
ต้องบอกว่า....
“ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก” อย่างนั้นจริงๆ สำหรับรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง
ลำพังเรื่อง “พ่อซุกหุ้น-ลูกซุกหนี้” ผ่านตั๋ว P/N ก็ว่าหนักหนา เพราะ สส.วิโรจน์ พรรคประชาชน “กัดไม่ปล่อย”
เมื่อวาน (๒๗ มี.ค.๖๘) รัฐบาลยังดัน “พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เข้า ครม.ชนิดไม่แคร์สังคม
และ ครม.ก็ประทับตราเปรี้ยง
เห็นชอบให้ประเทศไทยมี “บ่อนกาสิโน” พ่วงด้วย “พนันออนไลน์” ถูกต้องตามกฎหมาย!
เจริญละ...รัฐบาลเพื่อไทย
แต่ประเทศไทยจะเจริญหรือสังคมต้องวิบัติกับการมีบ่อนกาสิโน+พนันออนไลน์ คนไทยตอบกับตัวเองได้มิใช่หรือ?
เมื่อ ครม.เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.นี้ก็จะถูกส่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนฯ ซึ่งก็แน่นอน มันผ่านอยู่แล้ว
ในเมื่อ “ทุกพรรคร่วม” เห็นดี-เห็นงาม ในระบบสภา ตอนโหวต ก็พรึ่บสบายๆ!
เป็นอันว่า “เสร็จมัน” ไทยมีบ่อนกาสิโน มีพนันออนไลน์ ไปถึงระดับ ๗๐-๘๐% แล้ว
อีก ๒๐-๓๐% ว่าจะเสร็จหรือไม่เสร็จมัน
ก็ขึ้นอยู่กับ “ภาคประชาชน”เท่านั้น ว่าจะเอายังไง!?
ส่วนเรื่องตั๋ว P/N นายกฯ นั้น ถึงตอนนี้ เท่าที่สดับตรับฟังพรรคประชาชน “เอาจริง” ไม่จบแค่ซักฟอกในสภาแน่
ฟังที่ สส.วิโรจน์พูด ท่านเดินหน้าแบบ “มืออาชีพ” ไม่ผลีผลามสักแต่ว่าหมุบหมับ ก็ยื่น ป.ป.ช.
หากแต่ท่านดำเนินการ “มัดให้แน่น” ประมวลหลักฐานไปทีละเปลาะ บอกว่าเช้านี้ (๒๘ มี.ค.) จะไปพบ “นายปิ่นสาย สุรัสวดี” อธิบดีกรมสรรพากร ที่กรมสรรพากร
เพื่อไปเอาคำตอบให้ “เป็นหลัก-เป็นฐาน” จากปากว่าอธิบดีสรรพากรโดยตรงเลย
ที่ว่า “เป็นเรื่องปกติ ไม่เข้าข่ายการหลบเลี่ยงภาษี” นั้น เอาตรงๆ ชัดๆ ว่า “มันยังไงกันแน่ เลี่ยงหรือไม่เลี่ยง”?
เมื่อได้คำตอบเป็นหลักเป็นฐานจากอธิบดีสรรพากรแล้ว ก็จะไปพบ “ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน” ว่าท่านมีความเห็นอย่างไร?
จากนั้นก็จะนำข้อมูลที่ได้มาพิจารณา จะยื่น ป.ป.ช.หรือไม่ยื่น ก็ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของหลักฐานตามที่ได้นำมาวิเคราะห์
นี่เท่าที่ฟัง สส.วิโรจน์ให้สัมภาษณ์ทางรายการข่าว
สส.วิโรจน์ยังชมอดีต “นายกฯ เศรษฐา” ในเรื่องโอนหุ้นให้ลูกสาวก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ว่า
“เป็นการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เสียภาษีอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งผมต้องขอชื่นชมทั้งคุณเศรษฐา และลูกสาวของคุณเศรษฐาในเรื่องนี้”
เรื่องตั๋ว P/N นี้ อย่างเราบ้านๆ ไม่ใช่นักธุรกิจระดับหมื่นล้าน-แสนล้าน เข้าใจยากอยู่ซักหน่อย
ต้องอาศัยคนในวงการเงิน-การธุรกิจเขาจะรู้และเข้าใจดี ผมอ่านที่ “สส.นายจุลพงศ์ อยู่เกษ” พรรคประชาชน ตอบข้อซักถามนักข่าววันก่อน ต้องบอกว่า....
