พระมฤตยูจร(0)เดินอยู่ในราศีเมษ-8กรกฎาคม 2565
พระราหูจร(8)เดินอยู่ในราศีพฤษภ-29มีนาคม 2565
พระเสาร์จร(7)เดินหน้าอยู่ในราศีมังกร
พฤหัสบดีจร(5)เดินถอยหลังในราศีมังกรตั้งแต่27กันยายน2564-จะเริ่มลอยนิ่งแล้ววกกลับเดินหน้าในราศีมังกรตั้งแต่27ตุลาคม 2564เป็นต้นไป
วันที่ไทยจะแย้มประเทศต่อโลกขั้นแรกหลังจากปิดมานานเพราะฤทธิ์โควิด19สายพันธุ์เดลต้าคือวันที่1พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้เป็นไปตามการประกาศทางทีวีพูลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่11ตุลาคม2564 เวลา20.30น.โดยจะรับนักท่องเที่ยวจากสิบประเทศที่ได้วัคซีนครบและมีกระบวนการตรวจโดยไม่ต้องกักตัวสิบสี่วันและมาทางอากาศเท่านั้น
ต่อมายังมีภาพนายกฯได้ปรากฏตัวเมื่อ14ตุลาคม2564 ย้ำอีกครั้งท่ามกลางคณะผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ+เอกชนว่าพร้อมเปิดประเทศ โดยมีมาตรการออกมารองรับ เพื่อขอโอกาสในการทำมาหากินของประชาชน(ภาพนี้ขอให้จำไว้เพราะมีความหมายมากคล้ายๆประวัติศาสตร์ซ้ำรอย-ดังจะได้อธิบายต่อไป)
หลังจากประกาศออกไปแล้วมีคำถามที่ตามมาคือจะแย้มประเทศ หรือแย้มฝาโลง? ผู้เขียนจึงขอพักการตอบคำถามข้ามปีของคุณวีระ ธีรภัทร์ไว้อีกชั่วคราวเพราะราหูจร(8)ที่เกี่ยวข้องกับการตอบคำถามของคุณวีระยังจะค้นทรัพย์เมืองไปอีกนาน
เพื่อบอกเกณฑ์ทางโหรที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวาระต่อไป
อันที่จริงผู้เขียนมีคำตอบทางโหรให้เลาๆตั้งแต่วันที่2กรกฎาคม2564ในบทความแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 383 ชื่อตอน ปริศนาเปิดเมือง120วันมีหวังหรือไม่? พร้อมมีภาพลีลาการต่อสู้โควิด19 ซึ่งจะนำมาแสดงซ้ำในตอนนี้ถึงจุดที่เรียกว่าTT หรือโอกาสทองของทีมประเทศไทยช่วงระหว่าง27กันยายน-9พฤศจิกายน2564ที่จะเกิดปรากฎการณ์ไข้หายเอง คนยำเกรงจะรุ่งเรือง---หรือจุดTTที่ให้ไว้แต่แรกแถมชักชวนคนให้ช่วยกันสู้#ไปให้ถึงช่วงตักบาตรเทโวด้วย
แแต่ขณะที่ทำนายตอนนั้นไปไม่ค่อยมีคนเชื่อเพราะทำนายเสร็จตัวเลขโควิด19กลับพุ่งขึ้นสู่กระแสสูงสุดสุดประมาณกลางเดือนสิงหาคม2564 ชวนจิตตกและโน้มนำไปสู่การมองในแง่ลบสุดๆตามสถิติที่บันทึกไว้คือ
ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด23,418คน เมื่อ13สิงหาคม 2564
ตายสูงสุด312 คนเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564
และแล้วในที่สุดตั้งแต่ปลายกันยายน 2564เป็นต้นมาตัวเลขติดเชื้อรายใหม่+ตายก็ลดลงแม้ทรงอยู่ในระดับสูง และแววดียังเพิ่มคือตัวเลขหายป่วย+ฉีดวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกชมว่าจดระบบขึ้นดี+จู่ๆรัสเซล โครว์ดาราหนังระดับโลกก็มาภูเก็ต แซนด์บ็อกคือแม้ยังดูรุ่งริ่ง แต่ความรุ่งเรืองก็เริ่มฉายแวว
แต่เพราะตัวเลขด้านร้ายคือติดเชื้อรายใหม่+ตายที่ทรงอยู่ในระดับสูงนี่แหละทำเอาคนอึดอัดว่าเมื่อไหร่จะจะถึงจุดเปลี่ยนสำคัญอีก และพัฒนาดีขึ้นกว่านี้ วันนี้ผู้เขียนจึงนำเคล็ดจากหนังสือโหรศาสตร์ในวรรณคดีของอ.เทพย์ สาริกบุตรมาให้คำตอบดังนี้
1.ยังตั้งเป็นหลักไว้เหมือนเดิมคือ โควิด19ยังจะอ้อยอิ่งอยู่ในโลกต่อไป แล้วจะกลายเป็นโรคสามัญประจำโลกตั้งแต่ประมาณกรกฎาคม 2565เป็นต้นไป ตามจุดAที่กำหนดไว้นานแล้ว
2.ทางโหรวันที่27ตุลาคม 2564 คือวันวกกลับ-เดินหน้า-ก้าวหน้า ของการรับมือโรค(ก่อน-หลังเล็กน้อย)เพื่อเริ่มทิ้งโรคร้ายไว้ข้างหลัง อธิบายคือ
2.1ก่อนหน้านี้ช่วงกระแสเดลต้าเริ่มขึ้นสูงบุคลากรทางการแพทย์-ระบบสาธารณสุขได้ (รวมทั้งรัฐบาล)ได้ปรับ-ทบทวนตัวเองเพื่อรับมือ-แก้ปัญหาความเจ็บไข้-ทุกข์ทรมาณที่กลับมาเป็นอีกแถมกลายพันธุ์ล้ำหน้ามาตั้งแต่ประมาณ17มิถุนายน 2564แล้ว
ทั้งนี้เป็นไปตามลีลาการเดินผิดปกติของดาวใหญ่สองดวงคือคือพระเสาร์จร7ความทุกข์-เจ็บไข้เดินถอยหลังหนี-ขณะที่พฤหัสบดีจร5บุคลากร-ระบบ-และวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็เดินถอยหลังพยายามตามแก้ปัญหาเช่นหาสูตรวัคซีนไขว้ฯลฯ
2.2ตั้งแต่27กันยายน 2564 พฤหัสบดีจร(5)ถอยหลังไล่ล่าพระเสาร์จร(7)ข้ามราศีมาที่ราศีมังกร-ถิ่นของพระเสาร์เอง
ต่อมาใกล้ๆกันพระเสาร์จร(7)เริ่มวกกลับเดินหน้าสู้ในราศีมังกรตั้งแต่30กันยายน2564เป็นต้นมาจึงแม้ตัวเลขจะลดลง-แต่ก็ทรงๆ-สูงๆให้อึดอัดใจ
2.3วันที่ 27 ตุลาคม 2564 (ก่อน-หลังเล็กน้อย)คือจุดเปลี่ยนสำคัญของโควิด19รอบนี้ อันเป็นวันที่พฤหัสบดีจร(5)ที่ถอยหลังกรูดๆมานานจะ-ลอยนิ่ง(มนฑ์)-วกกลับจากถอยหลังกลับเป็นเดินหน้าในวันเดียวกัน
จุดวกกลับเพื่อเริ่มเดินหน้าหลังจากเดินถอยหลังของดาวนี่แหละตามหลักโหรถือว่าจะบังเกิด-ระเบิด-เหตุการณ์สำคัญ
จึงเห็นว่าวันที่27ตุลาคม 2564(ก่อน-หลังเล็กน้อย) เรื่องสำคัญด้านบวกของวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบบสาธารณสุขที่พฤหัสบดีเป็นตัวแทนอยู่จะปรากฏเป็นเรื่องใหญ่เช่นอาจพบวัคซีนหรือยาชนิดใหม่ อันเป็นจุดพลิกสำคัญของการรับมือโควิด19
2.4ส่วนพลิกไปอย่างไรนั้น ต้องดูลีลาการเดินของดาว ที่พฤหัสบดีจร5ฝ่ายแพทย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ กลับเดินหน้าทำให้พระเสาร์จร7ความทุกข์ต้องไล่ตามบ้างแต่ก็จะถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ (พระพฤหัสบดีจรเดินเร็วกว่าพระเสาร์จร)
จึงต่อไปแม้โรคร้ายจะพยายามกลับมาอีก เช่นแย้มหรือเปิดประเทศแล้วตัวเลขติดเชื้อ-ตายอาจจะวกกลับมาดูร้าย แต่ถึงอย่างไรก็จะไม่ร้ายแรงเท่ารอบที่ผ่านมา
และในที่สุดก็จะพัฒนาเป็นโรคสามัญประจำโลกต่อไป
ฟองสนาน จามรจันทร์
15ตุลาคม2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผ่าดวงชะตา 9 บุคคลสำคัญ 'บิ๊กตู่' บวกลบรับเต็มๆปี 69 'แม้ว' สู้แล้วได้ 'อิ๊งค์' ฟันฝ่าให้ถึงวันเกิดปีหน้า
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี หลังจากผ่านปรากฏการณ์ต้องคลาดคลาพิจารณาให้เสียดายคือหลังเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ลาออกจากทุกตำแหน่ง
ลัคนาพิจิกกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่คู่ครองและหุ้นส่วน หลังพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ชีวิตรับแนวลบเหตุการณ์ใหญ่ทยอยรออุบัติรอบทิศ เตรียมกลั่นพลังทั้งก๊อกสำรองสู้สุดๆ เพราะก๊อกหลักหรือดาวใหญ่ออกแนวลบ
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ลัคนากันย์กับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการทำตามความฝันและเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางชีวิต ตลอดทั้งปีเจอเรื่องแสบ-เศร้าแทรกในชีวิตสองช่วง แต่ไม่เกินกำลังรับมือ แถมสู้กลับแล้วได้อะไรดีๆ