
“ไม่เห็นใครเดินขบวนต้านบ่อนเถื่อนทั่วกรุงเลย
แต่พอรัฐจะสร้างกาสิโน นำรายได้มาพัฒนาชาติ กลับดิ้นค้านใหญ่เลย คุณปกป้องบ่อนเถื่อนหรือเปล่า”..“น่าคิด”
นี่..คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง คงกลัว “ม็อบ” ต่อต้านบ่อนกาสิโนจะจุดไม่ติดหรือไง ถึงได้สะเหล่อสาดน้ำมันเข้าไปอย่างนั้น?
ก็ไม่รู้ว่า..ป่านนี้ จะได้รับความดีความชอบจากเจ้าของคอก หรือจะโดนเขกกะบาลไปแล้วกี่โป๊ก?
เอ้า..และนั่นนึกว่าจะรอด-สบายไปแล้ว หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องใน “คดีดิไอคอน”
ที่ไหนได้..กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เผยแพร่เอกสารระบุ.. “ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สอบสวนดำเนินคดีอาญากรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวกรวม 19 คน
ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย
แล้วต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้พิจารณาสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐาน และมีคำสั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหาจำนวนสองคน
คือบอสมิน และบอสแซม และส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวมายังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เพื่อพิจารณาว่าจะเห็นแย้งหรือไม่ ตามที่ปรากฏข่าวแล้วนั้น
ล่าสุด พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน และความเห็นของพนักงานอัยการประกอบแล้ว
เห็นว่ายังมีข้อเท็จจริงบางประการ ที่สมควรเสนอให้อัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาด
จึงได้ทำความเห็นแย้งเห็นควรฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองราย เสนอไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาชี้ขาดต่อไป”
ครับ.. “บอสมิน” ก็คือ คุณพีชญา วัฒนามนตรี ส่วน “บอสแซม” ก็..คุณยุรนันท์ ภมรมนตรี ซึ่งจากนี้ทั้งสองก็เห็นจะใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาอีกแล้ว
ไม่รู้ว่าความเห็นแย้งจะมีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน และอัยการสูงสุดจะพิจารณาชี้ขาดอย่างไร?
ที่ได้อิสรภาพพ้นคุกออกมาก็คงเป็นแค่ชั่วครู่-ชั่วยาม..ผู้สร้าง ผู้กำกับรายการโทรทัศน์ก็อย่าเพิ่งด่วนใจร้อนรีบจ้างงาน..
ประเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุทางคดีความขึ้นมา จะเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา..นี่ก็เตือนกันด้วยหวังดี!
พูดถึงคดีความ ตอนนี้ไม่รู้ว่าคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) นับ 10 นาย
บุกเข้าค้นบ้านของคุณไญยิกา อธิคุปต์ธนวัฒน์ ผู้ประกาศข่าวจากสื่อยูทูบ “THE Critics” ของ “สถาบันทิศทางไทย” ภายหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร
ได้มอบหมายให้ทนายความร้องเรียน ว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหากับผู้ใด
และได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พร้อมคำถามจากสื่อและสังคมว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการใช้กำลังเกินควร และเป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลหรือไม่?
ต่อมา คุณถาวร เสนเนียม นักการเมืองรุ่นเก๋า ก็ได้ขันอาสารับเป็นทนายให้กับสถาบันทิศทางไทย พร้อมได้แสดงความเห็นว่า..
“การดำเนินการดังกล่าวแสดงถึงพฤติกรรมที่คล้ายกับการข่มขู่คุกคามสื่อมวลชน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลควรส่งเสริม
ในฐานะผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในด้านการต่อสู้ทางการเมืองและกฎหมาย จึงได้ตัดสินใจรับเป็นทนายความให้กับสถาบันทิศทางไทย
และจะยืนหยัดเคียงข้างในฐานะผู้สนับสนุนการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ทำงานบนพื้นฐานของความจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายหรือโจมตีโดยมิชอบ
เพื่อประโยชน์ของสาธารณะและพี่น้องประชาชน ถือเป็นการท้าทายอำนาจของทักษิณ ชินวัตร และเป็นการยืนยันว่าไม่มีใครสามารถข่มขู่หรือปิดปากสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณได้
ไม่ว่าจะมีกำลังทางการเมืองหรืออำนาจการสืบสวนใดๆ ก็ตาม”
ครับ..แต่ดูเหมือนทุกอย่างกำลังตกอยู่ในความเงียบ หากสื่อ-ผู้ต้องหาพอจะมีเวลา ช่วยกรุณาส่งเสียงรายงานความคืบหน้า..
ถ้าทักษิณถอย ก็จะได้ร่วมยินดี!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝากถึง ‘อาจารย์เชน’
“สรรพลี้หวน” (อ่านว่า สับ-พะ-ลี้-หวน).. ใครที่เป็นคนปักษ์ใต้ ก็น่าจะพอได้ยิน-ได้รู้มาบ้างหมายถึงอะไร หรือหากสงสัยด้วยไม่คุ้นตา-คุ้นหูมาก่อน ก็ลองอ่านจากที่วิกิพีเดียบันทึกไว้ก็ได้..
ใครต้องการ?
ธาตุไฟแตกอาการเป็นอย่างไร? ดูได้จากคุณอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ที่โพสต์เมื่อวานนี้.. “การเมืองที่ดี ต้องพาประเทศไปข้างหน้า ไม่ใช่พากลับไปซ้ำรอยเดิม
‘อภิสิทธิ์’ระเบิดสะพาน(อีกแล้ว)
เพจเฟซบุ๊ก “พรรคประชาธิปัตย์”..ได้โพสต์คลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค..
‘ฝ่ายค้าน’นิรันดร์กาล!
“เวลานี้ด้วยความที่ทุกคนกล่าวขานกันอย่างชัดเจนว่า พวกส้มมาแน่ วันนี้เราจึงเจอปฏิบัติการ IO ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารพยายามทำลายดิสเครดิตพรรคประชาชนกันอย่างถ้วนหน้า
‘ทนาย’..ไม่ต้อง!
เรื่องใกล้ตัว! บางคนท่านอาจเคยมีประสบการณ์ทั้งกับตัวเอง ทั้งกับการที่ตาได้แลเห็น ผมหมายถึงกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทะเลาะกันหน้าร้านสะดวกซื้อ
เหตุเกิดที่‘ไทยพีบีเอส’
“ช็อกตาตั้ง” ครับ! เปล่า..ไม่ได้ช็อกที่ทัพเซปักตะกร้อ “ทีมเดี่ยวชายไทย” พลาดท่าแพ้ให้กับเวียดนาม 1-2 เซต ชวดเข้าชิงชนะเลิศเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย กีฬาซีเกมส์ 2025 นั่นหรอก!

