานการผลิตในอเมริกาไปยังตลาดโลก.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