ท่านทำเรื่องยากให้คนไม่รู้อย่างผมเข้าใจและเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจนง่ายๆ
ทั้งนี้เพราะ สส.จุลพงศ์เคยเป็น “ประธานคณะกรรมการ RHB Bank” ประเทศมาเลเซีย มาก่อน เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ-การเงิน-หุ้น
เมื่อนักข่าวถามว่า....
“มองกรณีเรื่องตั๋ว P/N ของนายกฯ อุ๊งอิ๊งอย่างไร และคิดว่านายกฯ ชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านฟังขึ้นหรือไม่?
สส.จุลพงศ์ตอบขวับ “ชี้แจงไม่ได้”....
เพราะไม่อย่างนั้น (คือทำอย่างที่นายกฯ ทำ-เปลว) ต่อไป คนก็ออกตั๋ว P/N กันหมด กรมสรรพากรก็จะไม่มี “ภาษีเงินได้”
เช่น ผมซื้อที่ดินจากคุณ หรือของอะไรสักอย่างที่มีมูลค่า เช่นที่ดิน มันก็ต้องมีการเสียภาษี
แต่ต่อไปบอก จะออกเป็นตั๋ว P/N ที่ไม่มีวันถึงกำหนด หรืออาจจะเป็นอีกสิบปีข้างหน้า
ก็แสดงว่าคุณที่เป็นคนขายไม่ได้เงินจากผม คุณก็ไม่ต้องเสียภาษี “กรมสรรพากรจะเอาแบบนี้หรือ”?
สส.วิโรจน์ที่อภิปราย ถึงบอก จะทำหนังสือถึงกรมสรรพากร ว่าหากกรมสรรพากรปล่อยให้ทำแบบนี้ มันจะไม่ได้
คือ กรมสรรพากร เขาจะดูว่า ที่ออกตั๋ว P/N ให้กัน มีเหตุผลหรือไม่ เช่น ๑.มีดอกเบี้ยหรือไม่ ๒.ไม่มีกำหนดเวลาการชำระเงิน มันเป็นไปได้อย่างไร?
ประเด็นนายกฯ ชี้แจงว่า “ช่วงทำธุรกรรมเป็นเรื่องการปรับโครงสร้างหุ้น และที่ได้รับโอนหุ้นมา ตัวเองยังไม่พร้อมชำระเงิน แต่จะมีการชำระเงินภายในปีหน้า”
สส.จุลพงศ์บอกว่า...
“เรื่องปรับโครงสร้างหุ้นก็เรื่องปกติในการซื้อหุ้นทางธุรกิจ แต่การจ่ายค่าหุ้น ในแง่ของสรรพากร เขาจะดูว่าคุณเจตนาหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีหรือไม่ สมเหตุสมผลหรือไม่ ที่ออกตั๋ว P/N เช่น การที่ไม่ให้มีดอกเบี้ย?
และอย่าลืม แม่-ลูกให้กัน ก็ต้อง “เสียดอกเบี้ย” พี่น้องให้กัน ก็ “เสียดอกเบี้ย” ถ้าเกิน ๒๐ ล้านบาท “ต้องเสีย”
ไม่อย่างนั้น ก็อ้างว่า "ให้" ได้หมด แทนที่จะขาย ก็อ้างว่า "ให้" ก็ต้องเสีย
ก็จะดูสองเรื่องคือ หนึ่ง มีดอกเบี้ยหรือไม่ คนที่รับเงินไม่มีกำหนดชำระ แล้วยังไม่มีดอกเบี้ยให้อีก มัน “ผิดปกติ”
ยกตัวอย่าง ผมเป็นหนี้คุณ ๑๐๐ ล้านบาท ไม่มีกำหนดชำระ ไม่มีดอกเบี้ย มันผิดปกติหรือไม่ ใช่ไหม มันก็ผิดปกติ
อันนี้ ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของการ “วางแผนภาษี” แต่มันต้องมีความสมเหตุสมผล
นักข่าว : สังคมจะเชื่อมั่นกรมสรรพากรกรณีนี้ได้หรือไม่ เพราะคนที่ถูกอภิปรายเป็นนายกฯ และตัวอธิบดีกรมสรรพากรก็ถูกมองว่าเป็นลูกชายอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (นายปลอดประสพ สุรัสวดี)?
สส.จุลพงศ์ : ก็เคยมีกรณีอธิบดีกรมสรรพากร อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ที่เคยไปเป็น รมช.การคลัง (เบญจา หลุยเจริญ รมช.การคลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์) ก็เคยติดคุกไปแล้ว
ที่ไปทำหนังสือ "ออกความเห็น" ด้านภาษีในทางที่ไปเอื้อประโยชน์ ถ้าจะออกมาแบบนี้อีก....ก็เอา
สรรพากรต้องตีความกฎหมายในทางที่แผ่นดินได้ประโยชน์ ไม่ใช่ตีความกฎหมายในทางไปเอื้อให้เอกชนได้ประโยชน์
มันต้องมีหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพื่อไม่ให้คนอาศัยช่องกฎหมาย เพราะภาษี “วางแผนภาษี” ได้ อาจอาศัยช่องได้
หากว่า “สมเหตุสมผล” กฎหมายก็ “ยอมรับ”
แต่บางเรื่อง มันไม่สมเหตุสมผล และเคสนี้ เงินจำนวนเยอะ และมีการโอนขายหุ้นมาตั้งหลายปี แล้วเพิ่งมาบอกว่า "ปีหน้าจะชำระเงิน"
แบบนี้ หากฝ่ายค้านไม่เอามาอภิปราย ก็ไม่มีการชำระปีหน้านะสิ พอฝ่ายค้านนำมาอภิปราย ก็มาบอกว่า “จะชำระปีหน้า”
นักข่าว : เข้าข่ายนิติกรรมอำพรางแบบที่ สส.วิโรจน์อภิปรายในสภามั้ย?
สส.จุลพงศ์ : เข้าครับ จริงๆ คือ การฝากหุ้น ให้หุ้น หรือฝากหุ้น แต่ฝากหุ้น มันเหมือนกับให้ ต้อง “เสียภาษี” ทันทีเลย
ก็ใช้วิธีขาย แต่ทำตั๋ว P/N จ่ายราคา แต่นานๆ แบบไม่มีกำหนด ไม่มีดอกเบี้ย ต้องบอกว่า “ภาษีเป็นเรื่องจริยธรรม"
เรื่องเสียภาษีสำคัญมาก ประชาชนต่างก็เสียภาษี แม่ค้าก็เสียภาษี แล้วทำไมนายกฯ จะไม่เสีย?
ในต่างประเทศ ใครทำผิดเรื่องภาษี กระเด็นจากตำแหน่งทันทีเลย ต่างประเทศไม่ยอมเด็ดขาดเรื่องภาษี
ตามหลักมาตรฐานสากล ความผิดเรื่องหลีกเลี่ยงภาษีรุนแรงมาก ตั๋ว P/N เป็นเรื่องปกติของธุรกิจ หากมีการชำระหนี้จริงๆ เช่น มีการกำหนดเวลาการชำระหนี้ในตั๋ว P/N
แต่การไม่มีการกำหนดเวลาการชำระหนี้ คือ "สิ่งผิดปกติ"
และหากมีการชำระก็ควร "มีดอกเบี้ย" จะสูงหรือมากไม่เป็นไร
เพราะฉะนั้น ความผิดปกติกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปราย คือมันส่อให้เห็นเหมือนกับว่ามีการ "หลีกเลี่ยงภาษี"
หรือไม่ก็มีการ "ซุกหุ้น" สองอย่าง นายกฯ ควรอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ
เพราะเรื่องภาษี ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ยิ่งโดยเฉพาะคนที่อยู่ในการเมืองหรือบุคคลสาธารณะ
“ผมยืนยันว่าตั๋ว P/N ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่เรื่องนี้มันผิดปกติตรงที่ ๑.เวลาการชำระหนี้ มีการชำระหนี้ล่าช้า และ ๒.ไม่มีดอกเบี้ย มันผิดปกติ
และระหว่างพี่น้องด้วยกัน มันก็ผิดปกติ ตรงที่ว่าเป็นการเลี่ยงภาษี หรือเป็นการซุกหุ้น เพราะพี่น้องให้หุ้นต่อกันก็ต้องเสียภาษี หากมูลค่ามันเกินยี่สิบล้านบาท อย่างที่วิโรจน์อภิปราย คือตอนนี้เลี่ยงภาษีได้สองร้อยกว่าล้านบาท"
ตอนนี้ต้องรอ สส.วิโรจน์ ทำหนังสือถามไปที่กรมสรรพากร แล้วรอสรรพากรตอบกลับมา
เพราะสรรพากรเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย รอดูว่า "สรรพากรจะตอบกลับมายังไง"?
หากตอบว่า "เรื่องปกติ ก็ทำกันแบบนี้" ถ้าแบบนั้น คนอื่นก็ทำได้หมด จะเลือกปฏิบัติไม่ได้
ถ้านายกฯ ทำได้ คุณก็ทำได้ ผมก็ทำได้ บริษัทอื่นก็ทำได้ ทุกคนทำได้หมด มันจะเกิดการเลี่ยงภาษี
พอจะเข้าใจและเห็นภาพนะครับ
ช่วงนี้ ผม “กะพร่อง-กะแพร่ง” ซักหน่อย อาจได้มาคุยบ้าง ไม่ได้มาบ้าง ศุกร์เข้า-เสาร์แทรก มันก็อย่างนี้แหละ ไม่ว่ากันนะ
ขอให้จำและช่วยกันคิด
บ้านเมืองไม่ใช่ของ “รัฐบาลใด-รัฐบาลหนึ่ง” หากแต่เป็นของประชาชนคนไทยทุกคน
จะ “ยกให้เขาไป” หรือ “ต้องช่วยกันรักษาไว้”
การ “ตัดสินใจ” อยู่ที่ท่านครับ!.
-เปลว สีเงิน
๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จุดดับ.. เทสลา-มัสก์ คลุกฝุ่นการเมือง!! | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
จุดดับ.. เทสลา-มัสก์ คลุกฝุ่นการเมือง!! จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568
‘สันติ-สุริยะใส’ ขยี้นิติกรรมตั๋ว PN ปมอวสาน ‘อุ๊งอิ๊งค์’ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
‘สันติ-สุริยะใส’ ขยี้นิติกรรมตั๋ว PN ปมอวสาน ‘อุ๊งอิ๊งค์’ อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568
‘หัวเราะวันนี้-หนีวันหน้า’
“เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง” อมตพจน์ “หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร” บิดาแห่งการเกษตรไทย ท่านกล่าวฝากไว้กับแผ่นดิน ถึงตอนนี้ ก็เฉียดศตวรรษ!
วันนี้ ‘ลิงไปกินกล้วย’ กี่ตัว?
ต้องถามท่านแล้วละว่า.... ซักฟอกนายกฯ ลูกทักษิณ ๒ วันที่ผ่านไป เป็นไงบ้างครับ มันหยดติ๋งสมราคาคุยพรรคฝ่ายค้านมั้ย?
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด จำนวน 6 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 6 ราย โดยมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญในศาลปกครองสูงสุด ทั้งในแผนกคดีวินัยการคลัง การงบประมาณ และคดีสิ่งแวดล้อม