กำหนดเป้าหมาย ‘มีกองทัพเข้มแข็งระดับโลก เป็นผู้นำทบทวนระเบียบโลก’ ในการนี้จีนต้องเผชิญหน้าสหรัฐผู้นำระเบียบโลกปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ธันวาคม 2024 กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยแพร่รายงานพลังอำนาจกับพัฒนาการด้านความมั่นคงจีนฉบับปี 2024 หรือ “Military and Security Developments Involving the People’s Republic of China 2024” อธิบายยุทธศาสตร์แห่งชาติของจีนผ่านมุมมองของสหรัฐ มีสาระสำคัญดังนี้
ภาพ: แผนที่จีน ค.ศ.1927 โดย The Chinese University of Hong Kong
เครดิตภาพ: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2381478745256353&id=567623669975212&set=a.568357319901847
ยุทธศาสตร์แห่งชาติของจีนมองว่าระบบโลกปัจจุบันเป็นการแข่งขันระหว่างรัฐชาติที่ทรงพลังอำนาจ กับการปะทะกันระหว่างอุดมการณ์ ผู้นำจีนเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระหว่างประเทศและการเผชิญหน้ากับสหรัฐที่เข้มข้นขึ้น จะเป็นรากเหง้าการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงระหว่างจีนกับสหรัฐ
ยุทธศาสตร์แห่งชาติจีนแสดงถึงความตั้งใจแน่วแน่ในการสะสม ปรับปรุง และใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบทั้งภายในภายนอกของพลังอำนาจแห่งชาติที่จะทำให้จีนเป็นผู้นำในการแข่งขันที่ต้องดำเนินต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้จีนจึงต้องพัฒนาทั้งด้านการเมือง สังคมและเศรษฐกิจให้ทันสมัย ส่งผลให้ทั้งประเทศเปลี่ยนแปลง และมองว่าเป็น "การฟื้นฟูชาติจีนครั้งยิ่งใหญ่" (The great rejuvenation of the Chinese nation) ให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง เป็นประชาธิปไตย วัฒนธรรมก้าวหน้า กลมกลืนและสวยงาม
องค์ประกอบทั้งภายในกับภายนอกของพลังอำนาจแห่งชาติจะ "ขยายอิทธิพล ความน่าดึงดูดและพลังอำนาจจีนในการกำหนดสถานการณ์สูงขึ้นอีกระดับ" ให้ความสำคัญกับกระบวนการวางแผนระยะยาวเพื่อฟื้นฟูชาติที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง ระบบกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ความมั่นคงแห่งชาติ การทูต การป้องกันประเทศ การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
ในการนี้จีนจำต้องเพิ่มการขยายพลังอำนาจแห่งชาติ สามารถปกป้องและส่งเสริมอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ด้านการพัฒนา นำสู่การเสริมสร้าง "สังคมนิยมตามคุณลักษณะของจีน" (Socialism with Chinese Characteristics) หนทางเดียวที่จะนำสู่การฟื้นฟูชาติจีน
จีนที่แบ่งแยกคือประเทศที่อ่อนแอ จึงจำต้องแก้ "ปัญหาไต้หวัน" ภายในปี 2049 และกระชับอำนาจศาลทั้งหมดในเขตฮ่องกงให้ขึ้นตรงกับรัฐบาลจีน
รัฐบาลจีนเชื่อว่า ประเทศต้องมีกองทัพระดับโลกภายในปี 2049 ที่สามารถ "สู้และชนะ" ปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของประเทศ เพิ่มกฎหมายระดมกำลังของกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) ป้องกัน "ผลประโยชน์ด้านการพัฒนา" เพิ่มความชอบธรรมในการใช้กำลังทหารเพื่อปกป้องผลประโยชน์ในต่างประเทศ
การฟื้นฟูชาติจำต้องให้จีน "มีส่วนร่วมแข็งขันปฏิรูประบบการกำกับโลก" (global governance system) เนื่องจากกฎเกณฑ์กับบรรทัดฐานจำนวนมากบัญญัติในช่วงที่จีนอ่อนแอ ปราศจากการปรึกษาหารือกับจีน ระบบปัจจุบันจึงจำกัดความทะเยอทะยานเชิงกลยุทธ์ ไม่สอดคล้องกับอธิปไตย ความมั่นคง ความชอบทางการเมือง (political preferences) และผลประโยชน์ด้านการพัฒนา
