แด่เพื่อนพ้องน้องพี่

เห็นข่าวพรรคพวกเพื่อนฝูง...ที่เคยซี้แหง ย่ำปึ้ก กันมามิใช่น้อย อย่างน้อย หลังออกจากป่า ใหม่ๆ ก็เคยต้องเป็นธุระปะปังนำท่านไปมอบตัวไว้กับ อดีตผู้บังคับการตำรวจสันติบาลผู้เที่ยงธรรม ทรงธรรม อย่างชนิดยากจะหาตำรวจประเภทนี้ได้ง่ายๆ คือพลตำรวจตรี อารีย์ กะรีบุตร เกิดมามีอาการป่วยไข้ เห็นว่า...ถึงขั้นต้องเข้าห้องไอซียูที่ประเทศฝรั่งเศส นั่นก็คือนักคิด-นักเขียน อย่าง วัฒน์ วรรลยางกูร ก็อดรู้สึกเป็นห่วง เป็นใย ขึ้นมามิได้...

------------------------------------------------

คือไม่ว่าท่านจะเป็นคนยังไง คิดแบบไหน ตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตในแบบใด ประการใด แต่ขึ้นชื่อว่า เพื่อน ซะอย่าง!!! ยังไงๆ มันคงอดห่วง อดกังวล อดรู้สึกสะทกสะท้อนใจขึ้นมามิได้ โดยเฉพาะเมื่อได้แต่สวดมนต์ อธิษฐาน ภาวนาขอให้ท่านหมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

แม้ว่าเมื่อแข็งแรงขึ้นมาแล้ว ท่านจะไปทำอะไรต่อมิอะไรตามใจ ตามความปรารถนาและต้องการของท่าน อันนั้น...ก็ต้องถือเป็นทางใคร-ทางมัน เรื่องใคร-เรื่องมัน ไม่ถึงกับเกี่ยวข้อง โยงใย กับความรู้สึกในความเป็นเพื่อน เป็นฝูง เป็นมิตรสหาย มากมายซักเท่าไหร่...

----------------------------------------------------

ว่าไปแล้ว...ตลอดช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน เท่าที่ผ่านมา คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า ไม่ว่าบรรดาเพื่อนกับเพื่อน ไปจนถึงญาติโกโหติกา พี่ๆ-น้องๆ หรือแม้กระทั่งพ่อๆ-แม่ๆ-ลูกๆ หลายต่อหลายรายมักต้องเจอปัญหาการจัดระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน อันเนื่องมาจากสิ่งที่เรียกว่า การเมือง นั่นแหละ เข้ามาเป็นตัวสอดแทรก เกลี้ยกล่อมและโน้มน้าว ให้ผู้ที่เคยรักใคร่ สมานฉันท์ ปรองดอง ซึ่งกันและกัน ด้วย สายใย ความผูกพันใดๆ ก็แล้วแต่ หนีไม่พ้นต้องหันมา ฉะกัน ไล่ถีบ ไล่งับ ดุด่าว่ากล่าวซึ่งกันและกัน จนสายใยแต่ละสายต้องขาดผึง ขาดสะบั้น แบบเผลอๆ...อาจไปไกลถึงขั้น ผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ เอาเลยก็มี!!!

----------------------------------------------------

และออกจะเป็นเรื่อง ยากซ์ซ์ซ์ เอามากๆ...ที่จะหาทางจูนคลื่น หาทางปรับทัศนคติ จุดยืน และวิธีคิด ให้พอไปด้วยกันได้มั่ง ส่วนใหญ่แล้ว...ยิ่งนานวัน กลับยิ่งก่อให้เกิดอาการโกรธ อาการเกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง หนักยิ่งขึ้นไปอีก จนความเป็นมิตร ความเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูง หรือกระทั่งความเป็นญาติโกโหติกา แทบไม่หลงเหลือติดปลายนวมเอาเลยก็ไม่แน่ ลองถ้าหากถูกถือหรือถูกมองเป็น ฝ่ายตรงข้าม ระหว่างกันและกันซะอย่าง อันนี้นี่แหละ...ที่อาจถือเป็นความน่าเกลียด น่ากลัว หรือกระทั่งน่าทุเรศ เวทนา ของสิ่งที่เรียกว่า การเมือง อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...

------------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...แม้ว่าความคั่งแค้น เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท มันจะปกคลุม ครอบคลุม สร้างสีสันบรรยากาศในลักษณะที่ว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่เรียกๆ กันในนาม ทศวรรษแห่งความมืดมน ก็ตามที แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่คิดจะหันไป ด่าเพื่อน แม้ว่าจุดยืน ทัศนคติ และวิธีการ จะต่างไปจากกันและกันเพียงใดก็ตาม โดยอาจเลี่ยงไปด่าเผด็จการ ด่าสลิ่ม ด่าทักษิณ หรือด่าพวกสามนิ้ว สามกีบ ฯลฯ กันแทนที่ หรือผู้ที่ยังพอจะมี ข้อยกเว้น ให้กับ ความเป็นเพื่อน หรือความที่เคยผูกพันกันด้วยสายใยใดๆ ก็แล้วแต่ อันนั้น....ต้องถือว่า อย่างน้อย...ก็น่าจะถือเป็นผู้ซึ่งยังหลงเหลือ ความเป็นมนุษย์ อยู่ไม่น้อย...

--------------------------------------------------------

เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว...สิ่งที่สูงไปกว่า การเมือง นั้น มันน่าจะยังมีอยู่อีกเยอะแยะมากมาย สิ่งที่ทำให้ ความเป็นมนุษย์ เป็นอะไรที่มีคุณค่า ราคา ต่างไปจากเดียรัจฉานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น อันเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด สายใย ต่างๆ นานา ขึ้นมาในครอบครัว สังคม ตลอดไปจนวัฒนธรรม ประเพณี ดังนั้น...ใครก็ตามที่หันไปด่า ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่ไม่คิดจะ ด่าเพื่อน หรือด่าพี่ ด่าน้อง ด่าพ่อ-ด่าแม่ ด่าบุพการีของตัวเอง ฯลฯ ก็ถือเป็นอัน ใช้การได้ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนใครถูก-ใครผิด ใครเก่ง-ใครไม่เก่ง ใครโง่-ใครฉลาด อันนั้น...ค่อยไปว่ากันอีกที...

------------------------------------------------------

และอาจด้วยความรู้สึกทำนองนี้นี่เอง...ที่ทำให้ไม่ว่า วัฒน์ วรรลยางกูร เขาจะคิดยังไง ไปไง-มาไง ตัดสินใจไปในแนวไหนแบบไหน แต่อย่างน้อย...เมื่อได้ทราบข่าว รู้ข่าว ถึงอาการป่วยของเขา ก็อดที่จะใจแป้ว อดเป็นห่วง เป็นกังวล ขึ้นมามิได้ อีกทั้งหลังๆ มานี้...แทบไม่หลงเหลือตบะ บารมี ใดๆ ติดปลายนวมอีกต่อไปแล้ว แค่จะพาใครไป มอบตัว กับใครต่อใครก็แล้วแต่ คงไม่อาจรับประกันการันตีใดๆ ได้เลย เลยได้แต่หันไปสวดมนต์ ภาวนา และอธิษฐานไปตามเรื่อง ตามราว ขอให้ เพื่อน หายป่วย หายไข้ หมดทุกข์ หมดโศก ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้...

-----------------------------------------------------------

สรุปเอาเป็นว่า...ในเมื่อ การเมือง ทุกวันนี้ ยังไม่คิดจะไปไหนต่อไหน ยังน่าจะวนมา-วนไป อยู่กับ พี่น้อง 3 ป. นั่นแหละเป็นหลัก เลยคงต้องขออนุญาตเจียดเอาเนื้อที่แห่งนี้ มาใช้เป็นตัวแสดงความเป็นห่วง เป็นใย ต่อพรรคพวกเพื่อนฝูง กันไปตามเรื่อง ตามราว ก็แล้วกัน ขอให้ จัตตาโร ธรรมา วัตทันติ...อายุ วรรโณ สุขัง พลัง ขอให้หายไวๆ กลับมาเขียนกลอน เขียนเรื่องสั้น บทกวี ได้เหมือนเดิมด้วยเถิด วัฒน์ วรรลยางกูร เพื่อนเอ๋ย...

-------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก สุนทโรวาท อิหม่าม อาลี ...“เพื่อนที่แท้จริง...เป็นวิญญาณเดียวกันที่อยู่ในเรือนร่างที่ต่างกัน”.

-------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น