มิตรแห่งจิตวิญญาณ ของตูตูกับทะไลลามะ

พอได้ข่าวการจากไปของสาธุคุณ Desmond Tutu แห่งแอฟริกาใต้เมื่อเร็วๆ นี้ ผมก็ย้อนความจำไปถึง “มิตรแห่งจิตวิญญาณ” ของท่านกับองค์ทะไลลามะแห่งทิเบตทันที

หนังสือที่เขียนถึงความรัก, เมตตา และความเป็นเพื่อนร่วมเสียงหัวเราะของนักบวชอาวุโสทั้งสองท่าน Book of Joy: Lasting Happiness in a Changing World ที่ทั้งสองเขียนร่วมกับ Douglas Abrams เป็นตำนานแห่งความเป็น “คนธรรมดาผู้ยิ่งใหญ่” อย่างแท้จริง

ท่านตูตูจากไปวันนี้ในวัย 90 ปีนี้ท่านทะไลลามะมีอายุ 86 ปี

ท่านทั้งสองพบกันเมื่อปี 2015 ที่ Dharamsala ทางเหนือของอินเดีย อันเป็นที่พำนักของท่านองค์ทะไลลามะ เมื่อท่านตูตูมาหาถึงบ้าน

เพราะท่านทะไลลามะเดิมมีแผนจะไปเยือนท่านตูตูที่แอฟริกาใต้ แต่มีอุปสรรคการออกวีซ่า เพราะรัฐบาลแอฟริกาใต้รับรองจีนแผ่นดินใหญ่ที่มองผู้นำจิตวิญญาณแห่งทิเบตท่านนี้เป็นศัตรู

แต่นั่นมิได้เป็นข้อขัดข้องสำหรับการสังสรรค์สนทนาธรรมและแลกเปลี่ยนความเป็น “มิตรแห่งจิตวิญญาณ” ของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองท่าน

ที่เสียสละและทุ่มเททั้งชีวิตสำหรับการต่อสู้เพื่อความถูกต้องชอบธรรม, เสรีภาพแห่งการนับถือศาสนา และความเท่าเทียมกับความยุติธรรมสำหรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติหรือศาสนา

นักบวชผู้อาวุโสทั้งสองท่านมีความเป็นกันเอง, แลกเปลี่ยนเสียงหัวเราะและสอดแทรกอารมณ์ขันอย่างเป็นธรรมชาติ

ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ท่านทะไลลามะที่ธรรมศาลาเมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว

และได้ฟังบทเสวนาของท่านตูตูอย่างใกล้ชิด ณ หอประชุมแห่งหนึ่งที่มหาวิทยาลัย Harvard ในเวลาต่อมา

ท่านทั้งสองคือนักคิดนักต่อสู้นักปรัชญาที่น่าเคารพนับถืออย่างเต็มที่

อาร์ชบิชอป เดสมอนด์ ตูตู ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และช่วยยุติการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ (apartheid) เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 90 ปี

สาธุคุณตูตูเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังขบวนการเพื่อยุตินโยบายการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ และการเลือกปฏิบัติที่บังคับใช้โดยรัฐบาลชนกลุ่มน้อยผิวขาวเพื่อต่อต้านคนผิวสีส่วนใหญ่ในแอฟริกาใต้ตั้งแต่ พ.ศ.2491 ถึง พ.ศ.2534

ตูตูได้รับรางวัลโนเบลในปี 1984 จากบทบาทของเขาในการต่อสู้เพื่อล้มล้างระบบการแบ่งแยกสีผิว

การเสียชีวิตของตูตูเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจาก FW de Klerk ประธานาธิบดีแห่งการแบ่งแยกสีผิวคนสุดท้ายของแอฟริกาใต้ ซึ่งเสียชีวิตด้วยวัย 85 ปี

เขาได้รับความชื่นชมว่าเป็น "ผู้นำทางจิตวิญญาณที่โดดเด่น นักเคลื่อนไหวต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว และนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก"

จุดเด่นของตูตูคือความกล้าหาญในการต่อสู้กับความอยุติธรรม และยืนเคียงข้างผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกดขี่ ความอยุติธรรม และความรุนแรงภายใต้การแบ่งแยกสีผิว และผู้คนที่ถูกกดขี่และถูกกดขี่จากทั่วโลก

คนรู้จักเขาดีเรียกเขาว่าเป็น “มนุษย์ที่ไม่ธรรมดา นักคิด ผู้นำ”

เมื่อประชาธิปไตยมาถึง ตูตูได้ใช้ “พลังแห่งศีลธรรม” ในการขับเคลื่อน “คณะกรรมการความจริงและการปรองดอง” ซึ่งพยายามเปิดโปงอาชญากรรมของรัฐบาลชนกลุ่มน้อยผิวขาว

ชาวแอฟริกาใต้จำนวนมากจดจำความกล้าหาญส่วนตัวของตูตู และความชัดเจนของ “ความโกรธแค้นต่อความไร้ศีลธรรม” ของสังคม

เขาให้ความหวังกับผู้คนเสมอ และเป็นการให้ความหวังด้วยการมองโลกในแง่ดี

ซึ่งมาพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักที่ดูเหมือนจะเป็นบุคลิกประจำตัวทีเดียว

คนคุ้นเคยเรียกขานเขาในนาม The Arch อย่างสนิทสนม

และจำเขาได้ทันทีในชุดเสื้อคลุมสีม่วง ท่าทางร่าเริง และรอยยิ้มที่แทบเกือบจะตลอดเวลา

ที่สำคัญคือตูตูไม่ลังเลที่จะแสดงอารมณ์ในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการระเบิดหัวเราะหรือเต้นรำในพิธีเปิดฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ในปี 2010

ตูตูวิพากษ์สิ่งที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้องแม้จะเป็นกลุ่มพวกผิวดำด้วยกัน ตามมาตรฐานของเขา อะไรถูกก็คือถูก อะไรผิดก็คือผิด

สีผิวและสังกัดไม่จำเป็นต้องเป็นตัวกำหนดมาตรฐานแห่งศีลธรรมและความถูกต้องสำหรับเขา

เขาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของสภาแห่งชาติแอฟริกัน (ANC) อย่างมากในยุคหลังการแบ่งแยกสีผิว

ตูตูบวชเป็นบาทหลวงในปี 2503

เป็นอธิการแห่งเลโซโทตั้งแต่ปี 2519-2521

ผู้ช่วยอธิการแห่งโยฮันเนสเบิร์กและอธิการวัดแห่งหนึ่งในโซเวโต เขาได้เป็นบิชอปแห่งโยฮันเนสเบิร์กในปี 1985

และได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัครสังฆราชผิวสีคนแรกของเคปทาวน์ในปีถัดมา

ตูตูใช้บทบาทที่โด่งดังของเขาในการต่อต้านการกดขี่ของคนผิวสีในประเทศบ้านเกิดของเขา

และย้ำเสมอว่าแรงจูงใจของเขาเป็นเรื่องทางศาสนาและไม่ใช่เรื่องการเมือง

หลังจากที่เนลสัน แมนเดลา ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ในปี 1994 ตูตูได้รับแต่งตั้งจากเขาให้เป็นคณะกรรมการความจริงและการปรองดอง ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนการก่ออาชญากรรมที่กระทำโดยคนผิวขาวและคนผิวดำในยุคการแบ่งแยกสีผิว

เขายังเป็นผู้สร้างวลี Rainbow Nation เพื่ออธิบายถึงการผสมผสานทางชาติพันธุ์ของแอฟริกาใต้หลังการแบ่งแยกสีผิว

ในช่วงท้ายๆ ของชีวิต ตูตูยอมรับว่าเขาผิดหวังที่ประเทศไม่ได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวแบบที่เขาฝันไว้ตลอดชีวิต

สองผู้ยิ่งใหญ่ที่ผมชื่นชมทั้งเสียงหัวเราะและความทุ่มเทต่อมนุษยชาติจริงๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