'ซื้อหนี้' ปาหี่ชายคนนั้น

ก็ไม่ผิดจากที่สังคมคาดหมาย

ว่า.....

-ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่ผ่านสรรหามาแทน “ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ครบวาระตั้งแต่ ๑๖ พ.ย.๖๗ และ

-นายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตทูต ปัจจุบันผู้ทรงคุณวุฒิ คณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ที่ผ่านสรรหาแทน “นายปัญญา อุดชาชน” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งครบวาระตั้งแต่ ๒๖ พ.ย.๖๗

โอกาสที่ทั้ง ๒ ท่าน จะ “ไม่ผ่าน” ความเห็นชอบ จากที่ประชุมวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่ง “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”

มีสูงมาก!

แล้วเมื่อวาน (๑๘ มี.ค.๖๘) ทั้ง ๒ ก็ไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาจริงๆ!

กติกาตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้รับการสรรหาให้เป็นตุลาการศาลฯ ต้องได้รับคะแนน “เห็นชอบ” จากวุฒิสภา “ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง” ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่

สมาชิกวุฒิสภา มี ๒๐๐ คน

นั่นหมายความว่า ผู้ผ่านการสรรหาทั้ง ๒ นี้ ต้องได้รับ “เสียงเห็นชอบ” ๑๐๐ เสียงขึ้นไปจากที่ประชุมวุฒิสภา จึงจะได้เป็นตุลาการศาลฯ

ปรากฏว่า ทั้ง ๒ ท่าน “ไม่ผ่าน”!

โดย “ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี” ได้รับเสียงเห็นชอบแค่ ๔๓ เสียง ในขณะที่เสียง “ไม่เห็นชอบ” สูงถึง ๑๓๖ เสียง

“นายชาตรี อรรจนานันท์” เห็นชอบเพียง ๔๗ เสียง แต่เสียง “ไม่เห็นชอบ” ๑๑๕ เสียง

ก็เป็นอันน่าเสียดายยิ่ง ที่....

ทั้ง ๒ ท่าน ไปไม่ถึงตำแหน่ง “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”!

“ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” และ “นายปัญญา อุดชาชน” ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ต่อไปพลางๆ ก่อน

จนกว่าจะมีการสรรหาคนใหม่และผู้นั้น ผ่านความเห็นชอบวุฒิสภาเข้ามาแทน

ก็เพียง “เก็บมาบอก” ให้ทราบกันเท่านั้น ไม่มีความคิดเห็นอื่น แต่อยากให้ข้อมูลไว้นิดว่า ก่อนที่วุฒิสมาชิกจะลงมติ “เห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ” นั้น

วุฒิสภาจะตั้งกรรมาธิการ “ตรวจสอบประวัติ” ผู้ที่ผ่านการสรรหานั้นโดยละเอียดในขั้นลึก

ก่อนลงมติ จะมีการประชุมลับ แจกผลการตรวจสอบประวัติเป็น “เอกสารลับ” ให้วุฒิฯ ทั้ง ๒๐๐  ท่าน ได้พิจารณาประกอบการตัดสินใจโหวต

เสร็จแล้ว “ทำลายเอกสาร” นั้นทิ้งทันที!

ดังนั้น ผมไม่ติดใจในประเด็น “ให้ผ่าน-ไม่ให้ผ่าน” ของวุฒิฯ แต่ติดใจอยู่นิด ตรง “น.ส.นันทนา นันทวโรภาส” ผู้อุปโลกน์ตัวเป็น “สว.พันธุ์ใหม่”

ที่เสนอญัตติด่วน “ให้ชะลอการลงมติเมื่อวานออกไปก่อน” ด้วยเหตุว่า....

“มีการไปร้องให้ สว.ชุดนี้ “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ข้อกล่าวหานี้อาจลุกลามไปที่รัฐธรรมนูญมาตรา ๑๑๓  เรื่องการแทรกแซงครอบงำจากพรรคการเมือง

ฉะนั้น ดิชั้นมองว่า ควรชะลอการลงมติดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าการตรวจสอบจะสิ้นสงสัย แล้วจึงกลับมาลงมติกันใหม่ เพื่อเป็นการทำหน้าที่อย่างสง่างามและไม่ส่งผลกระทบต่อองค์กรอิสระใดๆ”

อย่าหาว่าผมเสือกเลยนะท่าน สว.พันธุ์ใหม่

คือผมอยากบอกว่า “พันธุ์ใหม่ต้องไม่ง่าว” นะจ๊ะ!

สว.ชุดนี้ ลงมติไปได้เลย จะถูกถอด-ไม่ถูกถอดภายหลัง หามีผลต่อมติที่มีก่อนหน้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น

นั่นคือ สว.นันทนา ไม่ต้องห่วงเรื่อง สว.ถูก DSI  ตรวจสอบ ว่าจะลุกลามไปที่รัฐธรรมนูญมาตรา ๑๑๓

สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ” แล้วจะทำให้มติที่ลงไปนั้นเป็น “โมฆะ” หรอก

พันธุ์ใหม่ที่ไม่ง่าวควรรู้.....

“รัฐธรรมนูญ” เป็นกฎหมายมหาชน มติใดๆ ที่  สส.และ สว.ลงไป แม้ สส.-สว.ถูกถอดถอนในภายหลัง

มติที่ลงไปก่อนหน้านั้น ก็ไม่มีคำว่า “เป็นโมฆะ”!

รัฐธรรมนูญมีตั้ง ๒๗๙ มาตรา สว.พันธุ์ใหม่ อย่าดูแต่มาตรา “ต้องจริต” คือ มาตรา ๑๑๓ มาตราเดียวซิจ๊ะ

คุณเจ๊พันธุ์ใหม่ ควรไปดูมาตรา ๘๒ ช่วงท้ายวรรคสองด้วย ที่บอกว่า

“......ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่กระทบต่อกิจการที่ผู้นั้นได้กระทำไปก่อนพ้นจากตำแหน่ง”

เห็นมั้ย เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมาย

แต่คนออกกฎหมายในสถานะ “วุฒิสมาชิก” กลับแสดงวุฒิในอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนมอบให้กับรัฐที่เรียก “รัฐธรรมนูญ” แบบงูๆ ปลาๆ สวมแว่น เช่นนี้

มันอันตรายนะ

เพราะจะทำให้คนที่ไม่รู้ แต่หลับหู-หลับตาเชื่อในเครดิตที่เขียนหน้าชื่อว่า “รศ.ดร.” ความเชื่อแบบผิดๆ ตามนั้น อาจนำไปสู่ “การคิด-การทำ” ที่ผิด ตามไปด้วยได้

แต่เรื่องนี้ ชาวบ้านคงไม่สนใจเท่าเรื่อง รู้ว่า “เขาหลอก” แต่ “เต็มใจให้ทักษิณหลอก” เป็นครั้งที่ ๑๐๑ แน่

เมื่อจันทร์ ๑๗ มีนา.๖๘ ทักษิณไปตดทางปากที่พิษณุโลกว่า

“ปัญหา “หนี้สินครัวเรือน” เยอะเหลือเกิน ทำอย่างไรจะให้หนี้คนไทยลดลงได้ ผมก็ได้คิดดังๆ ย้ำว่า “แค่คิดดังๆ” ยังไม่ได้ทำ

เราคิดว่า ต่อไปเราจะ “ซื้อหนี้ทั้งหมดของประชาชน” ออกจากระบบธนาคารดีไหม?

แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกออกจาก “เครดิตบูโร” ให้หมด

 ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำมาหากินใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐบาล

เพราะผมสามารถที่จะให้ “เอกชนลงทุน”

วันนี้ รัฐบาลเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามา หนี้ก็บานตะไทแล้ว จะขยับอะไรที ก็เป็นหนี้ไปหมด

เราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด แล้วสร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ต้องทำ

 ฉะนั้น สิ่งที่พูด นายกฯ พูด พรรคเพื่อไทยพูด ทำแน่นอน

แต่ทำวันนี้ มันไม่เหมือนสมัยอยู่ไทยรักไทย เพราะพรรคเรามีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง รัฐมนตรีผสมทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว

พยายามทั้งนวดทั้งบีบให้ช่วยทำงานหน่อย พ่อมหาจำเริญช่วยทำงานหน่อยเถอะ”

ไอเดียกระฉูด แต่ที่พูดไม่เคยทำได้จริงซักเรื่อง ต้องยกให้ “พ่อมหาจำเริญ” คนนี้เขาเลย!

ถามคำ “หนี้ครัวเรือน” คนไทย ตอนนี้มีเท่าไหร่?

บอกก่อนเลยก็ได้ มี ๑๖.๓ ล้านล้านบาท ขณะที่งบประมาณแผ่นดินปีนี้ ยังแค่ ๓.๘ ล้านล้านบาท

หมายความว่า “หนี้ภาคครัวเรือน” สูงมากกว่างบประมาณแผ่นดินปีนี้ ร่วม ๖ เท่า

เฉพาะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระบบ “เครดิตบูโร” คือหนี้ในระบบธนาคาร ที่ทักษิณพูดเหมือนหมาสะบัดเยี่ยว ว่าจะให้เอกชนลงทุน “ซื้อหนี้” ประชาชนทั้งหมด เพื่อออกจากระบบ “เครดิตบูโร” นั้น

หนี้ก้อนนี้ มีประมาณ ๑๓.๖ ล้านล้านบาท

จากผ่อนบ้าน ผ่อนรถ รูดบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และหนี้ SME เหล่านี้ จะเป็น NPL แน่ วงเงินไม่หนี ๑.๒ ล้านล้านบาท!

บอกให้ชื่นสะดือหน่อยซิ...พ่อมหาจำเริญ ว่าในโลกนี้ มีเอกชนรายไหน ที่จะเอาเงิน “๑๓.๖ ล้านล้าน” มาซื้อหนี้ประชาชนจากแบงก์ทั้งหมด

โดยไม่ซิกแซ็กให้ “รัฐบาลค้ำประกัน” หนี้ก้อนนี้ให้!?

ถ้าไม่ซิกแซ็กให้รัฐบาลโดยกระทรวงคลังค้ำประกันละก็ ทักษิณเอาเงิน ๑๓.๖ ล้านล้านมาตั้งบริษัทซื้อเองได้เลย

และผมจะกราบตั้งแต่ปลายตีนไปจนถึงหว่างขาเป็นการขอบคุณแทนลูกหนี้ ๑๓.๖ ล้านล้านบาทนั้น ซะด้วยซ้ำ!

ว่าแต่ว่า ทั้งเงินสะอาด-เงินสกปรก ที่มีทั้งหมดน่ะ มีถึง ๑๓.๖ ล้านล้านหรือเปล่าล่ะ!?

ไอ้ที่พูดไปนี่ ก็พูดเอาหน้า-หาเสียงเหมือนกับที่พูดทุกครั้ง

ขึ้นเวทีจ้อ ๓-๔ เดือนก่อน โม้ขี้ฟันกระจาย

ตลาดหุ้นต้องกระฉูด ค่าไฟต้องลดเหลือ ๓ บาท นี่ยังไม่ทันได้ลด ก็ “โม้ซ้อนโม้” วันก่อน จะให้เหลือ ๒ บาทอีกแล้ว

ไปพูดอีกที ค่าไฟคงเหลือบาทเดียวละมั้ง แต่เฉพาะที่เทวดาชั้น ๑๔ กับในคุกเท่านั้น!

เอกชนที่ทักษิณอุปโลกน์จะให้มาซื้อหนี้ชาวบ้านจากแบงก์แบบ “นักบุญเทวดา” นั่นน่ะ มันไม่มีตัวตนจริงหรอก

จะมีก็แต่ “เทวดาเหนือคุก” ถ้าอยากเป็น  “นักบุญ” มาไถ่บาปแทนลูกหนี้ในระบบจริงๆ ละก็ เอาเลย..ขอย้ำ ไม่มีใครว่าซักคำ

มีแต่จะยกมือท่วมหัว อนุโมทนายกให้เป็นพ่อมหาจำเริญแทน “พ่อมหาโจร” ซะด้วยซ้ำ!

แต่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ว่ามาในลีลา “พ่อพระ” เพราะในใจมีแผนผลักดัน “เงินในอากาศ” ในรูป “เหรียญดิจิทัล” มาใช้ซื้อหนี้จากแบงก์

พูดง่ายๆ “แบงก์ชาติ” ไม่เอาด้วยกับการออกเหรียญดิจิทัลโดยไม่มีเงินจริงมาวางหนุนหลัง

ทักษิณแค้นนนน หาเรื่องพูดให้ชาวบ้านเกลียดแบงก์ชาติว่าเป็นตัวขัดขวางแนวทางที่เขาจะใช้เงินในอากาศ “แก้หนี้-แก้เศรษฐกิจ” ประเทศ

ก็คิดกลวิธีใหม่ จะซื้อหนี้ประชาชนทั้งหมดจากแบงก์พาณิชย์ ใช้เหรียญดิจิทัลซื้อ โดยให้รัฐบาลออกพันธบัตรค้ำประกันเงินก้อนนี้

ถ้าแบงก์พาณิชย์ โอเค เท่ากับยืมมือแบงก์พาณิชย์ ด้วยเงิน ๑๓.๖ ล้านล้าน ค้ำประกัน บีบให้แบงก์ชาติต้องยอมรับ “เงินดิจิทัล” ของทักษิณโดยปริยาย

และนั่นเท่ากับ โยกหนี้ครัวเรือนในระบบ ๑๓.๖ ล้านล้านของลูกหนี้แบงก์ ให้ไปเป็น หนี้ ๑๓.๖ ล้านล้าน ของประชาชนในระบบภาษีทุกคนต้องจ่ายแทน

เรียกว่า ทักษิณ-เพื่อไทย ได้ทั้งหน้า ทั้งคะแนน ทั้งได้ออกเหรียญดิจิทัล มี ๑๓.๖ ล้านล้านหนุนหลัง และใช้เงินในอากาศนั้น ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าได้

โดยตัวเองไม่ต้องจ่าย ในภาระหนี้สินรูปเงินดิจิทัลทั้งหมด เพราะเป็นหนี้สิน-ภาระของรัฐบาลที่แบงก์ชาติรับรองเป็นเงินเท่าธนบัตรไปแล้ว

นี่...แนวทางยอกย้อน-ซ่อนเงื่อน “ซื้อหนี้ประชาชน” จากแบงก์

ใช้ดิจิทัลจ่ายไปก่อน ค่อยหาเงินจริงมาให้ทีหลัง

โดยรัฐบาลค้ำประกัน เป็นหนี้สาธารณะ ซึ่งเท่ากับเป็นหนี้ที่ประชาชนต้องเป็นผู้ใช้หนี้แทน!

แต่เชื่อเถอะ...

ไม่มีแบงก์พาณิชย์ไหนเขาโง่จนตามทักษิณไม่ทันหรอก

จะมีแต่ก็แต่ชาวบ้านในสภาพ “คนตาบอดไม่กลัวเสือ” ชุดเดิมเท่านั้นแหละ

ที่เชื่อลมปากทักษิณ แล้วพากันพนมก้มกราบ ซูฮกยกย่อง “พ่อมหาโจร” เป็น “พ่อมหาจำเริญ” แห่งยุคดิจิทัล!

ผมประกาศมั่ง....

รับซื้อโครงการที่ประมูลได้ตามกระทรวงทบวงกรมในยุคนี้ทั้งหมด แต่มีข้อแม้

ที่ “ไม่จ่าย ๓๐%” ใต้โต๊ะนะ!           

-เปลว สีเงิน

๑๙ มีนาคม ๒๕๖๘

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘MOU 44’ ถึงหุ้น ‘บางจาก’

ก็ลงตัวกันซะที “ฝ่ายค้าน-รัฐบาล” จะอภิปรายไม่ไว้วางใจกัน ด้วยเวลา ๒ วันครึ่ง โปรแกรมปะทะฝีปาก เป็นดังนี้....

ปิดฉาก"รัฐธรรมนูญสสร."

โลกกำลังจะแตก ชาวบ้านกำลังจะอดตาย แต่เรื่องที่นักการเมืองไทย "ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน" ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ชนิดต้อง "เปิดรัฐสภา" ถกกันคร่ำเครียด

ผ่าเกมโหด.. 'บ้านใหญ่' ฟิลิปปินส์ เสร็จนาฆ่าโคถึก!! | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์

ผ่าเกมโหด.. 'บ้านใหญ่' ฟิลิปปินส์ เสร็จนาฆ่าโคถึก!! จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2568

สืบจากศพ ‘หมอพรทิพย์’ พลิกปม ใครฆ่า...!!?? ‘อดีต ผกก.โจ้-แตงโม’ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

สืบจากศพ ‘หมอพรทิพย์’ พลิกปม ใครฆ่า...!!?? ‘อดีต ผกก.โจ้-แตงโม’ อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568

“ป่าน่าน” ใน “เมืองน่าน”

๔-๕ วันมานี้ ไฟไหม้บางส่วนที่ “โรงพยาบาลรามาธิบดี” คงรู้กันแล้ว ช่วงนี้ ท่านจึงเห็นข้อความตามโซเชียล ว่า “มูลนิธิรามาธิบดี ขอเชิญร่วมบริจาคซ่อมแซมอาคาร 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังเกิดเหตุไฟไหม้ ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี กรุงเทพ 090-3-50015-5 กสิกรไทย 879-2-00448-3 ไทยพาณิชย์ 026-3-05216-3 LINE @ramafoundation โทรศัพท์ 0-2201-1111