
“ไทยโพสต์” อิสรภาพแห่งความคิด ติดตามสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ เหมือนจะเป็นละคร “ตบจูบ” เรียกเรตติ้งคนดูได้ แต่ชีวิตจริงของคนในสังคมยิ่งกว่า “ละครน้ำเน่า” เพราะปัญหาความเป็นอยู่ ปากท้อง เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย แต่ทำให้ “จุกอก” กันทุกหย่อมหญ้า ...วันประชุม ครม. อังคารก่อน ก็มีม็อบชาวนา ม็อบแรงงาน เรียงแถวยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา เมื่อวานนี้เป็นคิวเครือข่ายประชาชน 19 จังหวัดเรียกร้องให้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร
ออกมารับหนังสือให้ติดตามแก้ไขและข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบหาผู้กระทำความผิด กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดภายใน 1 ปี เร่งฟื้นฟูระบบนิเวศ ประกาศเขตภัยพิบัติทันที และให้หน่วยงานรัฐฟ้องผู้กระทำความผิดมาชดใช้เยียวยา แต่พอถึงเดดไลน์บ่ายสองโมงครึ่ง “นายกฯ อิ๊งค์” ไม่มารับหนังสือ ผู้ชุมนุมจึงนำผ้าพลาสติกปูบนพื้นถนนประตู 5 ทำเนียบฯ แล้วจึงเทปลาหมอคางดำ 2 คันรถ น้ำหนัก 2 ตัน แสดงออกเชิงสัญลักษณ์
ส่วน “นายกฯ หญิงเจนวาย” ประชุม ครม.ไม่ทันจบ ขอตัวไปแถลงข่าวจับบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าและพร้อมส่งออกจำหน่ายในเครือข่าย กว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ โดยมี “จิราพร สินธุไพร” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามเรื่องดังกล่าว พร้อม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. ร่วมแถลงข่าว โดยนายกฯ แพทองธารย้ำว่า “ได้คุยกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้บอกข้อกฎหมายให้กับครูและบุคลากรเพื่อที่จะเป็นแบบอย่างว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าผิด และมีบทลงโทษต้องทำความเข้าใจและให้ความรู้เยาวชน ทั้งนี้มาตรการเด็ดขาดที่ตำรวจดำเนินการอยู่คือ จับกุมผู้ผลิตและผู้ลักลอบนำเข้าล็อตใหญ่ ส่วนรายเล็กต้องให้ความรู้ไปด้วย เพราะเราไม่อยากให้บุหรี่ไฟฟ้าพัฒนาไปเป็นเรื่องของยาเสพติด”
ครม.สัปดาห์นี้ยังไม่มีร่างพระราชบัญญัติเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และร่างพระราชบัญญัติการพนัน เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ตามคาด รอให้ศึก “ซักฟอก” ผ่านพ้นไปก่อน โดยอังคารหน้าจะไม่มีการประชุม ครม. แต่จะเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 มี.ค. จนถึงวันนี้ญัตติจบลงด้วยคำว่า “คนในครอบครัว” แทนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ไปแล้ว เรื่องวัน ว. เวลา น. ก็จบลงไปได้ในที่สุด หลังจากที่เป็นประเด็นกันอยู่หลายวัน กลบเนื้อหาที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลายคนเก็งข้อสอบไว้หลายประเด็น เช่น สนามกอล์ฟอัลไพน์ ชั้น 14 อุยกูร์ เอ็มโอยู 44 ฯลฯ แต่สำหรับพรรคประชาชนก็มีแกนนำคณะก้าวหน้าออกมาเปรยทิศทางที่จะใช้อภิปรายไว้บ้างแล้ว โดยโปรยหัวไว้ว่าจะมีหัวข้ออภิปรายที่สร้างความฮือฮาได้กว่าที่เป็นข่าว ใกล้เคียงกับที่เคยอภิปรายมาในอดีต เทียบความ WOW เท่าๆ กับตั๋วช้าง โปรแกรมปิกาซัส ไอโอ เป็นการเปิดหัวเรียกน้ำย่อยมิตรรักแฟนเพลง “พรรคส้ม” ให้ติดตามลีลา สส.ของพรรคในสังเวียนครั้งนี้
เป็นข่าวอินไซด์ การประชุม ครม.นัดล่าสุด เมื่อมีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกทุเรียนของไทยที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของประเทศจีน เกี่ยวกับการตรวจจับสารย้อมสี หรือ Basic yellow 2 โดย “หมอมิ้งค์” พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยควรมีเครื่องมือในการตรวจจับปริมาณสารย้อมสีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทำให้ “พิชัย นริพทะพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “เมื่ออายัดทุเรียนมาได้แล้ว ทำไมไม่ทำลาย” ทำให้ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์ รีบโต้แย้งว่า “ตามขั้นตอนเมื่ออายัดของได้แล้วไม่สามารถทำลายได้ในทันที” ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีรัฐมนตรีหลายคนใน ครม.มีสีหน้าแปลกใจกับการโต้เถียงกันระหว่างสองกระทรวงใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ ท่ามกลางข้อสังเกตว่าสองกระทรวงนี้ทำงานไม่กินเส้นกันมาก่อนหรือไม่ ในเรื่องการส่งระบายสินค้าการเกษตรที่มีปัญหาและมีการวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ จนในที่สุด นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ต้องหย่าศึกด้วยการสั่งให้สองรัฐมนตรีดังกล่าวไปคุยนอกรอบให้ยุติก่อนนำมารายงาน ครม.อีกครั้ง.
วายุ เวฬุวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ในที่สุดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี พ่วงด้วยบุคคลในครอบครัวก็ได้ฤกษ์กดปุ่มอย่างเป็นทางการเสียที เมื่อวิป 3 ฝ่ายได้ข้อตกลงร่วมกันเคาะสูตรซักฟอกออกมาเป็น 28+7 ชั่วโมง
บันทึกหน้า 4
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ศึกในก็เหนื่อย ศึกนอกก็รุมล้อม หลังสภายุโรปมีมติประณามประเทศไทยจากกรณีส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน รวมถึงสหรัฐอเมริกาจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
บันทึกหน้า 4
เปิดบันทึกเริ่มต้นสัปดาห์นี้ ปัญหาการเมืองภายใน ดูเหมือนกลายเป็นเรื่องสิวๆ ไปเลย เมื่อเทียบกับประชาคมโลกตะวันตกจับมือกันถล่ม "ประเทศไทย" ในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน ว่าด้วยกรณีอุยกูร์!!
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่า “สมน้ำหน้า” รัฐบาลนายกฯ เจนวายเสียจริงๆ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 มีคำสั่งไม่รับคำร้องของรัฐบาลที่ให้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทำหนังสือให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ในคำว่า “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”
บันทึกหน้า 4
ที่ประชุม ครม.เมื่อวันอังคารยังไม่พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือบ่อนกาสิโน ขณะเดียวกัน ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
บันทึกหน้า 4
ไฮไลต์การเมืองจับตาว่าศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นหรือไม่ หลังประธานสภาฯ ขอให้ฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคประชาชน (ปชน.) ถอนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ออกจากญัตติ แต่พรรคฝ่ายค้านก็ไม่ยอม และที่สำคัญทั้งสองฝ่ายยังดึงดันตามความเห็นตัวเอง ก็ไม่ทราบว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร