คาดผลตรีเทพย้ายราศีต่อคนลัคนาสถิตสิงห์

    ภาพลัคนาสถิตราศีสิงห์และเรื่องราวต่างๆ ของชีวิตและดาวจรสำคัญที่ทำมุมกับดวงชะตา

พระราหูจร (8) ย้ายจากมีนเข้าเดินในกุมภ์ ระหว่าง 5 พฤษภาคม 2568-22 พฤศจิกายน 2569

พฤหัสบดีจร (5) ย้ายจากพฤษภเข้าเดินในเมถุน 13 พฤษภาคม-2 ตุลาคม 2568

พระเสาร์จร (7) ย้ายจากกุมภ์เข้ามีน ระหว่าง 19 พฤษภาคม-23 สิงหาคม 2568 (เดินผิดปกติ)

พระเสาร์จร (7) เดินกลับเข้าราศีกุมภ์ ระหว่าง 24 สิงหาคม 2528-14 กุมภาพันธ์ 2569

มฤตยูจร (0) เดินในราศีพฤษภ 8 กรกฎาคม 2565-18 กรกฎาคม 2572

เดือนพฤษภาคมปี 2568 นี้ ดาวสำคัญทางโหรที่เรียกกันว่า ตรีเทพ อันได้แก่ พระราหูจร (8) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-ความมืด-อวิชชา หรือตัวแสบ-พระพฤหัสบดีจร (5) เจ้าแห่งปัญญาพิสุทธิ์ หรือหัวหน้าดาวดีเทวดาประจำตัวทุกคน-พระเสาร์จร (7) เทพเจ้าแห่งความระทมหรือตัวโทษตัวทุกข์-ตัวเศร้า มีกำหนดจะย้ายราศีในเดือนเดียวกัน

จึงแม้จะได้ทำนายเค้าโครงชีวิตกว้างๆ ของคนทุกลัคนาราศีไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2567 แต่ในวาระตรีเทพย้ายราศีเวลาใกล้เคียงกันนี้ ขอย้ำถึงผลให้เป็น แนวทางใช้ชีวิตกว้างๆ สำหรับท่านที่ลัคนาสถิต ราศีสิงห์ (ทำนายตามลัคนาเท่านั้น-โปรดอย่านำคำทำนายไปใช้ผิดประเภทเป็นชาวราศี) ดังนี้

1.เตือนความจำว่า ตั้งแต่กรกฎาคม 2565 มาแล้วที่พวกท่านยังอยู่ในระหว่าง เจ็ดปี ของการ เปลี่ยนแปลงใหญ่งาน หรือ กิจการ หรือ ผู้บังคับบัญชา หรือ เกียรติยศชื่อเสียง รวมทั้ง พ่อ-แม่ครั้งใหญ่ครั้งเดียวในชีวิต (มฤตยูจร 0 เดินในราศีพฤษภ ภพที่สิบ-กัมมะ)

รากฏการณ์นี้ที่จะจบลงในราวกรกฎาคม 2572  ณ เวลานั้นพวกท่านจะถามตัวเองว่า งาน หรือ กิจการ หรือ ผู้บังคับบัญชา หรือ เกียรติยศชื่อเสียง  รวมทั้ง พ่อ-แม่ ไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร

เน้นที่เรื่องงาน หรือกิจการซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต หากพวกท่านอึดอัดต้องกล้าเปลี่ยนแปลงใหญ่ เพราะทำแล้วยังมีทางรอด หากไม่พวกท่านมีแนวโน้มถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

ระยะนี้บางท่านก็ได้เกียรติ บางท่านก็เสื่อมเกียรติ ถูกยึดเครื่องอิสริยาภรณ์คืนก็มี และพ่อหรือแม่ก็จะเปลี่ยนแปลงใหญ่ด้วย เช่น เคยมีพวกท่านเป็นเสาหลัก พวกท่านอาจจะต้องพลิกเป็นกำแพงให้พ่อแม่เอาหลังพิง เป็นต้น

2.ตั้งแต่มีนาคม 2566 มาแล้ว ที่เกิดปรากฏการณ์ทางโหรที่เรียกกันว่า ดวงชะตาแตก ค่อยๆ คืบคลาน เข้ามา เล่นงานชีวิตของพวกท่าน ชีวิตจึงคล้ายๆ อกแตก-ถูกผ่าเป็นสองซีก ทางชีวิตหรือในบ้านพวกท่านมีปัญหากระทบครอบครัวหรือพ่อแม่ หรือกระทบคู่ครองหรือหุ้นส่วนชีวิต ทำให้ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องแก้ปัญหาเป็นเหตุการณ์ๆ ไป (พระเสาร์จร 7 เดินในราศีกุมภ์-ภพปัตติ-ชะตาแตก) ตามโฉลก ..ถอยอาหาร บริวารจะจากไป ..เช่น

อกแตกจริงคือ ผ่าหน้าอกซ่อมหัวใจ หรือในบ้านมีแต่คนป่วย หรือเกิดปัญหาหลายแบบกับคู่ครองที่อยู่ด้วยกันมานาน หรือพ่อ-แม่ป่วยหรือจากไป หรือพวกท่านป่วยเองชนิดยืดเยื้อกระทบถึงคู่ครอง หรือผู้มีส่วนได้-เสียในชีวิตทั้งหลายให้ต้องดูแล หรือหน่วยงานที่สังกัดอยู่เกิดปัญหาเหมือนฟ้าผ่าตรงกลาง หรือพวกท่านถูกเกี่ยวยุ่งเรื่องขัดแย้งหรือคดีความ ฯลฯ

ปรากฏการณ์นี้จะยังเป็นต่อไปให้พวกท่านใช้ฝีมือตีฝ่าจนถึง 14 กุมภาพันธ์ 2569

เพียงแต่ช่วงพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ที่ดาวใหญ่พร้อมใจกันย้ายราศี จะเพิ่มความผันผวนจัด ตามลีลาดังนี้

3.ปรากฏการณ์ดวงช้ำซ้ำเสริมที่แตกอยู่แล้วเพิ่มเข้ามาอีกชั้น เริ่มตั้งแต่ 5 พฤษภาคม 2568-ยาวไปสิบแปดเดือน-22 พฤศจิกายน 2569 ปรากฏการณ์นี้สุ่มเสี่ยงต่อการเจอคดีความเพิ่มเข้ามาอีก ตามโฉลก ..จะมัวเมา ว่าความเขาภัยถึงตัว…(พระราหูจร 8 เดินในราศีกุมภ์-ภพที่เจ็ด-ปัตนิ-มาตรฐานเกษตร)

หรือไม่ก็อาจมีเรื่องเดือดร้อนในครอบครัว หรือชีวิตคู่ที่ต้องประคับประคองมาก แต่ด้านบวกก็มีคือ ถ้ายังโสดอาจมีคู่แบบประมาท หรือได้คู่ต่างชาติต่างภาษา

4.ด้านลบแทรกเข้ามาคือ ระหว่าง 19 พฤษภาคม-23 สิงหาคม 2568 โปรดระวัง มีเรื่องเศร้าสลดกระทบอารมณ์จากการพลัดพรากหรือสูญเสีย  หรือเจ็บไข้ได้ป่วยของใครสักคน หรือป่วยแล้วทรุดลงตามโฉลก ..เกรงชีวา มรณาให้เกรงไฟ..(พระเสาร์จร 7 เดินในราศีมีน-ภพที่แปดมรณะ)           

ด้านบวกจากเกณฑ์นี้คือ เมื่อเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย พลัดพรากสูญเสียหรือมีเรื่องเศร้าโศกเสียใจแล้ว พวกท่านอาจได้มรดก หรือชดเชยในรูปแบบต่างๆ

กณฑ์นี้กระทบชิ่งไปถึงงาน หรือ หน่วยงาน หรือ กิจการ ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ออกแนวลบมากกว่าบวก

5.ระหว่าง 24 สิงหาคม 2568-14 กุมภาพันธ์ 2569 กลับไปรับเกณฑ์ดวงชะตาแตก (ตามเกณฑ์ข้อ 2) คือ ชีวิตคล้ายๆ อกแตก-ถูกผ่าเป็นสองซีก-ทางชีวิต หรือในบ้านพวกท่านมีปัญหากระทบครอบครัวหรือพ่อแม่ หรือกระทบคู่ครองหรือหุ้นส่วนชีวิต ทำให้ห่วงหน้าพะวงหลัง กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องแก้ปัญหาเป็นเหตุการณ์ๆ ไปอีกรอบ

เกณฑ์นี้ที่เป็นมาและเล่นงานพวกท่านมาตั้งแต่มีนาคม 2566 จะปรากฏกับชีวิตพวกท่านเป็นรอบสุดท้าย แต่รอบนี้ก็น่าจะหนักหน่วง-ผันผวนเอาเรื่อง เพราะมีเกณฑ์ดวงร้าว (ตามข้อ 3) เพิ่มเข้ามาอีก แต่

6.มาแล้วตัวคานอำนาจเกณฑ์ลบ เพื่อพาให้ รอด  เริ่มตั้งแต่ 13 พฤษภาคม-2 ตุลาคม 2568 ด้วยเกณฑ์ทางโหรที่เรียกว่า สิงหเกณฑ์ ผลคือ เรื่องลบสาหัสที่รอเกิดในชีวิตจะเหลือเพียงลบ หากเรื่องลบจะเหลือลบน้อย หากลบน้อยจะปัดเป่าไปได้ (พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีมิถุน ภพลาภะ-มาตรฐานประเกษตรและอุจจาวิลาส)

และด้วยเกณฑ์นี้ยังจะให้คุณงามความดีด้วยตัวเองเพิ่มให้แบบสิบสองปีมีหนึ่งครั้งตามโฉลก….จะฟุ่งเฟือง คนลือเลื่องลาภเหลือหลาย หรืออีกนัยหนึ่งมิตรสหาย หรือสังคมจะส่งผลดีให้

ขอสรุป ทั้งหมดและเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ คือ ถ้าไม่นับรวมเรื่องที่กำลังปฏิวัติใหญ่งาน หรือกิจการ หรือผู้บังคับบัญชา หรือชื่อเสียงเกียรติยศ หรือพ่อแม่ที่กำลังเป็นอยู่ (ตามข้อ 1) นั้น

ที่ผ่านมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2566 แล้วที่ผู้เขียนต้องพยายามให้กำลังใจท่านที่ลัคนาสถิตราศีสิงห์ ให้กัดฟันสู้ เพราะเจอสาหัส และให้ค่อยๆ แก้ปัญหาเป็นเรื่องๆ ไป

ครั้นในวาระที่ดาวใหญ่หรือตรีเทพย้ายราศีพร้อมกันในเดือนเดียวนี้ เริ่มตั้งแต่ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม-2 ตุลาคม 2568 จะเกิดความผันผวนมากในเรื่อง คู่ครอง หรือ หุ้นส่วนชีวิต หรือ คดีความ หรือ ทางชีวิต หรือ เรื่องในบ้าน หรือ พ่อแม่ หรือครอบครัว ที่จะ กระทบอารมณ์อย่างมาก

เพียงแต่รอบนี้ไม่ว่าพวกท่านจะเจอกับอะไร หนักหนาสาหัสขนาดไหน ด้วยแรงส่งของสิงหเกณฑ์ ถึงอย่างไรพวกท่านก็รอด ดังพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน พิเภกออกศึกมหาบาล

ตามท้องเรื่องคือ พิเภก ที่ได้ครองกรุงลงกาแทนทศกัณฐ์ พี่ชายที่ถูกฆ่าตายไปแล้ว ถูกยักษ์มหาบาลยกทัพมาตีเมืองจะฆ่าให้ตายเพื่อแก้แค้นแทนทศกัณฐ์

พิเภกซึ่งไม่ใช่นักรบ แต่เป็นโหร ไม่มีตัวช่วยเลย เพราะนักรบทั้งหลายตามเสด็จพระราม พระลักษณ์กลับเมืองไปหมดแล้ว จึงตรวจดวงชะตาตัวเอง เห็นว่าขณะนั้นกำลังได้สิงหเกณฑ์อยู่พอดี รู้ว่าไม่ตายแน่เพราะจะมีคนมาช่วยตามบทพระราชนิพนธ์คือ…แต่พฤหัสบดีนั้นเป็นสิบเอ็ดอยู่ จะมีผู้ช่วยชีพสังขาร์ มิได้ถึงสิ้นชีวา..

ผลคือหนุมานเหาะดั้นเมฆมาช่วย

จึงขอให้ท่านที่ลัคนาสถิตสิงห์ทั้งหลายมี กำลังใจสู้ต่อพร้อมมองหาตัวช่วย และ อย่าลืมรับสิ่งบวกแทรกเข้ามาจนถึง 2 ตุลาคม 2568   

หลังจากนั้นค่อยมาหาตัวช่วยกันใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โปรดดูโพลก่อนด่า...ประชาพอใจ

ตลอดระยะเวลาที่แพทองธารดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเวลาประมาณครึ่งปี เธออาจจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ จนถึงระดับถูกด่าทอต่อว่ามากที่สุดของประเทศไทย

ระหว่าง‘ศีลธรรม’กับ‘ความโง่’

วัน-สองวันก่อน...มีข่าวชิ้นเล็กๆ ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ คือ The Financial Times แต่เป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจอยู่ไม่น้อย ด้วยการอ้างรายงานการประเมินผลของหน่วยงานหน่วยหนึ่งใน

พัทยาโจรชุมกว่ายุง

โจรชุมยิ่งกว่ายุง เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อ ชาวต่างชาติเข้ามาชมความงามทั้งช่วงกลางวันและยามค่ำคืน ปรากฏว่าร้านค้าภายในตลาดซอยบัวขาว

ไหวไหมลูกพ่อ...อยาก สทร. เป็นคนใน

พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยชี้ว่า เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมด

บทเรียนจาก 'ท่านปัญญาจารย์'

ด้วยเหตุเพราะอ่านหนังสือซะหมดบ้าน...จนแทบไม่เหลืออะไรจะอ่าน เลยต้องหันไปคว้า พระคัมภีร์ไบเบิล เล่มหนาๆ ระดับหนุนหัวนอนได้สบายๆ

โผปูทางโยกย้าย ต.ค.

การแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน หรือที่เหล่าสีกากีเรียก "นายพลแก้มลิง" ขยับไปอีกหนึ่งขั้น เมื่อ บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน