ใครจะเข้าเส้นชัยก่อนกัน?

 “มึงไปโค่นล้มมหาเถรสมาคมไม่ได้หรอก เขาอยู่ยงคงกระพันด้วยตำแหน่งหน้าที่และอำนาจ มันทุเรศทุรัง..”

นี่..คือการสอนธรรมะหรือเปล่า ผมคนบวชแค่ 117 วันไม่อาจเข้าถึงได้ รู้แต่ว่าคนพูดที่ชื่อ “อ.เบียร์ คนตื่นธรรม” พูดไลฟ์ได้มันอร่อยเหาะ เหมาะสำหรับขาฮาร์ดคอร์..

หรือผู้ที่นิยมชมชอบการใช้ภาษาหยาบคาย ที่เวลานี้ได้กลายเป็นเรื่องปกติในสังคมไทยไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม ในวันแถลงข่าวต่อกรณีนี้ อ.เบียร์ก็ไม่ได้เอ่ยถึงประโยคข้างต้นแต่อย่างใด จึงไม่รู้เจตนาลึกๆ ว่าที่พูดนั้น อารมณ์-ความรู้สึกจริงๆ คืออะไร-อย่างไร..

ตั้งใจจะก้าวร้าวเอามัน-เอายอดวิวอย่างคนทำคอนเทนต์ หรือเจตนาจะจาบจ้วง-ดูหมิ่นก็ไม่อาจรู้ได้!

แต่ที่ อ.เบียร์รู้และควรจำก็คำเทศนาของพระเทพวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” ที่กล่าวต่อหน้า.. “ตอนที่ อ.เบียร์พูดถึงพระเกจิสังขารไม่เน่าเปื่อยโดยไปเปรียบเทียบกับสุนัข

ในฐานะที่ตนเป็นศิษย์หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก ซึ่งศพท่านก็ไม่เน่า เก็บไว้ในโลงให้คนมากราบไว้เพื่อให้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน จึงจำเป็นต้องพูดเพื่อเตือนสติ

ในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์สอนพุทธศาสนิกชนให้ยึดทางสายกลาง ไม่ให้พูดจาก้าวร้าว หรืออย่าเพ่งโทษคนอื่นจนเกินควร

คณะสงฆ์มีพระธรรมวินัยคุ้มครอง มีกฎหมายบ้านเมืองและจารีต รวมทั้งวัฒนธรรมประเพณีที่ต้องปฏิบัติตาม ประการสำคัญ คือ อ.เบียร์ ต้องอย่าพูดก้าวร้าวและเพ่งโทษผู้อื่นจนเกินควร

เด็กยุคใหม่จะมีศาสนาหรือไม่มีศาสนาก็ตามก็ต้องมีทุกข์ พระพุทธเจ้าสอนให้คนรู้จักทุกข์และหนทางดับทุกข์

ขออนุโมทนาชื่นชมที่ อ.เบียร์ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจพระพุทธศาสนามากขึ้น และขอฝากปรับวิธีสื่อสาร วิธีสอน ให้สอดคล้องกับคำแนะนำของพระสงฆ์และผู้รู้ทั้งหลาย

 เชื่อมั่นว่า อ.เบียร์จะสมหวังดังเจตนารมณ์ที่มีหวังดีต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ รวมทั้งประเทศชาติ”

สาธุ..ผมหรือใครก็เห็นจะเตือน อ.เบียร์ที่กำลังเป็นคนดัง ผู้คนนิยมชมชอบเลื่อมใสศรัทธาอยู่ขณะนี้ไม่ได้ แต่คำของท่านเจ้าคุณคงพอจะทำให้คนตื่นธรรม ได้ฉุกคิดได้บ้าง..

“ยึดทางสายกลาง ไม่ให้พูดจาก้าวร้าว หรืออย่าเพ่งโทษคนอื่นจนเกินควร”!

เอ้า..ส่วนคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ดูท่าจะยึดทางสายกลางไม่ไหวแล้ว วันก่อนจึงได้โพสต์.. -กลางๆ เดือนนี้ ต้องลงจากเทือกเขาบรรทัดขึ้น กทม. นำผู้ต้องหาไปศาล

คดีที่คุณทักษิณ ชินวัตร แจ้งความผู้ต้องหาคนหนึ่ง ในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ผู้ต้องหารายนี้กล่าวว่าคุณทักษิณป่วยทิพย์ มิได้ป่วยจริง

-อัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ความจริงเรื่องนี้ ผมก็อยากให้อัยการฟ้องตั้งนานแล้ว การป่วยทิพย์หรือป่วยจริงนี่มันต้องอาศัยเวชระเบียนของ รพ.ตำรวจมาพิสูจน์นะครับ

-คดีนี้ ผมลงทุนถึงขนาดขอโฉนดที่ดินภรรยาที่พัทลุงไปประกันตัวให้ผู้ต้องหาเลยนะ อย่าหนีก็แล้วกัน หากโฉนดภรรยาผมถูกยึดผมถูกไล่ออกจากบ้านแน่

-ผมฉายหนังตัวอย่างให้ดูล่วงหน้าเลยนะครับ ว่า ผมจะขอหมายเรียกอธิบดีกรมราชทัณฑ์, แพทย์-พยาบาล ที่รักษาคุณทักษิณมาเบิกความหมดทุกคน

ถ้าไม่มาผมขอออกหมายจับหมดนะครับ ตรงไป-ตรงมาครับ

-คดีนี้ผมบอกข้อสอบล่วงหน้าให้ทนายความคุณทักษิณทราบเลยว่า ผมจะสู้คดีแบบนี้แหละ เปิดถ้วยให้แทงเลย แทงให้ถูกก็แล้วกัน

มาดูกันว่า เรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ ระหว่างผม กับ ป.ป.ช. ใครจะเข้าเส้นชัยก่อนกัน/”

ครับ..ผมจะรอดู!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มันกำลังจะเป็น

แต่บังเอิญไปเห็นในเฟซบุ๊กของ “คุณอ้วน รีเทิร์น” กะเทยตัวแม่ที่โพสต์เข้า ก็เลยใคร่ขออนุญาตลอกมาให้ผู้อ่านได้รู้ ก็..รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ข้อความคุณอ้วนว่าอย่างนี้.. “ลำไย รวยขนาดไหน ค่าตัว 1.8 แสน ถึง 2 แสนต่องาน เดือนหนึ่งมี 50-60 งาน รายได้ 80-100 ล้านอย่างต่ำ

อย่าวางใจสทร.

อาการน่าเป็นห่วง! ไม่ได้หมายถึงแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ และก็ไม่ใช่นายทักษิณ พ่อนายกฯ ที่ตอนนี้หาความสุขอะไรไม่ได้เลย..

บทดีแต่ไม่ลื่นไหล

กูว่าแล้ว! ใครเชื่อก็เชื่อไป สำหรับผมไม่เชื่อมาตั้งแต่ต้น ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร คนเดียวนั้น จะจริงจัง เอาเป็น-เอาตาย

ตัวทำลายการเจรจา!

ลงไปกล่าวคำ “ขออภัย” แต่แทนที่เสียงปืน-เสียงระเบิดจะเพลาๆ หรือจางหูลง กลับกลายเป็นว่า หลังนายทักษิณ ชินวัตร-สทร. กลับขึ้นมากรุงเทพฯ..

ปัญหาข้าวแก้ง่าย?

นายทักษิณนี่ ตัวปัญหาจริงๆ.. ดูสิ..ทำตัวเป็นผู้มากบารมีเหนือรัฐบาล ตั้งตนเป็น สทร.-เสือกทุกเรื่อง แต่พอฝ่ายค้านบรรจุชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธารเข้าหน่อย

ต่อ-ไม่ต่อเรื่องของสู

ไม่รู้จะโทษใคร.. เพียงแต่จะขออนุญาตชี้แจงกับท่านผู้อ่านว่า บทความผมเมื่อวาน (ในเว็บไซต์) เนื้อหาได้หล่นหายไปย่อหน้าหนึ่ง ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง-ไม่เข้าใจ ก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยละกัน!