
จบแล้ว...
อภิปรายไม่ไว้วางใจสองวัน ผ่านไปอย่างเงียบๆ
เพราะข้อมูลแบบโป้งเดียวจอด ไม่มี
เนื้อหา สาระสำคัญ ที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ สร้างสีสันเล่นกับความรู้สึกของผู้คน
ทัวร์ส้มลงรัฐบาลแดงสนั่นโซเชียล
แต่ในแง่การตรวจสอบรัฐบาลด้วยมาตรการขั้นสูงสุด คืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่าล้มเหลว
ยิ่งกว่านั้นการกระแทกแดกดันไปถึงรัฐบาลประยุทธ์ ไม่ได้สร้างคุณค่าให้การอภิปรายอย่างที่ควรจะเป็นเลย
กลับขยายวงสร้างความขุ่นเคืองจาก เอฟซีลุงตู่ โดยใช่เหตุ
เสียดาย โอกาส และเวลา ในการอภิปรายประเด็น ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ
"รังสิมันต์ โรม" ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่เลย
ไม่มีอะไรต่างไปจากข่าวสารที่ปรากฏก่อนหน้านี้
แค่เรียบเรียงข้อมูลเดิม มาเล่าใหม่ให้ชัดเจนขึ้น
แต่ก็ยังไม่ใช่ข้อมูลที่จะล้มรัฐบาลได้
แบบนี้วิกฤตครับ
วิกฤตการตรวจสอบรัฐบาล
ถือว่าอันตรายมาก!
ในสภาวะที่ระบอบทักษิณฟื้นคืนชีพ และใช้อำนาจอย่างย่ามใจ มีร่อยรอยความไม่ชอบมาพากลเยอะแยะไปหมด แต่พรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคส้มไม่สามารถล้วงข้อมูลมาตีแผ่ให้ประชาชนรับทราบได้
เทียบกับกรณี จีทูจีข้าวเก๊ ฝีมือ หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปี ๒๕๕๕ ข้อมูลพรรคส้มครั้งนี้ กลายเป็นเด็กอมมือไปในทันที
น่าผิดหวัง!
"นายกฯ แพทองโพย" ถึงได้ยิ้มเยาะ บอกว่า
"สนุกดี"
ถึงเวลาที่พรรคส้มและแฟนคลับต้องยอมรับความจริงว่า ฝีมือการตรวจสอบรัฐบาลยังไม่ถึง เพื่อจะได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้มีศักยภาพในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งถัดไป
แต่หากหลงกับคำชมจากแฟนคลับว่า เก่งมาก เยี่ยมมาก จบเห่ครับ
เพราะครั้งนี้สอบตก!
ทำไมถึงมองว่าฝ่ายค้านสอบตก
ในแง่ความเป็นมืออาชีพ ถือว่าล้มเหลว เพราะข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในภาพรวม เทียบได้แค่กระทู้ถามเท่านั้น
พรรคส้มไม่อาจตีโจทย์ที่ตัวเองตั้งขึ้นคือ "ดีลแลกประเทศ" แตก
การอภิปรายดูเหมือนจะเห็นภาพดีลแลกประเทศอยู่บ้าง แต่ลึกลงไป ไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมเพื่อเปิดโปงดีลทำลายชาติที่ว่าได้
คำอภิปรายส่วนใหญ่จึงกลายเป็นการสร้างวาทกรรมทางการเมืองใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้ดูหวือหวาเท่านั้นเอง
แต่เอา "นายกฯ แพทองโพย" ไม่ลง
ไม่ระคายผิวด้วยซ้ำ
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น...
เป็นความโชคดี "นายกฯ แพทองโพย" นายกฯ ที่แทบไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเลย แค่โชคดีที่มาเจอฝ่ายค้านอ่อนหัด
ไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะฉีกหน้ากาก รัฐบาลหุ่นเชิดได้
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ในขณะที่พรรคส้มอภิปรายว่า นายกฯ แพทองโพย ถูกพ่อครอบงำ โดยขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเป็นเช่นนั้น ปรากฏว่า คนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้แจงฝ่ายค้าน โดยพูดถึงพ่อหน้าตาเฉย อย่างระรื่น
"...สิ่งที่ตลกอีกเรื่องหนึ่งคือ คุณพ่อมอนิเตอร์ตลอดเวลาและส่งข้อความมาหาดิชั้นเยอะมาก แต่ดิชั้นไม่ได้อ่านเลย เพราะดิชั้นยุ่งมากเตรียมประเด็นอยู่ ก็เลยไม่ได้ตอบอะไรใคร
แต่ก็มีโทรศัพท์มาหาดิชั้นถามว่าเป็นไง โอเคไหม
พ่อก็ส่งคอมเมนต์มาแต่ละช่วงก็ตลกดี คุณพ่อก็เหมือนชาวบ้านท่านหนึ่งที่คอมเมนต์ ไม่มีอะไรพิเศษ..."
เยาะเย้ยกันซึ่งหน้าขนาดนี้!
ฝ่ายหนึ่งอภิปรายเหมือนคนจมน้ำ
เจออะไรก็คว้าหมด แม้กระทั่งงูพิษ
อีกฝ่าย ไม่รู้สึกรู้สา ระรื่นราวกับอยู่ในสวนสนุก
แล้วประเทศได้อะไร
อะไรที่ทำให้พรรคส้มเป็นฝ่ายค้านคุณภาพต่ำ แต่สร้างภาพสูง
เพราะพรรคส้มเป็นฝ่ายค้านการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มิได้มุ่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านการตรวจสอบรัฐบาล การอภิปรายของ "รังสิมันต์ โรม" วานนี้ (๒๕ มีนาคม) จึงพาดพิงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในบางช่วงบางตอน
จนประธานในที่ประชุมต้องคอยเบรกเป็นระยะๆ
อีกคนคือ "ชยพล สท้อนดี" สส.กทม. พรรคส้ม
อ้างว่าไม่ไว้วางใจแพทองธาร เพราะเป็นนั่งร้านให้กลุ่มปฏิปักษ์ประชาธิปไตย สยบยอมต่อฝ่ายอำนาจนิยม
หรือแม้กระทั่ง "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" บอกว่าการอภิปรายของพรรคส้มเป็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
นี่คือภาษาสำเนียงที่พรรคส้ม อำพรางในการโจมตีสถาบันเบื้องสูงมาโดยตลอด
บทบาทการตรวจสอบรัฐบาลจึงอ่อนยวบ เพราะมุ่งใช้เวทีนี้ตอบสนองเจตนาที่แท้จริงของพรรคส้มมากกว่า
แทนที่จะตอกย้ำถึงการครอบงำ ครอบครองรัฐบาลโดย "ทักษิณ" โยงไปสู่มาตรฐานทางจริยธรรม จับ "แพทองธาร" มาสังเวย ความเหิมเกริมของผู้เป็นพ่อ
แต่พรรคส้มไม่อาจเรียบเรียงข้อมูลให้ไปสู่จุดนั้นได้
อาจเป็นเพราะอ่อนหัดก็เป็นได้
หรือ ลับลวงพราง ก็วิเคราะห์ได้เช่นกัน เพราะทั้ง ๒ วัน ผิดวิสัยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นมาตรการขั้นสูงสุดในการตรวจสอบรัฐบาล
ค่านิยมหลักของมาตรฐานทางจริยธรรม ๑๐ ข้อนั้น มีหลายข้อที่ "ทักษิณ" และ "แพทองธาร" ละเมิด
ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติโดยไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพล กระแสสังคม หรือแรงกดดันอันมิชอบด้วยกฎหมาย โดยคํานึงถึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมแห่งสถานภาพ
ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง
ไม่ปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลที่อยู่ในกํากับดูแลหรือความรับผิดชอบของตน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากคู่กรณี หรือจากบุคคลอื่นใดในประการที่อาจทําให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตน
ไม่คบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติหรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่
มีพฤติการณ์ของ "แพทองธาร" มากมายที่สามารถแสดงให้เห็นว่า ได้ละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรม เพราะถูกพ่อ ซึ่งเป็นอดีตนักโทษคดีคอร์รัปชันที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียวครอบงำ
แต่เราแทบไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ในการอภิปรายของพรรคส้มเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน
ผ่านไปแล้วครับ... การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรอบนี้ ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะเสียงโหวต
วันแรก...ว่าแล้วเชียว
เป็นไงครับ ซักฟอกนายกฯ วันแรก... อินเนอร์มาเต็ม กี้กี้ๆๆๆ
อภิปรายลูก ซักฟอกพ่อ
เริ่มแล้วครับ... มหกรรมจับนายกรัฐมนตรีขึ้นเขียง ฟังจากฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคส้ม อภิปราย ๒ วัน มีไฮไลต์ทั้ง ๒ วัน
สอยนั่งร้าน 'แพทองธาร'
จับตาอย่ากะพริบ! ซักฟอกครั้งนี้มีตัวละครลับ ไม่ใช่พรรคส้ม
ตายคา 'กาสิโน'
สงสัยต้องถอนคำพูด... ที่บอกว่าฝ่ายค้านอ่อนหัด! วันนี้ต้องยกนิ้วให้ "นิ้วโป้ง" ครับ ต้องยกให้ "ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ" สส.พรรคส้ม
'รัฐบาลฝึกงานฝ่ายค้านอ่อนหัด'
โหมโรงซักฟอกนายกฯ.... เลขที่ออก... ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย ๒๘ ชั่วโมง