ผมเป็นหนึ่งใน “สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบ”
ดังนั้นจึงต้องใส่ใจกับนโยบายและแนวทางของรัฐบาลและทิศทางของสังคมต่อคนกลุ่มนี้
ที่เคยเชื่อกันว่าคนอายุเกิน 60 เป็นผู้ไร้ประโยชน์ ไม่ช่วยสร้างเศรษฐกิจของชาติ เป็นภาระของสังคม ต้องให้คนอายุน้อยกว่าเลี้ยงดู เป็นภาระต่องบประมาณของแผ่นดินไม่น่าจะเป็นจริง
ขณะเดียวกันก็มีชาร์ตที่แสดงว่าปี 2564 ที่ผ่านมานั้นมีเด็กเกิดใหม่น้อยกว่า 5 แสนคน ถือว่าต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ดร.ธันยวัต สมใจทวีพร ผอ.ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้โพสต์ภาพและข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก Por Tunyawat
เป็นภาพกราฟแสดงจำนวนประชากรเกิดในประเทศไทยปี 2536-2564 โดยในกราฟพบว่าจำนวนการเกิดของเด็กมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งปี 2564 มีเด็กเกิดใหม่น้อยกว่า 5 แสนคน โดย ดร.ธันยวัตระบุข้อความว่า
"ดิ่งกว่ามูลค่าเหรียญคริปโต ก็จำนวนประชากรเกิดในประเทศไทยนี่ล่ะ ปี 2564 ที่ผ่านมา จำนวนการเกิดต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ ตัวเลขนี้น่ากลัวและแนวโน้มของกราฟคงไม่ดีขึ้นแน่ นอกจากนี้ปีที่ผ่านมาอัตราการตายสูงกว่าอัตราการเกิดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วย คาดการณ์ไม่ถูกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต" อีกต่อไป
หากแนวโน้มเป็นเช่นนี้จริง คำว่า “สังคมสูงวัย” สำหรับไทยก็เข้าสู่สภาพความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป
ในแง่บวก เทคโนโลยีและมาตรฐานสาธารณะที่ถูกยกระดับขึ้นมาตลอดเวลาทำให้คนสูงอายุไทยสามารถพัฒนาตัวเองเป็น “พลังสังคม” ยุคดิจิทัลได้
หากได้รับโอกาสการเรียนรู้ ปรับทักษะและสร้างชุมชนในรูปแบบที่ทันสมัย คำว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” ก็มีความหมายในยุคนี้ได้เช่นกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.วิชัย โชควิวัฒนประธานสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และรองประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติฯ เผยว่าไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (กผส.) โดยสมบูรณ์แล้ว
ท่านบอกว่าปีใหม่นี้เตรียมเดินหน้าผลักดันนโยบายช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 'เบี้ยยังชีพ'
และโครงการปรับบ้านผู้สูงอายุให้ปลอดภัย ให้ผู้สูงวัยพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุภายในประเทศไทยว่า ปีนี้เป็นปีที่ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) แล้ว กล่าวคือ
มีผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นสัดส่วนราว 20% ของประชากรทั้งหมด
ซึ่งประเทศไทยมีการเตรียมตัวเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน
โดยเริ่มตั้งแต่การประชุมสมัชชาโลกว่าด้วยผู้สูงอายุที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ปี 2525
กระทั่งในปีเดียวกันมีแผนผู้สูงอายุระยะยาว 20 ปี
และดำเนินการเรื่อยมาจนจะหมดแผนผู้สูงอายุระยะยาวฉบับที่ 2 แล้ว
ถือว่าได้เตรียมการมานานเป็นเวลา 40 ปี
ในช่วงเวลาระหว่างนั้น ได้มีการขับเคลื่อนเรื่องเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2534 เริ่มจ่ายเบี้ยยังชีพจริงราวปี 2535
โดยเริ่มจากคนยากไร้ ก่อนจะมีสวัสดิการแบบถ้วนหน้า และพัฒนามาเป็นแบบขั้นบันไดตามลำดับ
คุณหมอวิชัยบอกว่า เรื่องผู้สูงอายุ เป็นเรื่องที่ทุกคนทุกกลุ่มให้ความสนใจ เพราะเป็นกลุ่มหนึ่งที่เป็นที่เคารพนับถือ
สำหรับนโยบายที่จะขับเคลื่อนเพื่อดูแลผู้สูงอายุในปี 2565 ที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์นี้ ในฐานะที่ตนเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายของผู้สูงอายุ จะยังคงส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นพลังสังคมให้มากที่สุด เพื่อให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และลดการพึ่งพาผู้อื่น ซึ่งนี่เป็นหลักการสำคัญใหญ่ๆ
ในด้านวิธีการนั้น จะต้องวางแผนกลไกทางกฎหมาย การเงิน และสังคมให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าว
อาทิ การเดินหน้าผลักดันนโยบายการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุให้ได้รับอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง ซึ่ง นพ.วิชัยเป็นรองประธานเอง
คณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนที่ 1 ทำหน้าที่แก้ไขร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ....เพื่อแก้ไขปัญหาการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ กรณีถูกเรียกเงินคืนย้อนหลังจากข้อกฎหมายที่มีอยู่ไม่สอดคล้องกัน ให้ผู้สูงอายุได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงและเป็นธรรม สามารถพึ่งพาตนเองได้
ล่าสุดมีข้อเสนอให้จัดสรรเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุพิจารณาจากค่าแรงขั้นต่ำ และระหว่างนี้อยู่ระหว่างการรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน ก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และรัฐสภาพิจารณาต่อไป
รวมถึงจะยังให้การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียงได้รับการดูแลอยู่ภายในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
ผ่านโครงการปรับบ้านผู้สูงอายุให้ปลอดภัย ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
เช่น การปรับห้องสุขาจากส้วมนั่งยองให้เป็นโถสุขภัณฑ์ หรือการจัดห้องนอนใหม่ให้อยู่ชั้นล่าง
หรือปรับพื้น ราวบันไดเพื่อลดการหกล้ม แทนการสร้างสถานสงเคราะห์ที่อาจทำให้ครอบครัว สังคมอ่อนแอลงเรื่อยๆ และใช้งบประมาณมากกว่าหลายเท่าตัว
ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นที่ใช้งบประมาณในการพัฒนาสถานสงเคราะห์มากกว่า 4 ล้านล้านบาท
ขณะที่ประเทศไทยมีงบประมาณทั้งประเทศ 3 ล้านล้านบาทเท่านั้น
คำว่า “ช่องว่างระหว่างวัย” จะกลายเป็น “การประสานความคิดและกิจกรรมระหว่างวัย” หากรัฐบาลและเอกชนกับสังคมไทยร่วมกันแปรสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นวิกฤตกลายเป็นโอกาสในยุคที่เทคโนโลยีทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้านอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