ก็ยังเงียบๆ อยู่ครับ...
ครบกำหนด ๑๕ วัน บรรดาหมอๆ โรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ ต้องส่งเอกสารหลักฐานการรักษาตัว "นักโทษเทวดา" ให้แก่แพทยสภาแล้ว
ต้องรอดูอีกวันสองวัน น่าจะมีความเคลื่อนไหว อะไรออกมา
เบี้ยวหรือไม่เบี้ยวเดี๋ยวก็รู้
มุมหนึ่งมันเป็นเรื่องกรรมครับ กรรมกำลังไล่ล่าคนก่อกรรม
ไล่แบบยกเข่ง เพราะทำเป็นขบวนการ
กรรมเก่าตามไล่ล่า กรรมใหม่ก็เรียงคิวเข้ามา เพราะก่อกรรมไม่หยุดหย่อน
เพราะเร่งรัด เร่งรีบ จนน่าผิดสังเกต จึงเกิดคำถามตามมามากมายว่า เหตุใดรัฐบาลพ่อเลี้ยง ที่ไม่ยอมไปเลี้ยงหลานตามสัญญา ถึงผลักดันธุรกิจผิดกฎหมาย อย่างกาสิโน ให้ถูกกฎหมายในเร็ววัน
ลึกๆ รายละเอียดมีเยอะครับ
ที่สำคัญมันล่อตาล่อใจ
เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน สรุปสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่คณะรัฐมนตรีไฟเขียวไปวันก่อน เอาไว้เข้าใจง่ายทีเดียวครับ
------------------------
"ไม่ชอบธรรม ไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้ใจ" เหตุผล ๓ ไม่ ... ที่คนไทยไม่เอากาสิโน
๑."ไม่ชอบธรรม"
กาสิโนไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องต้องการ แต่เป็นความต้องการของผู้คุมอำนาจทางการเมืองและอำนาจทุน และกำลังพยายามจะใช้อำนาจมากลากไปเพื่อให้เปิดกาสิโนได้ตามอำเภอใจ
“ไม่ฟัง”
ผลการศึกษาทางวิชาการของทุกสถาบันล้วนตรงกันว่า เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนคนไทยไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโน
ผลสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ในการสำรวจทุกครั้ง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๘, ๒๕๖๐, ๒๕๖๒, ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๖ คนไทยเกิน ๕๐% ไม่เห็นด้วยกับการเปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยเปอร์เซ็นต์ของผู้ไม่เห็นด้วยอยู่ระหว่าง ๕๑% ถึง ๖๕% มากกว่าผู้เห็นด้วยกับการเปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายเกือบเท่าตัว
ผลสำรวจของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) วันอาทิตย์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ พบว่า ๔๖.๕% และ ๑๐.๓ ไม่เห็นด้วยเลยและไม่ค่อยเห็นด้วยให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย
แม้กระทั่งผลที่คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๑ สำรวจโดยวิทยาลัยการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ก็ยังพบว่า มีผู้ตอบเพียง ๓๖% ที่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมาย
แต่ดูเหมือนรัฐบาลไม่เคยฟังเสียงของประชาชน
“ไม่ซื่อ”
ที่สำคัญ ในการเลือกตั้งเมื่อต้นปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา การตั้งสถานบันเทิงครบวงจรอันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ไม่ได้ถูกประกาศในนโยบายหาเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดเลย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และรวมถึงพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา อันเป็นพรรคแกนนำสำคัญ
การกระทำเยี่ยงนี้จัดได้ว่าเป็นความไม่ซื่อของพรรคร่วมรัฐบาล ที่พอมีโอกาสได้บริหารประเทศ ก็ใช้อำนาจกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพวกพ้องของตน โดยไม่สนใจรับผิดชอบต่อสิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน
“ไม่อาย”
รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้จัดทำการรับฟังความเห็นประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ผ่านทางช่องทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง และรีบร้อนรวบรัด เปิดรับฟังเพียง ๑๘ วัน และไม่ได้มีข้อคำถามว่า “ประชาชนเห็นด้วยกับกฎหมายนี้หรือไม่?” แต่หลังจากนั้น บุคคลในรัฐบาลกลับให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ประชาชนกว่า ๘๐% เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ นับเป็นเรื่องที่ไม่ละอาย
๒."ไม่เชื่อมั่น"
“ไม่โปร่งใส”
กฎหมายที่รัฐบาลกำลังเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ยกอำนาจการตัดสินทุกเรื่องเกี่ยวกับกาสิโนให้แก่ คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือเรียกว่า “ซูเปอร์บอร์ด” อันมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรองนายกรัฐมนตรี ๑ คนกับรัฐมนตรีบางกระทรวง ๖ คน และข้าราชการประจำ ๓ คน กับผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐมนตรีอีกไม่เกิน ๖ คน โดยไม่มีกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนอื่น ทั้งภาคท้องถิ่น และภาคประชาสังคม
ที่สำคัญคือ กฎหมายนี้ได้ตัดมาตราว่าด้วย “การรับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ที่สถานบันเทิงครบวงจรจะไปตั้ง และพื้นที่ใกล้เคียง” ออกไปจากร่างเดิม แสดงให้เห็นเจตนาที่ไม่ต้องการให้มีการตรวจสอบ ไม่มีความโปร่งใส และไร้ซึ่งธรรมาภิบาล
“ไม่จริงใจ”
รายงานการศึกษาเพื่อเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ ของสภาผู้แทนราษฎร เสนอว่าประเทศไทยควรยึดต้นแบบ “สิงคโปร์โมเดล” เป็นสำคัญ โดยต้องมีกลไกป้องกันปัญหาและลดผลกระทบทางสังคมจากการมีกาสิโน แต่ในร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอกลับไม่มีหน่วยงานป้องกันปัญหาและลดผลกระทบ รวมทั้งตัดหมวดว่าด้วย “กองทุนลดผลกระทบทางสังคม” ออกไป แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจต่อการจะดูแลสังคมของรัฐบาล
“ไม่ไหวแน่”
ปัญหาใหญ่ของประเทศที่มีกาสิโนถูกกฎหมายทั่วโลก คือ ความข้องเกี่ยวกับขบวนการอาชญากรรมและการถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการทุจริตคอร์รัปชัน และความย่อหย่อนของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้น หากไม่มีการปฏิรูปตำรวจ และไม่มีการปราบคอร์รัปชันอย่างจริงจัง จะไม่มีทางจัดการปัญหาอาชญากรรม และการฟอกเงินในกาสิโนได้
๓."ไม่ไว้ใจ"
“ไม่รู้จะรีบไปไหน?”
ปฏิบัติการของฝ่ายการเมืองต่อภารกิจนี้ มีความรีบร้อน และรวบรัด พยายามจะผลักดันกฎหมายให้ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ โดยเร็ว ไม่มีกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รวมถึงไม่มีการศึกษาผลกระทบทางสังคมอย่างถูกต้องชอบธรรม
“ไม่รู้ว่าเอื้อใคร?”
ในบัญชีแนบท้ายกฎหมายของรัฐบาลฉบับนี้ ได้ลดสเปกกิจการต่างๆ อันเป็นส่วนประกอบของสถานบันเทิงครบวงจรร่วมกับกาสิโน เช่น โรงแรมไม่ต้อง ๕ ดาว ห้างสรรพสินค้าไม่ต้องครบวงจร ศูนย์ประชุมฯ ไม่ต้องมี มีสระว่ายน้ำ สวนสนุก และร้านขายสินค้า OTOP เท่านั้นก็พอ
เหล่านี้น่าจะเป็นการเอื้อให้ผู้ลงทุนสามารถลดต้นทุนในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกาสิโนได้
“ไม่รู้เป็นตู้เอทีเอ็มของนายใหญ่...?”
ในกฎหมายฉบับนี้จะมีการตั้ง “สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร” ขึ้นมา ที่น่าสนใจคือ สำนักงานนี้จะมีรายได้มาจากหลายทาง โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และอื่นๆ ซึ่งเป็นหลักพันล้านในแต่ละปี โดยมีบทบัญญัติว่า “เงินและทรัพย์สินของสำนักงาน เมื่อได้หักค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมต่างๆ แล้ว เหลือเท่าใดให้สำนักงานนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน”
การเปิดช่องไว้เช่นนี้ อาจทำให้สำนักงานที่ตั้งใหม่นี้กลายเป็นช่องทางให้เกิดการนำเงินที่รัฐควรได้จากกิจการสถานบันเทิงครบวงจร มาใช้จ่ายเพื่อตอบสนองนโยบายของฝ่ายการเมืองได้ คล้ายๆ กับกรณีของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในสมัยหนึ่ง ที่รายได้จากการจำหน่าย “หวยบนดิน” ที่ไม่ได้นำส่งเข้าแผ่นดิน กลายเป็นตู้เอทีเอ็มให้นายใหญ่กดนำมาใช้ดำเนินงานทางการเมืองได้อย่างสบายมือ
#ได้เวลาส่งเสียงเราไม่เอากาสิโน
------------------------
ครับ...อย่างที่เคยตั้งข้อสังเกตไว้ สุดท้าย ไม่ใช่การตั้งบ่อนกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร
แต่เป็นการสร้างสถานบันเทิงไม่ครบวงจรในกาสิโน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปั้น 'จีดีพีเลือด'
เชื่อเถอะครับ... ที่รัฐบาลพ่อเลี้ยงประกาศจะปั้นจีดีพีให้โตพรวดๆ นั้น ทำได้จริง
กาสิโนต้องเร่งด่วน!
ไม่รู้จะแปลความอย่างไรครับ... นอกจากรัฐบาลลักไก่! ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาสะกิดรัฐบาลเอากลับไปทำเสียให้ถูกต้อง ให้มันครบวงจรจริงๆ
จะล้มทั้งกระดาน
น่าเห็นใจครับ... วานนี้ (๑๒ มกราคม) หมอใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ "พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์" รูดซิปปากแน่น ใส่กุญแจอีก ๑๔ ชั้น ไม่บอกนักข่าวว่าส่งเอกสาร หลักฐาน การรักษาตัว "นักโทษเทวดา" ไปให้ คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา แล้วหรือยัง
อย่าปล่อยให้เหลิง
นักร้องยังไม่ทำงาน... จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการปราศรัยของ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปยัง กกต.เลยครับ
เจอตอ ชั้น ๑๔
งวดเข้ามาทุกทีครับ... หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่ ๑๕ มกราคมนี้ พยานหลักฐานกรณีนักโทษเทวาดาชั้น ๑๔ น่าจะอยู่ในมืออนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจแพทยสภา ชุดที่ คุณหมออมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ครบถ้วนสมบูรณ์
'ทักษิณ' ตายเพราะปาก
แนวโน้มเริ่มมา... ปลาหมอกำลังจะตายเพราะปาก เรื่องที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปปราศรัยใหญ่โต เวทีเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัด ทำท่าจะเป็นเรื่องแล้วครับ