ฝุ่นคลุ้ง ควันโขมง

ฤดูหนาว ฤดูฝุ่นเวียนมาอีกครั้ง โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มักจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่นิ่ง ลมอ่อน และอุณหภูมิลดต่ำลง ทำให้ฝุ่นละอองที่ปล่อยออกมาไม่กระจายตัวในอากาศ กลับลอยสะสมอยู่ในบรรยากาศ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการเผาเพื่อการเกษตร การจราจร การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดมลพิษทางอากาศทั้งสิ้น               

และต้องยอมรับว่าหนึ่งในสาเหตุหลักของฝุ่นควันมีแหล่งที่มาจากการเผาไร่อ้อย

ซึ่ง ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ระบุว่า การเผาอ้อยนอกจากจะเป็นการกระทำผิดและฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว ยังเป็นการเอารัดเอาเปรียบส่วนรวม และเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เนื่องจากการเผาไร่อ้อยก่อมลพิษฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณสูงมาก สามารถคงค้างอยู่ในอากาศเป็นระยะเวลายาวนานและแผ่ขยายได้ตามทิศทางลม จึงปกคลุมหนาแน่นทั่วพื้นที่ในบริเวณที่มีประชาชนอาศัยอยู่ถึงกว่า 44 ล้านคน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นระยะเวลาถึงประมาณ 6 เดือนของทุกปี ซึ่งเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงและส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพประชาชนผู้หายใจอากาศที่มีฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่เกิดจากการลักลอบเผาอ้อยเหล่านี้เข้าไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมและลดการเผาในพื้นที่การเกษตร โดยส่งเสริมวิธีการจัดการที่ไม่ต้องเผา บังคับใช้มาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ เช่น การตรวจสภาพรถเพื่อลดการปล่อยควันดำ การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงาน ภาคธุรกิจ และประชาชน รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและการทำเกษตร จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในระยะยาว และทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้

โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ในฤดูการผลิตปี 2567/68 ของ 58 โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ เริ่มเปิดหีบอ้อยไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมายังพบว่ามีอ้อยถูกเผาอยู่ในระดับคงที่กว่า 4 ล้านตัน คิดเป็น 20.18% ของปริมาณอ้อยที่รับเข้าหีบทั้งหมดกว่า 19 ล้านตัน

ล่าสุด ใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ระบุว่า สถิติการรับอ้อยเผารายวัน ณ วันที่ 13 มกราคม 2568 พบว่ามีโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ยังไม่ให้ความร่วมมือในการงดรับอ้อยเผาอย่างจริงจัง สะท้อนจากตัวเลขรับซื้ออ้อยเผารายวัน 31.71% ซึ่งสูงเกินกว่า 25% มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดหีบ โดยตัวเลขรับซื้ออ้อยเผาสะสมของโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานีอยู่ที่ 400,717.21 ตัน คิดเป็น 43.62% เทียบเท่าเผาป่ากว่า 40,000 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดการปล่อยมลพิษฝุ่น PM 2.5 ทำให้ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นและควันไฟจากการเผาใบและยอดอ้อย

พร้อมกับย้ำว่า จากการที่ สอน.ได้ออกมาตรการขอความร่วมมือไปยังโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศทั้ง 58 แห่ง พบว่ายังมีโรงงานน้ำตาลแห่งสุดท้ายคือ โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ที่ยังไม่ให้ความร่วมมือในการงดรับอ้อยเผา ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติที่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจัง จึงขอฝากมายังเจ้าของและผู้บริหารโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานีให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการงดรับอ้อยเผา และขอความร่วมมือเกษตรกรชาวไร่อ้อยช่วยกันงดเผาอ้อย งดเผาใบและยอดอ้อยหลังการเก็บเกี่ยว

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 นั้นจะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายปกครองและผู้แทนภาคประชาชน จ.อุดรธานี เพื่อช่วยกันกำกับดูแล สื่อสารทำความเข้าใจกับชาวไร่และโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่อย่างนั้นฝันที่จะเป็นจริง “ฟ้าใส ไร้ฝุ่น PM 2.5” ที่ รมว.อุตสาหกรรม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ต้องการก็จะไม่เกิดขึ้น

และที่สำคัญนั้น การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลต้องทำอย่างจริงจังและจริงใจ อย่าดีแต่พูดจน "ฝุ่นคลุ้ง ควันโขมง".

 

บุญช่วย ค้ายาดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐกิจปี68เติบโตไม่ง่าย ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

สำนักวิจัยหลากหลายสำนัก ฟันธงไปในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 นี้ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน และการเติบโตที่เป็นไปได้มากที่สุดก็อยู่ระดับ 2.7-2.9% ซึ่งน้อยกว่าที่รัฐบาลมีการวางแผนเอาไว้ว่าจะผลักดันจีดีพีไทยปีนี้โตถึง 3%

ปี68สินเชื่อระบบแบงก์ไทยหืดจับ

ปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องจับตากับทิศทางของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งบวกและลบ ที่จะเข้ามามีผลกับภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานการณ์กดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน

แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’

อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ

เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว