Aftershock...สะเทือนท่องเที่ยวไทย

เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมียนมา ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งแรงสั่นสะเทือนรุนแรงมายังหลายพื้นที่ในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ทำให้ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความอลหม่าน รถไฟฟ้าหยุดชะงัก การจราจรติดขัดทั่วทั้งเมือง อีกทั้งเกิดเหตุตึกอาคารถล่ม และอาคารอีกหลายหลังที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้คนไทยและต่างชาติเกิดความตื่นตระหนกเป็นจำนวนมาก

ซึ่ง สักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผลกระทบของแผ่นดินไหวดังกล่าวยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม

เพราะผลกระทบได้ส่งผ่านหลายช่องทาง ทั้งทรัพย์สินและกิจกรรมที่หยุดชะงัก อีกทั้งตัวเลขความเสียหายยังมีเข้ามาต่อเนื่อง จึงต้องขอดูข้อมูลให้ชัดเจนก่อน แต่เหตุแผ่นดินไหวอาจกระทบต่อความเชื่อมั่น ทำให้พฤติกรรมภาคธุรกิจและประชาชนเปลี่ยนไป โดยสิ่งที่ ธปท.กำลังจับตาอยู่คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังมีความกังวลอยู่บ้าง ทำให้ชะลอเข้าไทย สะท้อนจากการยกเลิกตั๋วเครื่องบินและที่พัก

ขณะที่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ หรือ SCB EIC รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมียนมา ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งแรงสั่นสะเทือนรุนแรงมายังหลายพื้นที่ในไทยให้ได้รับผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงเชียงใหม่และกรุงเทพฯ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย โดยแม้ว่าสนามบินทั่วประเทศจะกลับมาใช้งานตามปกติ ไม่มีนักท่องเที่ยวตกค้างหลังประกาศปิดให้บริการกว่า 1 ชั่วโมง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังอยู่ในไทยส่วนใหญ่สามารถกลับเข้าที่พักได้ หลังโรงแรมที่เป็นตึกสูงหลายแห่งได้รับการประเมินความปลอดภัยเบื้องต้นแล้ว แต่เหตุแผ่นดินไหวนี้ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติทันที โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุ

นอกจากนี้ SCB EIC ยังพบว่าเหตุแผ่นดินไหวเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทย สะท้อนจากตัวเลขการยกเลิกห้องพักในช่วง 2 วันหลังเกิดเหตุการณ์ของสมาคมโรงแรมไทย มีการยกเลิกห้องพักแล้วประมาณ 1,100 บุ๊กกิ้งทั่วประเทศ โดยจากข้อมูลของผู้ประกอบการโรงแรม ห้องพักที่ถูกยกเลิกส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกทั้งการสำรวจยอดการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2025 ของสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย 52 แห่ง ณ วันที่ 3 เมษายน 2025 ยังพบว่ายอดการจองห้องพักลดลงราว -25% YOY โดยชลบุรีมีการจองห้องพักลดลงสูงสุดที่ราว -67% YOY ตามด้วยกรุงเทพฯ-32% YOY สุราษฎร์ธานี -19% YOY และเชียงใหม่ -11% YOY

อย่างไรก็ดี SCB EIC ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ลดลงราว 2-7 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว โดยผลกระทบจะแตกต่างกันใน 3 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1 Better case : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนลดลงราว -9% MOM และใช้เวลาฟื้นตัวราว 2 เดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมราว 1.95 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว สูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปราว 9.53 พันล้านบาท

กรณีที่ 2 Base case : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนลดลงราว -12% MOM และใช้เวลาฟื้นตัวราว 3 เดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมราว 4.2 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว สูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปราว 2.06 หมื่นล้านบาท

และกรณีที่ 3 Worse case : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนลดลงราว -15% MOM และใช้เวลาฟื้นตัวราว 4 เดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมราว 6.8 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว สูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปราว 3.30 หมื่นล้านบาท

โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณีจะประเมินภายใต้กรอบแนวทาง ดังนี้ 1.การลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายน 2025 ที่สูงกว่าการลดลงเฉลี่ยตามฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนในช่วงปี 2023-2024 ซึ่งอยู่ที่ราว -6% MOM และ 2.ระยะเวลาการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 38.2 ล้านคน ตามสมมติฐานในแต่ละกรณี

อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หากภาครัฐเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังเหตุแผ่นดินไหว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ภาคท่องเที่ยวกลับมาเติบโตในระดับปกติได้เร็ว.

 

บุญช่วย ค้ายาดี 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม

ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด