
หลัง “รัฐมนตรีน้ำ” จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายภารกิจใหญ่จาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบหลักเรื่องการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชนขณะนี้ พร้อมให้รายงานผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาใน 15 วัน
ล่าสุดครบกำหนด แม่ทัพปราบบุหรี่ไฟฟ้านำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า รายงานผลต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งพบว่า หลังมีข้อสั่งการของนายกฯ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 68 ผลการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ในระยะเวลาราว 2 สัปดาห์เศษ ระหว่างวันที่ 26 ก.พ. - 2 มี.ค. มีการจับกุม 1,078 คดี จำนวนของกลาง 900,444 ชิ้น
มูลค่าของกลาง 118,953,915 บาท เมื่อเทียบกับปี 2567 พบว่ายอดการจับกุมในระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังข้อสั่งการนายกฯ เกือบจะเทียบเท่าการจับกุมปี 2567 ทั้งปี ส่วนผู้ต้องหา 1,104 คน
และถึงผลการทำงานจะมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังมีข้อกังวลใจของนายกฯที่ฝากทีมปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าไปทำการบ้านเพิ่มเติม ในกวดขันมากยิ่งขึ้นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในรั้วโรงเรียน และกรณีบุหรี่ไฟฟ้าบางตัวพัฒนาให้ใส่สารเสพติดลงไปได้ หลายคนจึงใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เสพยาเสพติด ซึ่งนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นการเสพของเด็กและเยาวชนได้
งานนี้ “รัฐมนตรีน้ำ” สั่งลุยงานต่อเชิญ 20 หน่วยงานประชุมเพื่อติดตามงาน พร้อมจัดให้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าผลการดำเนินการทุกสัปดาห์ โดยแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วน คือ
1.การปูพรมกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า เน้นสะกัดการลักลอบนำเข้า และปราบปรามร้านค้าที่มีที่ตั้งและร้านค้าออนไลน์ 2 การประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ ในระดับประชาชนทั่วไป และในสถานศึกษา โดยเฉพาะนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และ 3.การวางมาตร และการนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาทบทวน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในระยะยาว
“รัฐมนตรีน้ำ” ยังได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำงานอย่างเข้มข้นตามข้อสั่งการของนายกฯ พร้อมระบุด้วยว่า เมื่อครบ 1 เดือน จะมีการสรุปผลรายงานกับนายกฯอีกครั้ง เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน พร้อมทั้งอุปสรรค ปัญหาต่างๆที่พบ
แหม..ทำงานแข็งขันสมกับเป็นมือปราบบุหรี่ไฟฟ้าของรัฐบาลจริงๆ
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อยู่ในวงกำกับ’
ช่วงนี้ประเด็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่และสังคมกำลังให้ความสนใจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการประชุมวันใด เพราะเรื่องเวลาชั่วโมงในการอภิปรายยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ แต่จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานตัวแทนทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 19 มี.ค.นี้
ตามจนสำเร็จอีกเรื่อง
สมฉายา มิสเตอร์เกษตร เป็น สส.ที่ใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างสร้างสรรค์และคุ้มค่า สำหรับ สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย
“เคยเป็นม็อบมาก่อน”
ยุคนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ อาจมีข้อดีอยู่บ้างเวลามีม็อบหรือผู้ชุมนุม มายื่นหนังสือที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จะส่งรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ หรือตัวแทน ไปรับหนังสือ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขความเดือดร้อนทันที
'เมาหมัด'
ช่วงนี้อาจไม่อยู่กับร่องกับรอย หรือกำลังเมาหมัดหงุดหงิดง่ายสำหรับ รมต.วัย 60 กว่าๆ อยูในสภาวะผู้ชายวัยทอง อย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ต้องรับศึกหนักทั้งงานหลวงก็ต้องทำ งานราษฎร์ก็ต้องเสิร์ฟให้นายใหญ่ จึงทำให้ระยะหลังพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย
'ดิจิทัลวัยเด็ก'
ข่าวใหญ่เริ่มต้นสัปดาห์คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ที่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจประกาศว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 หมื่นบาท เฟสที่ 3 สำหรับให้สิทธิบุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ จะจ่ายในปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ของปี 2568 ให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้แล้ว อายุ 16-20 ปี
หัวใจอยู่สงขลา
ช่วงนี้งานเยอะเพราะสวมหมวกหลายใบหลายบทบาท สำหรับ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม ที่ลุยทำหน้าที่รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างเต็มที่ เร่งตีปี๊บผลงาน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่างๆของรัฐบาลให้ประชาชนรับทราบทุกช่องทางไม่มีวันหยุด