ปีพุทธศักราช 2568 หรือคริสต์ศักราช 2025 หรือ ปีงู ปีนี้...ไม่ว่าจะหมอดง หมอดู นักวิเคราะห์ นักวิแคะ ดูๆ ท่านออกจะเห็นไปในแนวเดียวกัน คือหนักไปทาง หนักหนา-สาหัส อยู่พอสมควรทีเดียว และถ้าดูจากข่าวคราว ความเป็นมา-เป็นไป ไม่ว่าของโลก หรือของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ก็แล้วแต่ ก็ทำท่าว่าน่าจะเป็นไปในแนวนั้น ส่วนจะแค่ เผาหลอก หรือ เผาจริง อันนั้น...คงต้องไปรอดูกันอีกที...
อาจด้วยเหตุเพราะบรรดา ความขัดแย้ง-แตกต่าง ในโลกใบนี้...มันดูจะมีแต่เพิ่มกับเพิ่ม ไม่ได้
มีแนวโน้มที่จะลดน้อยถอยลงไปเลยแม้แต่นิด อีกทั้งใครที่ดันโดน ตบแก้มซ้าย โอกาสที่จะ ยื่นแก้มขวา ไปให้เขาตบ แบบที่ พระเยซูคริสต์ ท่านอุตส่าห์ชี้แนะ ชี้นำ ไว้เมื่อกว่า 2 พันปีที่แล้ว ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ยิ่งขึ้นไปใหญ่ ไม่เพียงแต่ต้องเจอการ ถีบกลับ-สวนกลับ เผลอๆ...อาจถึงขั้นงัดจรวด งัดขีปนาวุธร้ายๆ ออกมายิง ออกมาดวล กันชนิดสนั่นหวั่นไหว การประนีประนอมยอมความ การให้ความสำคัญต่อสันติภาพ ภราดรภาพ หรือแม้เพียงแค่มิตรภาพ มันจึงเป็นอะไรที่หายาก-หาเย็น ยิ่งกว่าหาหนวดเต่า-เขากระต่าย ยิ่งเข้าไปทุกที...
ส่วนจะไปชี้วัด ตัดสิน ว่าใครผิด-ใครถูก ใครดี-ใครชั่ว...ก็ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยเหตุเพราะ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่มันถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแบบคนละเรื่อง-คนละม้วน จนทำให้ มาตรฐานเดิมๆ ไม่ว่าในแง่ ความดี-ความงาม-ความจริง แทบไม่อาจนำมาใช้เป็นเครื่องชี้วัดได้แบบถนัด-ชัดเจน ใครจะ เชียร์ ใคร? ด่า ใคร? เลยกลายเป็นภาระ หน้าที่ ของบรรดาพวก ติ่งๆ ทั้งหลายกันไปแทนที่ ที่จะไปสรรหาคำตอบ คำอธิบาย ไปหยิบเอาเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ใช่จากแค่แม่น้ำทั้งห้า แต่อาจจากแม่น้ำนับร้อยๆ สาย มาช่วยกันแบก ช่วยกันเชียร์ หรือช่วยกันด่า จนยากที่จะไปต่อล้อ ต่อเถียง ยากที่จะไปแยกแยะว่าอะไรผิด-อะไรถูก อะไรดี-อะไรชั่ว มีแต่ต้องหันไปสรุปว่า...มันเป็นเช่นนั้นเอง-มันเป็นพรรค์นั้นแหละ หรือเป็นไปตาม เงื่อนไข-เหตุปัจจัย ต่างๆ ไปตามสภาพ...
แต่ก็นั่นแหละ...ถึงแม้จะชี้วัด ตัดสิน แทบไม่ได้ว่าอะไรถูก-อะไรผิด อะไรดี-อะไรชั่ว แต่สุดท้าย...ผลพวงแห่งความขัดแย้ง แตกแยก ของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย..ย่อมหนีไม่พ้นต้องส่งผลให้เกิด ผู้ชนะ กับ ผู้แพ้ ขึ้นมาจนได้!!! และในเมื่อความเป็นไปของโลก หรือของสังคมไทย มันกำลังเป็นไปในลักษณะเช่นนี้ สิ่งที่เรียกว่าชัยชนะ หรือความพ่ายแพ้ ของผู้หนึ่ง-ผู้ใด ฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด จึงคงไม่ใช่เรื่องที่น่าปลาบปลื้ม ยินดี มากมายซักเท่าไหร่ เพราะนอกจากจะไม่ได้เป็นตัวสะท้อนความหมายว่าฝ่ายหนึ่งถูก-ฝ่ายหนึ่งผิด ฝ่ายหนึ่งดี-ฝ่ายหนึ่งชั่ว แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ความพ่ายแพ้และชัยชนะทั้งหลาย ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งเที่ยงแท้ แน่นอน มั่นคง ถาวร ไปจวบชั่วนิจนิรันดร์ก็หาไม่ เพราะผู้ที่แพ้วันนี้...ก็อาจเป็นผู้ชนะในวันหน้า หรือผู้ที่ชนะวันนี้ อาจต้องวิ่งหางจุกตูด ต้องรีบเผ่นออกไปทางช่องทางธรรมชาติเมื่อไหร่? ตอนไหน? ก็ยังไม่แน่???
