การเมืองปีงูเล็กจะลอกคราบ เริ่มต้นใหม่ ไฉไล กว่าเดิม
หรือจะดุเดือดเลือดพล่าน ไล่กะซวก เลือดสาดกันไปข้าง
นั่นเพราะฝ่ายค้านเงื้อค้างมาข้ามปี ขู่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสองสามเดือนนี้ครับ
เปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ซึ่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีวาระ ๔ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๘ ได้ฤกษ์แล้วครับ
สมัยประชุมนี้ ฝ่ายค้านมีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล ด้วยการยื่นญัตติขออภิปรายรัฐบาล สามารถทำได้ ๒ รูปแบบ
แบบแรกคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๑ ซึ่งจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะก็ได้
แบบที่สองคือ การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๒ ซึ่งเป็นการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี
ฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาชนเลือกแบบแรก แต่ยังเป็นวุ้นอยู่ครับ ยังไม่มีอะไรชัดเจน
"หัวหน้าเท้ง" บอกว่า เนื้อหาอภิปรายยังไม่ได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน
แถมออกตัวว่าแนวปฏิบัติที่ผ่านมา พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่แบ่งปันข้อมูลกัน แต่ละฝ่ายจะมีข้อมูลของตนเอง
ก็ว่ากันไปครับ
แต่ไม่ทราบว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ดมากน้อยแค่ไหน เพราะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน คือพรรคส้ม ยังติดหล่มระบอบประยุทธ์ ขณะที่ยังมีเยื่อใยกับพรรคเพื่อไทยอยู่พอประมาณ
อีกทั้งยังมองว่า "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ถูกกลั่นแกล้ง ทางการเมือง
คดีความต่างๆ โดยเฉพาะคดีคอร์รัปชัน เป็นการยัดเยียดจากเผด็จการ ดังจะเห็นได้จากพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชน แทบไม่พูดถึงคดีทุจริตจำนำข้าวเลย
ฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยพรรคส้ม จึงเป็นภารกิจที่แตกต่างจากการซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์อย่างสิ้นเชิง
พรรคส้มจะถูกตั้งคำถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังเกิดขึ้นในอีกไม่เกิน ๓ เดือนนี้ แค่ทำตามหน้าที่แบบขอไปที หรือต้องการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนกันแน่
เป็นเรื่องน่ากังวล ที่พรรคส้ม สับสนบทบาทความเป็นฝ่ายค้านของตนเองอยู่พอประมาณ
หน้าที่หลักแทนที่จะเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล กลับเป็นฝ่ายค้านของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ค้านทุกสิ่งที่เป็นรัฐไทย
ค้านแม้กระทั่งระเบียบทรงผมนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ แต่กลับไม่ค่อยพูดถึง ระเบียบกรมราชทัณฑ์ เอานักโทษไปขังไว้ที่บ้านสักเท่าไหร่นัก
อย่าลืมนะครับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น หากไม่พาดพิงไปถึง "ทักษิณ ชินวัตร" ก็ไม่ต่างจากมวยล้มต้มคนดู
แม้ "ทักษิณ" จะเป็นคนนอก เพราะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี และคงจะไปเปิดซักฟอกโดยตรงไม่ได้ แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ "แพทองโพย" จะต้องเกิดขึ้นและการพาดพิงไปถึง "ทักษิณ" เป็นภาคบังคับที่ฝ่ายค้านหลีกเลี่ยงไม่ได้
เว้นเสียแต่ว่า การซักฟอกที่จะเกิดขึ้นไม่มีชื่อของ "แพทองโพย"
เพราะหากเป็นเช่นนั้น ฝ่ายค้านเองจะถูกประชาชนยกมือไม่ไว้วางใจก่อนอย่างแน่นอน
ฉะนั้น หากพรรคส้มไม่แตะทักษิณก็อย่าเปิดอภิปรายเสียยังดีกว่า
ทำไมต้องพาดพิง "ทักษิณ"?
ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เพราะ "ทักษิณ" คือนายกรัฐมนตรีตัวจริง
เป็นคนใช้อำนาจผ่านลูกสาว และคณะรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน "ทักษิณ" ใช้อำนาจโดยไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น
หากพรรคส้มมีสติ มีสำนึกต่อประเทศ ประชาชน ก็ควรตระหนักได้ว่านี่คือภัยร้ายแรงที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้น และดำรงอยู่ต่อไป
ไม่เช่นนั้นกฎกติการะบอบการปกครองถูกฉีกไม่มีชิ้นดี
มันมากกว่าการทำรัฐประหารเสียอีก
เลิกเถอะครับกับการตอดเล็กตอดน้อย เช่นเรื่องทรงผมนักเรียน หันมาลากไส้ "ทักษิณ" จะมีประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า
เท่าที่จับตาการทำงานในฐานะฝ่ายค้านของพรรคส้ม บอกตามตรงว่ายังไม่เข้าตา
การตรวจสอบเพื่อต่อรองทางการเมือง มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อประชาชน
"ทักษิณ" วันนี้ไปไกล จนมีประเด็นให้ต้องพูดถึงมากมาย
"...เดิมทีผมเองก็ไม่ได้สนใจกับการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้นเป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ เรามีกลไกในทุกกระทรวง
แต่วันนี้เราไม่ได้มี สส. ๒๐๐ เหมือนเมื่อก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็ขอให้คืน สส.ให้กับพรรคเพื่อไทยให้หมด
ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงมองว่า การเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ และตอนนี้ผมเองกลับมา มานั่งดูปัญหาทุกเรื่องสิ่งที่เคยแก้ไว้ในสมัยก่อน มันหาย หายไปหมด ๑๗-๑๘ ปีที่ผมเองไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ระบบเสียหายไปหลายอย่าง
วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรบ้างที่จะทำให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้นมีกินมีใช้ อย่างอีกหน่อยเศรษฐกิจประเทศก็จะดี
หมู่คนแอฟริกา ดำก็ดำ จมูกก็แหมบ หายใจก็ยาก โดนเขาจ้างไปเป็นนางแบบ เดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม
ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเรา ที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกะเหรี่ยง ที่สวยธรรมชาติ ไม่ต้องไปเสียเงินทำจมูก เสริมนม ใครบุคลิกดีก็ส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก..."
โซเชียลแชร์กันสนั่น พ่อนายกฯ มีวุฒิภาวะ ทัศนคติที่ต่ำเตี้ย แต่สามารถครอบงำรัฐบาลได้
คนแบบนี้อันตรายมาก
ประเด็นแรกครอบงำพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน สามารถบงการทิศทางพรรคได้ หรือใครว่าไม่จริง
ถึงขั้นประกาศกลับมาดูปัญหาว่าทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ได้ สส. ๒๐๐ คนขึ้นไป
พ่อเอ็นเปื่อย เลยตระเวนหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. เพื่อเรียกฐานเดิมของเพื่อไทยกลับ
ประเด็นถัดมาคือการบูลลีชาวแอฟริกา ระวังไว้นะครับ จะพาประเทศไทยซวยไปด้วย
มีเรื่องให้เปรียบเทียบตั้งเยอะแยะ ดันมาบูลลีเชื้อชาติ รูปร่าง หน้าตา ของคน
ถ้าพรรคส้มไม่แตะเรื่องพวกนี้เลย แล้วปล่อยให้ "ทักษิณ" ครอบงำรัฐบาลต่อไป ก็ถอนตัวออกจากการเป็นฝ่ายค้านเสียเถอะครับ
รอเสียบแบบโจ่งแจ้งยังมีศักดิ์ศรีกว่า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อลูกพาลงเหว
มันชักจะยังไง.... พ่อลูกคู่นี้จะไปได้สักกี่น้ำกันเชียว ก่อนนี้ "ทักษิณ" ริ "ยิ่งลักษณ์" ยำ
แก้รัฐธรรมนูญแกงส้ม
ก็เผื่อไว้... อาจจะมีการลักไก่ ลัดขั้นตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
เบื้องหลังผู้ลี้ภัย
เริ่มต้นปีก็ประกาศกันคึกคักแล้วครับ ทั้งฝั่งตรวจสอบ "ทักษิณ" ยัน "ผู้ลี้ภัย" สำหรับ "ทักษิณ" ปีนี้น่าจะโดนหลายดอกตั้งแต่ต้นปี
วันนี้ของ "วันนอร์"
ไม่ค่อยได้เขียนถึง "อาจารย์วันนอร์" สักเท่าไหร่ เพราะไม่มีเหตุให้ต้องวิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่ฉายา “รูทีนตีนตุ๊กแก” ที่นักข่าวรัฐสภาตั้งให้ ก็ยังแอบเคืองแทน หาว่ากอดเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯ แน่น
๒๕๖๘ อันธพาลการเมือง
ที่สุดแห่งปีในปีที่แล้วไม่มีใครเกิน "หมูเด้ง" เกิดมาเพื่อดังจริงๆ ไม่ใช่ดังธรรมดา แต่ดังข้ามทวีป คนรู้จักไปทั่วโลก
'ยิ่งลักษณ์' จะกลับมา
สิ้นปีแล้ว...แทนที่จะได้พักหูบ้าง "พ่อริ-ลูกยำ" สมุนตาม ชาวบ้านด่ากันขรม ยังไม่พออีกหรือ