ในการนี้ รัฐบาลจีนกำหนดเป้าหมายที่ตรงกับวาระครบรอบ 1 ศตวรรษของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตรงกับปี 2049 เป็น "ประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่" สู่ประเทศ "พัฒนาเต็มตัวและก้าวหน้ามาก" ด้วยการพัฒนาสู่ความทันสมัยอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเป็นระบบ
รัฐบาลสี จิ้นผิง แบ่งเป้าหมายใหญ่นี้เป็น 2 ช่วงหลัก ช่วงแรกระหว่าง 2021-2035 ตั้งเป้าบรรลุเป้าหมายระดับต้นหรือระดับพื้นฐาน (basically) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจในฐานะ "ภารกิจส่วนกลาง" พยายามแก้ไขการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่เท่ากันและความไม่เท่าเทียมที่รัฐบาลปักกิ่งยอมรับว่าเป็น "ความขัดแย้งหลัก" ของสังคมยุคใหม่นี้ เพิ่มการพึ่งพาตนเองโดยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยอยู่ระดับต้นของโลก เป็น "ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรม" ให้เพียงพอในด้านสำคัญ เช่น อาหาร เสริมสร้าง "อำนาจอ่อน" (soft power) ทางวัฒนธรรม ปรับปรุงหลักนิติธรรมภายในประเทศและระบบธรรมาภิบาล
ขั้นตอนที่สอง ช่วงปี 2035-2049 จะมุ่งฟื้นฟูชาติและพัฒนาให้ทันสมัยในระดับชาติ ให้จีนเป็น “ผู้นำโลกในแง่ประเทศแข็งแกร่งครอบคลุมทุกด้าน และมีอิทธิพลต่อนานาชาติ” รวมถึงมีกองทัพเข้มแข็งระดับโลก เป็นผู้นำทบทวนระเบียบโลกที่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศโดยรวมของจีน สร้าง "ชุมชนที่มีอนาคตร่วมกัน"
ต้นเหตุนโยบายฟื้นฟูชาติ:
รายงานพลังอำนาจกับพัฒนาการด้านความมั่นคงจีนอธิบายต้นเหตุนโยบายฟื้นฟูชาติว่า รัฐบาลจีนคิดอยู่ในกรอบ “ฟื้นฟู” กลับสู่สภาพเดิม ดังที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมักเอ่ยถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 19 จีนใน “ศตวรรษแห่งความอัปยศอดสู” เมื่อราชวงศ์ชิงเริ่มล่มสลาย จีนแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ต่างชาติละเมิดอธิปไตยครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949
การฟื้นฟูอ้างถึงประวัติศาสตร์ย้อนหลังหลายพันปีของจีน เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่ทรงอำนาจและก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พรรคคอมมิวนิสต์กำลังทำหน้าที่นำจีนสู่ “สังคมนิยมตามคุณลักษณะของจีนสำหรับยุคใหม่” โดยปลูกฝังความมีวินัย ขจัดคอร์รัปชันภายในพรรค ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พยายามพัฒนายุทธศาสตร์ชาติโดยทำให้พรรคปกครองทั่วทั้งประเทศอย่างเข้มแข็ง พรรคจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
ให้พรรคทำหน้าที่รวมชาติให้เป็นเอกภาพ เรื่องนี้เป็นวิธีให้พรรคมีบทบาทเชิงกลยุทธ์
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนตระหนักว่าจีนที่แข็งแกร่งขึ้นจะสร้างความความตึงเครียดกับประเทศอื่นหากไม่จัดการอย่างระมัดระวัง สมัยผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง (Deng Xiaoping) ใช้วิธีเก็บซ่อนความสามารถและแสดงตัวด้วยโปรไฟล์ต่ำ ไม่เรียกร้องเป็นผู้นำ
มุมมองต่ออธิปไตย:
รัฐบาลจีนกังวลการแบ่งแยกดินแดนในฮ่องกง ซินเจียงและทิเบต ระบุว่ามี "กองกำลังภายนอก" เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจอธิปไตย ความมั่นคงและการพัฒนาประเทศ
ชื่นชมผู้บริหารฮ่องกงกับมาเก๊าว่าเป็นคนรักชาติ กำกับดูแลให้อยู่ในกฎหมาย รัฐบาลจีนกำลังลงทุนในเขตพัฒนา "Greater Bay" ครอบคลุมพื้นที่กวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า นโยบายนี้จะรวมพื้นที่เหล่านี้เข้ากับการพัฒนาของส่วนกลางให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน พยายามเจือจาง ควบคุม และกลืนวัฒนธรรมท้องถิ่นซินเจียงกับทิเบตอย่างเป็นระบบ พฤศจิกายน 2023 ประกาศนโยบายเปลี่ยนชื่อทิเบตเป็น “ซีจ้าง” (Xizang) หน่วยงานจีนเริ่มใช้ชื่อใหม่แทนชื่อเดิม
มีนาคม 2024 นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า การสนับสนุนอิสรภาพของไต้หวันเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ รัฐมนตรีหวังกล่าวว่าจีนจะยังคงมุ่งมั่นให้รวมตัวโดยสันติ ไม่อนุญาตให้ไต้หวันแยกออกจากมาตุภูมิ
รัฐมนตรีหวังยืนยันพวกตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกาดำเนินการปิดล้อม ล้อมกรอบและกดดันจีน พันธมิตรกับชาติหุ้นส่วนสหรัฐโดยเฉพาะในอินโด-แปซิฟิกมีส่วนคุกคามอธิปไตยจีน
รัฐบาลจีนมองว่าระบบโลกอนาคตจะเป็นแบบพหุภาคี มักเอ่ยถึง “อนาคตมนุษยชาติร่วมกัน” (shared future for mankind)
รายงานพลังอำนาจกับพัฒนาการด้านความมั่นคงจีนฉบับปี 2024 ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐช่วยถักทอเข้าใจยุทธศาสตร์ชาติจีนตามข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏ อธิบายเบื้องหลังความคิด "การฟื้นฟูชาติจีนครั้งยิ่งใหญ่" ซึ่งเป็นหลักคิดสำคัญ นำประเทศให้ยิ่งใหญ่โดยเทียบกับอาณาจักรจีนในอดีตที่มองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก มีอารยธรรมที่สูงส่งกว่าเพื่อนบ้าน เป็นมหาอำนาจ ดังที่กำหนดเป้าหมาย ‘มีกองทัพเข้มแข็งระดับโลก เป็นผู้นำทบทวนระเบียบโลก’ ในการนี้จีนต้องเผชิญหน้าสหรัฐผู้นำระเบียบโลกปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พยายามสร้างระบบโลกใหม่ในแบบที่รัฐบาลจีนคิดว่าดีต่อตนเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฐมบทอาหรับสปริงซีเรีย
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจสังคมเป็นต้นเหตุสำคัญของอาหรับสปริงซีเรีย รัฐบาลต่างชาติที่หวังล้มอัสซาดพยายามอยู่นานหลายปี รอจนวาระและโอกาสเป็นใจ
จากฮาเฟซ อัลอัสซาดสู่จุดเริ่มอาหรับสปริงซีเรีย
อำนาจการปกครองเป็นของคนส่วนน้อย คนกลุ่มนี้แหละที่ได้รับประโยชน์ ทิ้งให้ประชาชนจำนวนมากอยู่ตามมีตามเกิด อำนาจนี้เปลี่ยนมือไปมาจนมาถึงระบอบอัสซาดที่อยู่ได้ 2 ชั่วคน คือพ่อกับลูก
จากสถาปนาประเทศซีเรียสู่พรรคบาธ
เรื่องราวของซีเรียเต็มไปด้วยการแข่งขันช่วงชิงทั้งภายในกับอำนาจนอกประเทศ ความขัดแย้งภายในหลายมิติ เป็นอีกบทเรียนแก่นานาประเทศ
2024สงครามกลางเมืองซีเรียระอุอีกครั้ง
สงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาเกือบ 14 ปียังไม่จบ สาเหตุหนึ่งเพราะมีรัฐบาลต่างชาติสนับสนุนฝ่ายต่อต้านกับกลุ่มก่อการร้าย HTS เป็นปรากฏการณ์ล่าสุด
ฮิซบุลเลาะห์-อิสราเอลจากเริ่มรบสู่หยุดยิง
ถ้าคิดแบบฝ่ายขวา อิสราเอลที่หวังกวาดล้างฮิซบุลเลาะห์ การสงบศึกตอนนี้ไม่บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ และฮิซบุลเลาะห์กำลังเปลี่ยนจุดยืนหรือ
เส้นทางสายไหมตะวันออกแห่งศตวรรษที่21
BRI จะเป็นแค่การพัฒนาร่วมหรือเป็นยุทธศาสตร์ครองโลกของจีนเป็นที่ถกแถลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนานาชาติเฝ้าติดตาม จริงหรือเท็จกาลเวลาจะให้คำตอบ