ท่ามกลางความเป็นไปในลักษณะดังกล่าว...เลยทำให้อดหวนไปนึกถึง บทเพลง เก่าๆ ที่ พ่อท่าน-พระโพธิรักษ์ ผู้ที่เพิ่งวายชนม์ไปเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ยังคงเป็นฆราวาสซึ่งรู้จักกันในนาม รัก รักพงษ์ ได้เคยรจนาเอาไว้ขึ้นมามิได้ นั่นก็คือบทเพลงชื่อว่า ผู้แพ้ ที่ไม่ว่าในแง่เนื้อร้อง-ทำนอง ช่างเป็นอะไรที่น่าซาบซึ้ง ตรึงใจ เป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าใครได้มีโอกาสไปฟังเวอร์ชันที่คุณน้อง สุนารี ราชสีมา ท่านนำมาขับขานพร้อมกับลีลาดนตรีใหม่ๆ ยิ่งอาจเกิดกำลัง วังชา เกิดเรี่ยว เกิดแรงพอที่จะสามารถประคับประคองตัวเองให้อยู่รอด ปลอดโปร่ง ภายในโลกใบนี้ หรือในสังคมไทย อย่างไม่ถึงกับเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้าจนเกินไป...
โดยเฉพาะในเนื้อร้องท่อนท้ายๆ...ที่ พ่อท่าน-โพธิรักษ์ ท่านสรุปเอาไว้ประมาณว่า “แพ้เกมชีวีสิ้นดีทุกอย่าง-แต่ก็ภูมิใจไม่จาง-ที่จิตของเรามิยอมพ่ายตาม-ยังยิ่งยงเป็นใจดวงงาม-แพ้ก็แพ้ชะตาทราม...ดวงใจคงความมั่นคง” อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้แทบไม่ต้องไปเสียเวลาสนใจกับเรื่อง ขี้ปะติ๋ว เรื่องการแพ้-การชนะ ที่มันย่อมผลัดเปลี่ยน หมุนเวียน ไปตามเหตุปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ เพราะสิ่งที่น่าจะ สำคัญ ยิ่งกว่า และ ยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่า...ก็คือใคร? ที่จะสามารถดำรง รักษา จิตใจที่ดีงาม ดวงใจที่ดีงาม เอาไว้ได้ด้วย ความเชื่อ-ความศรัทธา ที่ตัวเองมีต่อสิ่งหนึ่ง-สิ่งใด หรือมาตรฐานหนึ่ง-มาตรฐานใด ได้อย่างมั่นคง แข็งแรง นั่นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมหรือเสื่อมเสีย
สำหรับ FC เพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น สส.ในพรรค หัวคะแนน ข้าราชการที่ได้ตำแหน่งเพราะทักษิณและตัวแทนทักษิณ นักธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากนโยบายและโครงการต่างๆ ของทักษิณ
ลัคนามีนกับเค้าโครงชีวิตปี2568
สรุป-ตลอดทั้งปีทุกข์สองอย่างคือ ค่าใช้จ่ายและทุกข์ถึงตัวตรงๆ ยังอ้อยอิ่งในชีวิต มีโอกาสสู
เกรงว่าคำอวยพรปีใหม่จะไม่จริง
เวลาที่เรากล่าวคำอวยพรให้ใครๆ เราก็จะพูดแต่เรื่องดีๆ และหวังว่าพรของเราจะเป็นจริง ถ้าหากเราจะเอาเรื่องอายุ วรรณะ สุขะ พละ มาอวยพร โดยเขียนเป็นโคลงกระทู้ได้ดังนี้
แด่...ไพบูลย์ วงษ์เทศ
ถึงแม้จะช้าไปบ้าง...แต่ยังไงๆ ก็คงต้องเขียนถึง สำหรับการลา-ละ-สละไปจากโลกใบนี้ของคุณพี่ ไพบูลย์ วงษ์เทศ นักเขียน นักกลอนและนักหนังสือพิมพ์อาวุโส
กร่าง...เกรี้ยวกราด...ฤากลัว
ใครบางคนตำแหน่งก็ไม่มี สมาชิกก็ไม่ใช่ แต่แสดงบทบาทยิ่งใหญ่กว่าใครๆ เหมือนจงใจจะสร้างตำแหน่งใหม่ที่คนไทยต้องยอมรับ และดูเหมือนเขาจะประสบความสำเร็จเอาเสียด้วย
คำอวยพรปีใหม่ 2568
ใกล้ถึงช่วงปีหน้า-ฟ้าใหม่ยิ่งเข้าไปทุกที...การตระเตรียมคำอำนวย-อวยพรให้กับใครต่อใครไว้ในช่วงวาระโอกาสเช่นนี้ อาจถือเป็น หน้าที่ อย่างหนึ่ง