
“การอภิปรายครั้งนี้หากไปถามประชาชน
ก็คิดว่าประชาชนคงบอกว่ายังขาดอะไรใหม่ๆ หากมีเรื่องของคอร์รัปชัน มีตัวเลขและหลักฐานชัดเจน รัฐบาลตายอยู่แล้ว
ตนไม่อยากเห็นการฟังเสียงนู้นเสียงนี้แล้วมาคาดการณ์ เพราะเมื่อฟังฝ่ายค้านแล้วเราก็ต้องมาค้นหาว่าที่พูดมามีข้อเท็จจริงหรือไม่ ฝ่ายค้านฟังอะไรมาและก็เหมาเอามาพูด
จึงมองว่าฝ่ายค้านต้องปรับวุฒิภาวะมากกว่านี้ และอภิปรายในสภาก็ไม่ควรทำขึงขังเหมือนจะฆ่ากันตาย แต่ควรทำให้ประชาชนรู้ว่าไปทำหน้าที่มาแล้วพบหลักฐานก็เท่านั้นเอง
หากรัฐบาลไม่จัดการในสายตาประชาชนก็อยู่ไม่ได้ จึงอยากให้เปลี่ยนจากวาทกรรมและท่าทีที่ขึงขังเหมือนการแสดงละคร เอาข้อเท็จจริงและคำแนะนำมาพูดคุยกันดีกว่า”
ครับ..ในฐานะประชาชน ผมก็เห็นตามกับที่คุณภูมิธรรม เวชยชัย ว่านี้ ส่วนพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านจะคิดเห็นเป็นประการใดนั้น..
เห็นจะต้องคอยตามดูบทบาทหลังการอภิปราย ว่าจะมีหลักฐานอะไรที่จะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป!
ถ้าเงียบหายไปกับสายลม-แสงแดด ก็เห็นจะจริงอย่างที่คุณภูมิธรรมหมิ่นแคลน.. “อยากให้เปลี่ยนจากวาทกรรมและท่าทีที่ขึงขังเหมือนการแสดงละคร” นั่นแล!
ว่าแต่..ละครฉากนี้คุณภูมิธรรมไม่ได้รู้มาก่อนใช่ไหม ว่า “ผู้ครอบงำ” ทั้ง 2 พรรค เขาได้ตกลงออกแบบ-เซตฉากด้วยกันมากับมือ?
ฉะนั้น..ที่คุณภูมิธรรมบอก “เหมือนการแสดงละคร” ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำให้มีน้ำหนัก ว่าการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธารเพียงคนเดียว..
เป็นแค่ “การละคร” ตบจูบ-ตบจูบ ให้กองเชียร์-แฟนคลับได้พอซี้ดซ้าด หากแต่ไม่ได้ประโยชน์โพดผลอะไรเกิดกับประชาชนเลย!
หรือหากจะพอมีบ้าง ก็เห็นจะเป็นการทำให้ประชาชน (บางจังหวัด) ได้รู้เช่นเห็นชาติ ว่า “ผู้แทน” ที่พวกเขาเลือกมา ไม่ชอบกินข้าว แต่ชอบรับประทาน “กล้วย”..
และไม่ได้มีอุดมกง-อุดมการณ์อะไรกับการเป็น สส.-เป็นผู้แทน!
ไม่ได้สำเหนียก-สำนึก ว่าที่ประชาชนเลือกมานั้น ส่วนหนึ่งนอกจากความนิยมในตัวผู้แทนเองแล้ว พรรคก็มีส่วนสำคัญ..
การย้ายพรรค เปลี่ยนคอกจึงน่าจะได้บอกหรือถามประชาชนก่อนการตัดสินใจ!
อย่างไรก็ตาม การละครครั้งนี้ก็ทำให้ราศีนายเท้งหัวหน้าพรรคประชาชนจากที่ริบหรี่อยู่แล้ว ยิ่งจะดับหาย ถูกคุณภูมิธรรมถือโอกาสสอนมวยเสียแบบไม่ไว้หน้า
อะไรไม่ว่า ยังเสียเชิงให้นายกฯ แพทองธารหลอกล็อกคอด้วยคำพูด.. “ดิฉันเชื่อว่าในทุกๆ ที่ ไม่มีใครอยากเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรอกค่ะ
ในวันนี้ เพื่อความชัดเจนและสร้างการเมืองแบบใหม่ ท่านก็ควรประกาศให้ชัดไปเลยว่า จะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร พูดให้ชัดตั้งแต่วันนี้ ประชาชนก็จะได้เกิดความสบายใจ”..
