“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” การเมืองท้ายปี อาจทำให้พรรคส้มใจชื้นขึ้นมาบ้าง สำหรับนิด้าโพลเที่ยวล่าสุด โดยคะแนนขึ้นนำมาเป็นอันดับ 1 ส่วนจะส่งผลนัยทางการเมืองหรือไม่ ต้องไปถาม “เทพไท เสนพงศ์” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ฟันธงโดยผลการสำรวจความคิดเห็นของ “นิด้าโพล” เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 4/2567” พบว่า บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้คือ อันดับ 1 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) 29.85% อันดับ 2 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) 28.80% อันดับ 3 หาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 14.40% อันดับ 4 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) 10.25% อันดับ 5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) 6.45%
สำหรับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้คือ อันดับ 1 พรรคประชาชน 37.30% อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 27.70% อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ 10.60% อันดับ 4 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ 8.20% อันดับ 5 พรรคภูมิใจไทย 5.15%
เทพไทบอกว่า ถ้าดูผลการสำรวจความนิยมระหว่างตัวบุคคลกับพรรคการเมือง พบว่า มีลำดับคะแนนนิยมสอดคล้องกัน ระหว่างอันดับของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ พรรคประชาชน กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย แต่คะแนนนิยมของพรรคประชาชน สูงกว่าคะแนนนิยมนายณัฐพงษ์ แสดงให้เห็นว่าความนิยมของพรรคยังเหนือกว่าตัวบุคคล
ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า นายณัฐพงษ์ มีบุคลิกและบทบาทไม่โดดเด่นพอที่จะทำให้คะแนนนิยมเทียบเท่ากับคะแนนนิยมของพรรค ซึ่งแตกต่างกับกรณีของ น.ส.แพทองธาร กับพรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนนิยมใกล้เคียงกัน
ถ้าพิจารณาคะแนนนิยมของนายณัฐพงษ์ กับนางสาวแพทองธาร ในไตรมาสนี้มีคะแนนใกล้เคียงสูสีกันมาก และทั้ง 2 คนต่างก็มีจุดอ่อนเช่นเดียวกัน นายณัฐพงษ์อาจมีจุดอ่อน เรื่องบทบาทและบุคลิกไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ส่วนนางสาวแพทองธารมีจุดอ่อนเรื่องวุฒิภาวะ ประสบการณ์ทางการเมือง และความรู้รอบตัวในการตอบคำถามของสื่อมวลชน
แต่ที่น่าสังเกตก็คือ คะแนนนิยมของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กับคะแนนนิยมของพรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจจะมีผลมาจากการที่นายพีระพันธุ์ได้แสดงจุดยืนในการบริหารกระทรวงพลังงานเป็นที่ถูกใจของประชาชน ที่ใช้พลังงานราคาแพงมาอย่างยาวนาน และหวังที่จะให้นายพีระพันธุ์ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อใช้พลังงานราคาถูกในโอกาสต่อไป
ขอให้จับตาดูบทบาทของนายพีระพันธุ์ สามารถต้านแรงเสียดทานจากกลุ่มทุนพลังงาน และนายใหญ่ได้หรือไม่ ถ้าสามารถปรับโครงสร้างหรือปฏิรูปโครงสร้างของพลังงานเป็นผลสำเร็จ โดยไม่ยอมอ่อนข้อให้กับกลุ่มทุนพลังงาน ก็อาจจะได้รับความนิยมสูงขึ้นอีก และเป็นพระเอกในหัวใจของประชาชนได้
๐ ช่วงปีใหม่ อีกเรื่องสำคัญที่ต้องระวังคือ ความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนน สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการรณรงค์ ‘ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ’ เกิดอุบัติเหตุจำนวน 280 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 269 คน ผู้เสียชีวิต 47 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 38.57 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.21 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 19.29
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.98 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 82.14 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.36 ถนนใน อบต.หรือหมู่บ้าน ร้อยละ 31.07 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01-17.00 น. ร้อยละ 7.14 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 22.47
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดลพบุรีและสุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 10 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร (4 คน)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (วันที่ 27-29 ธันวาคม 2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 872 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 841 คน ผู้เสียชีวิตรวม 143 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็น 0) มี 19 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (35 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (32 คน) และจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (7 คน).
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
" ปีใหม่วันแรก 1 มกราคม 2568 ห้วงเวลา สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2567 เต็มไปด้วยความสูญเสีย ในประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วงผู้คนสัญจรไปต่างจังหวัด
บันทึกหน้า 4
เหนื่อยทั้งปีมีแต่เรื่องเรืองอำนาจ คนทั้งชาติตั้งตารอของขวัญอันปรารถนา ภาวนาเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองเฟื่องเงินตรา แต่รัฐบาลไม่นำพาให้ประชาได้อุ่นใจ แพทองทาพาทองโพยโดยไอแพด
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "ฉายาสภาประจำปี 2567" หลังเปิดฉายารัฐบาลไปก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตลอดของนักข่าวสายการเมือง ที่ต้องการสะท้อนภาพการทำงานของ 2 สถาบันหลักของบ้านเมือง ฝ่ายบริหารซึ่งก็คือรัฐบาล
บันทึกหน้า 4
ในวันที่เข้าสู่ช่วงเตรียมนับถอยหลังอำลาปี 2567 ปีมะโรง เพื่อเตรียมต้อนรับปีมะเส็ง งูเล็ก 2568 ทำให้ตอนนี้คนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดเพื่อพักผ่อนปีใหม่กันแล้ว
บันทึกหน้า 4
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด "ฉายารัฐบาล" ปีนี้ออกมาเร็วกว่าปกติ สื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาว่า "รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง"
บันทึกหน้า 4
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ตามธรรมเนียม ใกล้สิ้นปีสื่อประจำทำเนียบฯ จะตั้งฉายารัฐบาลและคณะรัฐมนตรี เพื่อสะท้อนการทำงาน และบทบาททางการเมืองต่างๆ ในตลอดปี 67