อย่าฉวยโอกาสยามวิกฤต

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.2 ริกเตอร์ ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น.ของวันที่ 28 มี.ค. ได้ส่งผลให้แรงสะเทือนถึงประเทศไทยหลายพื้นที่ ได้สร้างความเสียหายรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขณะนั้นได้เกิดความโกลาหล ส่งผลให้ระบบขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการ ทำให้เกิดการฉวยโอกาสของคนบางกลุ่ม ในเวลาต่อมามีการร้องเรียนค่อนข้างมากถึงกรณีรถแท็กซี่-จักรยานยนต์สาธารณะ-สามล้อสาธารณะ เอารัดเอาเปรียบผู้โดยสาร เช่น มีคุณแม่คนหนึ่งออกมาระบายผ่านโซเชียลมีเดีย

โดยมีใจความว่า ได้หอบลูกทั้ง 2 คน เพื่อจะออกมาจากห้างเบียดกันจนเกือบจะหกล้ม วิ่งเท้าเปล่าออกมาจนเรียกรถแท็กซี่ได้ ถ้าปกติค่ามิเตอร์อยู่ประมาณ 55 บาท เพราะว่าบ้านกับสยามพารากอนห่างกันแค่ 1.8 กิโลเมตร แต่แท็กซี่หลายคันขอ “คิดค่าบริการพิเศษในราคา 500 บาทไม่รวมกับค่ามิเตอร์ จึงไปเรียกรถตุ๊กๆ แทน บางคันปฏิเสธ บางคันขอคิดค่าโดยสารในราคา 2,000 บาท

ขณะเดียวกันในส่วนของ โดม-ปกรณ์ ลัม ดารานักร้องชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบายความในใจผ่านโซเชียล พร้อมฝาก “ถึงพี่ๆ แท็กซี่และไรเดอร์ ผมเคยอดทนกับการขับรถของพวกพี่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าไฟแดง สวนเลน แซงซ้าย ปาดหน้า เปลี่ยนเลนไม่เปิดไฟ มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ครั้งนี้ผมขอเถอะครับ!! พี่อย่าโก่งราคาค่าโดยสารคนไทยด้วยกันที่กำลังเดือดร้อนเลย

โดยโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก โดยหลายคนแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า พฤติกรรมโก่งราคาค่าโดยสารเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ หลายคนหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไข และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องราคาค่าโดยสารให้เป็นธรรมกับผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าทุกสายต้องหยุดให้บริการ ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนัก

แน่นอนว่าเรื่องนี้ได้ถึงหู สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยได้เน้นย้ำว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ รถสามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารโดยเฉพาะในช่วงสภาวะวิกฤตนี้โดยเด็ดขาด และห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร ต้องส่งผู้โดยสารตามจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ และต้องคิดค่าโดยสารตามมิเตอร์ หรือไม่เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนดด้วยเช่นกัน และผู้ขับขี่ต้องไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถ

ขณะที่ จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะต้องมีใบอนุญาตขับรถถูกต้อง และตัวรถต้องจดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง) สำหรับกรณีรถโดยสาร พนักงานขับรถต้องมีความพร้อมสำหรับให้บริการตามมาตรการด้านความปลอดภัย และขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานที่กฎหมายกำหนด ผู้ประกอบการขนส่งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ห้ามเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด สภาพรถโดยต้องมีความพร้อมใช้งาน

หากพบการกระทำความผิดเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตัดคะแนนความประพฤติ 30 คะแนน กรณีแท็กซี่ไม่มีหรือไม่ใช้อุปกรณ์มาตรค่าโดยสาร (มิเตอร์) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือกรณีปฏิเสธผู้โดยสาร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ตัดคะแนนความประพฤติ 20 คะแนน สำหรับรถสาธารณะที่ทำผิดกฎหมาย จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดและอาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

พร้อมกันนี้ กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมประสานงานให้ผู้ประกอบการขนส่ง ทั้ง ขสมก. และเอกชน เพิ่มเที่ยววิ่งให้บริการรถโดยสารประจำทางเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน พร้อมทั้งแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการรถสาธารณะต่างๆ ทั้งแท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้างมิให้ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารในสภาวะวิกฤตนี้ นอกจากนี้ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่และผู้ตรวจการขนส่งทางบกลงพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ดังนั้น เพื่อไม่ให้รถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่-จักรยานยนต์สาธารณะ-สามล้อสาธารณะ เอารัดเอาเปรียบผู้โดยสาร หากประชาชนที่พบปัญหาจากการใช้บริการรถสาธารณะ สามารถร้องเรียนมายังช่องทางต่างๆ ของกรมการขนส่งทางบก เช่น สายด่วน โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง, [email protected], Facebook ชื่อ “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ”, Line: @1584dlt และแอปพลิเคชัน DLT GPS เป็นต้น.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม

ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด