อย่าแค่ขู่กันไป-มา

เสือกแล้วได้ดี!

ก็..คงเป็นลักษณะเดียวกับคำพูดที่ว่า.. “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” นั่นกระมัง?

ซึ่งก็ต้องยินดีด้วยกับนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่ไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนอะไร นอกจากเป็น คนแก่ “จำเลย” ในคดีมาตรา 112..

แต่ได้รับ “อภิสิทธิ์” เหนือคนไทยทั้งปวงชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศนี้!

ที่ล่าสุดศาลอาญาก็มีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางออกนอกประเทศไปประชุมที่มาเลเซียระหว่างวันที่ 2-3 กุมภา.นี้ได้

และวันนี้-3 ก.พ. หลังเสร็จการหารือกับใครบ้างไม่รู้ นายทักษิณก็น่าจะบินกลับเข้ามาทำหน้าที่ “สทร.” ต่อไป และต่อไปนายทักษิณจะเดินทางไปประเทศไหนๆ..

ศาลก็คงจะไว้เนื้อเชื่อใจ มีคำสั่งอนุญาตให้ทุกคราวไป แล้วอย่างงี้จะไม่ให้ยินดีกับนายทักษิณที่มีคดีร้ายแรงติดตัวอยู่ได้ไงล่ะ?

เออ..ส่วนนั่นผมไม่ได้ยินดี-ยินร้าย เพียงแต่อยากตามดู เพราะเป็นคนดัง-คนหล่อทั้งคี่ ผมหมายถึงคุณฟิล์ม รัฐภูมิ คุณหนุ่ม กรรชัย และคุณอี้ แทนคุณ ที่กำลังเผชิญหน้ากันทางกฎหมาย

จะพูดว่า 2 รุม 1 ก็ใช่ แต่ความจริงคุณฟิล์มเป็นฝ่ายลุยเดี่ยว ยื่นฟ้องคุณหนุ่ม กรรชัย กับคุณอี้ แทนคุณ ข้อหาหมิ่นประมาท!

เห็นต่างฝ่ายต่างแยกเขี้ยวเข้าใส่กันแบบตัดสัมพันธ์ความเป็นพี่เป็นน้องในวงการไม่เหลือเยื่อใย โดยคุณฟิล์มบอก..

“ไม่ได้อยากมาทำอะไรแบบนี้ เพราะชอบความสงบ แต่มองว่าขณะนี้มันเกินควรไปแล้ว เนื่องจากมีบางคนมาโจมตีด่าถึงบุพการีว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน

รวมถึงบอกว่าไม่มีครูบาอาจารย์ เป็นคนไม่ดีของสังคม อีกทั้งยังกล่าวหาว่าตนไปพรากผู้เยาว์ ทำให้แฟนคลับเกลียดชังตนกว่าเดิม

ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย เป็นผู้มีอำนาจตัดสินความผิดตน ทำให้สังคมคล้อยตาม..”

ด้านคุณหนุ่ม กรรชัย ก็ไม่ลดละ ฉะมาก็ฉะกลับ.. “ที่ฟิล์ม รัฐภูมิ ไปแจ้งความแล้วมีชื่อผม ผมขอฝากผ่านรายการนี้ไปถึงคุณฟิล์มและ อ.ประมาณ

เมื่อไหร่ที่ผมรับหมายเรียกจากตำรวจ ผมจะแจ้งความกลับทันทีข้อหาแจ้งความเท็จ และกลั่นแกล้งให้คนอื่นนั้นได้รับโทษทางอาญา..

เมื่อไหร่ที่ได้รับปุ๊บ ตนสวนตับแตกเหมือนกัน โลกนี้ต้องมีความยุติธรรม”!

ไม่เท่านั้น คุณหนุ่ม กรรชัย ยังโพสต์ข้อความ.. “ใจเอ็งมันได้ แต่หน้าเอ็งมันด้าน” สั้น-กระชับ หากหมายถึงคุณฟิล์ม รัฐภูมิ ก็เห็นจะมือไม้สั่นแน่!

นี่แหละที่ผมว่า “อยากตามดู” และจะดูด้วยใจเป็นกลาง เพราะทั้งคุณฟิล์ม-คุณหนุ่ม ผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไปเข้าข้างหรือให้กำลังใจฝ่ายไหนเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งสองฝ่ายประกาศจะสู้รบปรบมือกันแล้วก็ต้องเอาให้จริง ไม่ได้ยุให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องติดคุก หากแต่เพื่อประโยชน์ที่สังคมจะได้รู้ใครถูก-ใครผิด?

ไม่ใช่ขู่กันไป-ขู่กันมา สุดท้ายก็เกี้ยเซียะ ยอมความขอโทษขอโพยกัน ซึ่งกองเชียร์-สังคมก็ได้แต่นั่งตาปริบๆ ไม่รู้ใครถูก-ใครผิดอยู่ต่อไป!

ฉะนั้น ถ้าคุณหนุ่มไม่ได้รับหมายเรียกจากตำรวจในเร็ววันนี้ ก็ให้คิดให้เข้าใจไปได้ว่าคุณฟิล์มไม่กล้า กลัวคำขู่.. “ได้รับปุ๊บ สวนตับแตก” เป็นแน่!

ซึ่งแน่นอน คุณฟิล์มย่อมเสียเครดิตความน่าเชื่อถือ และก็จะพลอยให้คุณประมาณที่ทำหน้าที่ทนายเสียเกียรติภูมิ-เสียคำพูด.. “จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” ไปด้วย

คุณหนุ่มก็เช่นกัน เมื่อตั้งแท่นลุยถั่วมาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องเดินไปให้สุดทาง ขุดคุ้ย ตีแผ่อย่างสื่อมืออาชีพที่ไม่ยอมให้ถูกปิดปากไม่ว่าด้วยการฟ้องร้องหรืออื่นใด

อย่าให้คำพูด “สวนตับแตกเหมือนกัน” เป็นแค่คำขู่..จะได้รับหรือไม่ได้รับหมายเรียกก็ตาม ต้องเดินหน้ากระชากหน้ากากคุณฟิล์มให้ถึงที่สุด

ส่วนคุณฟิล์มนอกจากรักษาหน้าตัวเองแล้ว ก็ต้องพิสูจน์ให้สังคมได้ประจักษ์..คนที่ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยเป็นผู้มีอำนาจตัดสินความผิดผู้อื่นน่ะ..

ก็..ติดคุกได้!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าวางใจสทร.

อาการน่าเป็นห่วง! ไม่ได้หมายถึงแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ และก็ไม่ใช่นายทักษิณ พ่อนายกฯ ที่ตอนนี้หาความสุขอะไรไม่ได้เลย..

บทดีแต่ไม่ลื่นไหล

กูว่าแล้ว! ใครเชื่อก็เชื่อไป สำหรับผมไม่เชื่อมาตั้งแต่ต้น ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร คนเดียวนั้น จะจริงจัง เอาเป็น-เอาตาย

ตัวทำลายการเจรจา!

ลงไปกล่าวคำ “ขออภัย” แต่แทนที่เสียงปืน-เสียงระเบิดจะเพลาๆ หรือจางหูลง กลับกลายเป็นว่า หลังนายทักษิณ ชินวัตร-สทร. กลับขึ้นมากรุงเทพฯ..

ปัญหาข้าวแก้ง่าย?

นายทักษิณนี่ ตัวปัญหาจริงๆ.. ดูสิ..ทำตัวเป็นผู้มากบารมีเหนือรัฐบาล ตั้งตนเป็น สทร.-เสือกทุกเรื่อง แต่พอฝ่ายค้านบรรจุชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธารเข้าหน่อย

ต่อ-ไม่ต่อเรื่องของสู

ไม่รู้จะโทษใคร.. เพียงแต่จะขออนุญาตชี้แจงกับท่านผู้อ่านว่า บทความผมเมื่อวาน (ในเว็บไซต์) เนื้อหาได้หล่นหายไปย่อหน้าหนึ่ง ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง-ไม่เข้าใจ ก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยละกัน!

ยังตายไม่ได้!

วานซืน.. ไปร่วมงานรดน้ำศพอดีตพระเอกหนังไทย “คุณยอดชาย เมฆสุวรรณ” ที่วัดมกุฏฯ โดยมีแขกเหรื่อ ญาติสนิทมิตรสหายไปกันแน่น-ล้นศาลา