จับเข่าคุยทูตรัสเซีย กรณีวิกฤตยูเครน (2)

ผมนัดหมายเพื่อขอซักถามเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย Evgeny Tomikhin (เยฟเกนี โทมิคิน) เพราะต้องการรู้ว่าจุดยืนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อกรณี “วิกฤตยูเครน” นั้นเป็นอย่างไรกันแน่

จะบุกยูเครนอย่างที่มะกันกล่าวหา และจะตั้งรับคำขู่คว่ำบาตรของสหรัฐฯ และ NATO อย่างไร

รัสเซียไม่กลัวการบอยคอตของสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตกหรือ ใครเป็นมิตรกับรัสเซียในกรณีนี้บ้าง

ท่านทูตบอกว่าสถานการณ์ความมั่นคงวันนี้ในยุโรปอยู่ใน “ภาวะอันไม่พึงปรารถนา” สำหรับรัสเซียแน่นอน

เพราะองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ยังจ่ออยู่หน้าบ้านของรัสเซีย

มอสโกเชื่อว่าวอชิงตันต้องการจะ “ล้อมปราบ” รัสเซียทุกวิถีทาง

 “พวกเขาพูดถึงการระดมทหารรัสเซียจำนวนมากตรงชายแดนกับยูเครน...แต่ทหารทั้งหมดของเราตั้งอยู่ในดินแดนของเรา ไม่ใช่อยู่นอกเขตแดนของเรา...”

ท่านทูตพูดเปรียบเทียบให้ฟังว่า ถ้าทหารไทยถูกส่งไปรักษาความมั่นคงตรงชายแดนติดกับพม่า ย่อมไม่มีใครกล่าวหาว่าสงสัยไทยจะรุกรานพม่า

 “มันเป็นกิจการภายในของเรา...เรามีแผนการซ้อมรบ และการตรวจตราความพร้อมสำหรับการป้องกันประเทศของเรา...”

ทูตโทมิคินยืนยันว่า รัสเซียมีสิทธิ์จะทำทุกอย่างในดินแดนของตน

 “ประเด็นสำคัญก็คือทหารอเมริกันมาทำอะไรอยู่ในยุโรปตะวันออก ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากดินแดนสหรัฐฯ เป็นพันๆ ไมล์...ประเทศยุโรปตะวันออก เช่น เอสโตเนีย, แลตเวีย, ลิทัวเนียและโปแลนด์เป็นสมาชิกนาโต...”

ท่านทูตชี้ให้เห็นว่าเอสโตเนียอยู่ห่างจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก (เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย) เพียง 130 กิโลเมตรเท่านั้น

ผมถามว่า “แปลว่ารัสเซียรู้สึกถูกคุกคามกระนั้นหรือ”

ท่านทูตตอบ : “แน่นอน เรารู้สึกถูกคุกคาม และเราต้องการคำรับรองว่านาโตจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเรา”

ด้วยเหตุนี้รัสเซียจึงพยายามจะขอให้สหรัฐฯ และนาโตเข้าสู่การเจรจา

 “ถ้าเราย้อนไปดูประวัติศาสตร์...ในปี 1997 รัสเซียกับนาโตมีข้อตกลงที่จะเคารพในผลประโยชน์ของกันและกัน รับรองความมั่นคงและเสถียรภาพของกันและกัน”

ในขณะนั้นท่านทูตบอกว่า “ไม่มีใครพูดถึงการขยายสมาชิกของนาโต” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รัสเซียเห็นการขยายตัวของสมาชิกนาโตถึง 5 รอบ

และเมื่อรัฐบอลติกและโปแลนด์แสดงความจำนงที่จะเข้าร่วมนาโต ประเทศยุโรปตะวันตกบอกรัสเซียว่า        “ไม่ต้องกลัว...เพราะประเทศเหล่านี้มีความหวาดกลัวรัสเซีย ดังนั้นถ้าพวกเขาร่วมนาโตแล้ว ความมั่นใจก็จะเกิด และจะเลิกระแวงสงสัยรัสเซีย...และพวกเขาจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของรัสเซีย”

แต่ทูตรัสเซียบอกว่า เอาเข้าจริงๆ สถานการณ์วันนี้กลับกลายตาลปัตร

เพราะมอสโกเห็นว่าวันนี้ประเทศกลุ่มนี้กลับกลายเป็นชาติที่มี “ความก้าวร้าว” ที่สุดต่อรัสเซีย

ดังนั้น ท่านทูตบอกว่า “ประเด็นที่เรากำลังพูดกันอยู่ขณะนี้ จึงมากกว่าเพียงแค่เรื่องยูเครนกับรัสเซียเท่านั้น”

ประเด็นหลักที่รัสเซียต้องการยกขึ้นมาต่อรองกับสหรัฐฯ คือความมั่นคงและเสถียรภาพของทั้งยุโรป

ผมถามว่าเงื่อนไขสำคัญของประธานาธิบดีปูตินคืออะไร

ท่านทูตบอกว่ารัฐบาลรัสเซียเอาข้อเสนอเหล่านี้ขึ้นเว็บไซต์ให้ทุกคนเข้าถึงได้หมดอย่างเปิดเผย

 “เพื่อความโปร่งใสและเพื่อไม่ให้ต้องตีความไปต่างๆ นานา เราให้ทุกคนสามารถเข้าไปอ่านร่างข้อตกลงที่ฝ่ายเราเสนอไปให้อเมริกาเลย หาอ่านได้บนเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย...”

เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดของฝ่ายรัสเซียคือ การระงับการขยายสมาชิกของ NATO

 “แต่เรากลับได้ยินประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคน ของสหรัฐฯ พูดถึงการเชิญประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น สวีเดนกับฟินแลนด์มาร่วมนาโต...แม้ว่า 2 ประเทศนี้จะเคยประกาศนโยบายเป็นกลางมาแล้ว และได้บอกว่าไม่มีแผนที่จะมาร่วม NATO...”

เงื่อนไขที่สำคัญอีกข้อหนึ่งของรัสเซียคือ จะต้องไม่มีการเสริมแสนยานุภาพทางอาวุธทำลายร้ายแรงของนาโต

แต่รัสเซียบอกว่าพร้อมจะต่อรองเรื่องการจำกัดขอบเขตการซ้อมรบของกันและกัน และลดกิจกรรมต่างๆ ทางทหารของทั้ง 2 ฝ่าย

 “แต่ก่อนนี้ทะเลบอลติกเป็นย่านที่สงบและสันติมาก แต่วันนี้เต็มไปด้วยเรือรบและเครื่องบินว่อนไปหมด จนเกิดปัญหาการจราจรทางอากาศสำหรับสายการบินพาณิชย์...”

ประเด็นหลักรัสเซียวันนี้ก็คือ

การดำรงอยู่ของ NATO ทุกวันนี้มีเป้าหมายอะไรในเมื่อตอนที่ก่อตั้งองค์กรนี้เมื่อปี 1949 นั้น มีเป้าหมาย 3 ข้อคือ

ขับสหภาพโซเวียตออกจากยุโรป

ให้สหรัฐฯ เข้ามายุโรป และให้เยอรมนีอยู่ใต้ยุโรป

พูดง่ายๆ คือ NATO ตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ท่านทูตบอกว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เงื่อนไขเหล่านั้นก็หายไปหมดแล้ว

เยอรมันรวมชาติแล้ว

สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายแล้ว

สงครามเย็นก็จบแล้ว

 “ดังนั้นคำถามก็คือ แล้วทำไมจึงยังคง NATO อยู่...”

ผมถามว่านั่นซิ ทำไม

ท่านทูตรัสเซียตอบว่า “ก็นั่นน่ะซิ...ถ้าไม่ใช่เพื่อสกัดและล้อมปราบรัสเซียวันนี้...”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