นี่..ไม่ว่าจะตอบร่วมหรือไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ก็จะโดนกองเชียร์-แฟนคลับโห่อยู่ดี!
และถ้าจะเล่นบทเตมีย์ใบ้ หมายถึงทำเป็นเงียบเสีย ก็จะกลายเป็นว่าพรรคประชาชนโลเล ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน
งั้น..ผมยุให้นายเท้งไม่ต้องปรึกษา “ผู้ครอบงำ” ประกาศเสียงดังๆ.. “ปิดสวิตช์ทักษิณ ปิดสวิตช์แพทองธาร พรรคประชาชนจะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยเด็ดขาด!”
เอาให้นายกฯ แพทองเงิบ-หน้าหงายไปเลย และพอถึงเวลาเลือกตั้งคราวหน้า ถ้าพรรคประชาชนได้ สส.เป็นอันดับ 1
มีหรือผู้ครอบงำ-เจ้าของพรรคตัวจริงจะปิดประตูตายในการได้เป็นรัฐบาล เพราะบทเรียนครั้งที่แล้วได้สอนว่า..
การหลับหู-หลับตาวิ่งชนกำแพงนั้น มีแต่จะทำให้หัวโน ไม่เกิดประโยชน์กับตัวเองแต่อย่างใด!
การจับมือร่วมจัดตั้งกับเพื่อไทยก็สามารถจะเกิดขึ้นได้ตราบที่การเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร!
และหากจะมีเสียงด่า “ตระบัดสัตย์” ก็ให้ทำแบบเดียวกับแพทองธาร-พ่อนายกฯ ที่ประกาศ ไม่เอาลุง เราจะปิดสวิตช์ 3 ป.
ไม่ต้องสน ไม่ต้องแคร์ ไม่ต้องอาย..หน้าด้านไว้ และเมื่อเป็นรัฐบาล ก็เชิญสำราญ-บันเทิงกันให้หนำใจ จะเปิดบ่อนกาสิโนเพิ่มอีกเท่าไหร่ๆ ถึงตอนนั้น..
คนต่อต้านสิ้นแรง-หมดใจแล้ว!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
“การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ต้องมาพร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะเยาวชนและครอบครัว
ส่งเสริมอย่างไร?
วันกรุงเทพฯ ตึกถล่ม.. เห็นข่าว ร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์ พ.ศ. .... ที่เขาส่งต่อๆ กันว่อน ว่าได้ผ่านความเห็นชอบ ครม. และจะถูกส่งเข้ารับการพิจารณาในสภาในเร็ววันนี้
‘คำถาม’นอกสภา
ในสภา-การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอดตัวไปแล้ว นอกสภา..ก่อนจะซื้อหนี้ประชาชนจากธนาคาร นายทักษิณกับลูกสาวนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ช่วยตอบคำถามนี่หน่อยเป็นไร
ไม่ใช่ประเภท “กีกี้”
แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน.. นี่..ไม่ได้เกี่ยวกับใคร แค่นึกอยากนำมาคุย-มาเขียน หลังจากที่ได้ยินเสียงโต้เถียงกันลั่นสภา พลันที่คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พูดคำ “กีกี้” ขึ้นมากลางที่ประชุม!
นั่งแน่งๆอย่าแหลงไหร
“ท่านสมาชิกอาวุโสอภิปราย จับเวลาได้ 10 นาที และขอชี้แจงว่าสิ่งที่สมาชิกอาวุโสพูดไม่เป็นความจริง”
ทีใคร-ทีมัน
“เป็นนายกฯ เมื่อพร้อม”! ก็จริงอย่างที่คุณพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.ว่า ถ้ายัง “ปากกัดตีนถีบ” ต้องคอยเลี้ยงลูกในวัยที่กำลังซน แต่ถูกพ่อบังคับให้ต้องทำงาน