คงเป็น "ที่สุดแห่งปี" จริงๆ
สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก "ตระกูลชิน"
บ่ายวาน (๒๗ ธ.ค.๖๗) นายกฯ มาเลย์ "นายอันวาร์" โพสต์เฟซฯ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ
Anwar Ibrahim
รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์
รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน
การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา
เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า
จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย
ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค
ที่ผมมีร่วมกับ "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย
หลายทศวรรษที่ผ่านมา ทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน
ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น
แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง.
นั่นคือบทบาท "นายกฯ-ผู้พ่อ" ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท "นายกฯ-ผู้ลูก" ส่งท้ายปีบ้าง
๒๗ ธันวา. นายกฯ "แพทองธาร ชินวัตร"
ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ "สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี" (สลค.)
"หยุดงาน" ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า "เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว"
จะกลับมา "ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ" อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘
โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า
นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ?
ในความรู้สึกผม....
ประเทศเหมือน "ครอบครัวหนึ่ง" มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย "นายกฯ" เป็นหัวหน้า "รับผิดชอบ" ดูแลครอบครัว
ปีใหม่ "หยุดยาว" สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์
แต่แทนที่ "หัวหน้าครอบครัว" จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขโมย-ขโจรให้เอง
กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ "ลาหยุด" ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน!
ถามว่าผิดมั้ย?
ก็ไม่ผิด แต่มันขาด "ภาวะสำนึก" แห่งความรับผิดชอบของ "คนเป็นผู้นำ"
หรือพูดกันชัดๆ...
นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" เลย!
เป็น "ผู้นำ" เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง....
หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้
มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น "แบบอย่าง" ที่ไม่ดี เช่นนี้?
เปล่า...ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!?
แถมบอก "จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ" อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น
น่ารังเกียจ ประหนึ่ง "ไร้เดียงสา"!
ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น "หยุด...คือไม่ไปที่ทำงาน" นั้น ได้
แต่ "หน้าที่นายกฯ" มันหยุดปฏิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย
"ลาออก" จากตำแหน่งนายกฯ ได้
แต่ลา "ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ" ไม่ได้!
เช่นเดียวกับ "ข้าราชการ" ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล
"หยุดงาน-ลางาน" ได้
แต่หยุด "หน้าที่" คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม "ปฏิบัติหน้าที่" ในทันที เมื่อมีสถานการณ์
คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ "สำนึกภาวะ" ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ "ต้องสูงกว่าข้าราชการ" ขึ้นไปอีกขั้น
อย่างปีใหม่ "หยุดยาวข้ามปี".......
นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบฯ "ค่าเท่ากัน"
ไม่ต้องทำเป็น "ลาก่ง-ลากิจ" ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก
ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น
ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล "อยู่โยง" ทำหน้าที่ "มอนิเตอร์ประเทศ" ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ
เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง "ห่วงหน้า-พะวงหลัง"
เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ
ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว "อยู่เวร-อยู่ยาม"
"ผู้นำรัฐบาล" ก็แกร่วอยู่ด้วย
คอยตรวจตราสั่งการ "รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง" ให้ประชาชน
ไม่ได้ตะแล็ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด!
นี่คือ "สำนึกผู้นำ"
ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ "จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่" ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘!
จะให้ "ชาวบ้าน-ชาวเมือง" เข้าใจว่า.....
จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง "ว่างเปล่า" ไม่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ?
โบราณท่านบอก....
เป็นหัวหน้างาน "อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ"
แต่คนเป็นหัวหน้าคน "ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง"
เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน
คนเป็นนายก็ต้อง "เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ" คอยระวังหลังให้พวกเขา
มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ "สามัญสำนึกพื้นฐาน" ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง
พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง
จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ
ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ "หลุย คีรีวัต" ที่ถูกขังคุกเกาะ "ตะรุเตา" กับเพื่อนนักโทษกบฏอีก ๒-๓ คน มี "โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์" รวมอยู่ด้วย
หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่้งเกาะนี้ อยู่ใน "รัฐเกดะห์"
อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕
เกาะนี้ "ถูกสาป" จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน
ผมเล่าตามข่าวนะ .....
"ทักษิณ" กับ "นายอันวาร์" นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี
หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ?
ลองทายกันดูซิ....
เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน
"ในแดนไทย" หรือ "ในแดนมาเลย์" ที่ลังกาวี?
แค่บอกว่า
"ทักษิณกับ ร.อ.ธรรมนัส อดีต รมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล
โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป
จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ "โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว" รีสอร์ท"
ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก "เรื่องแต่ง" ส่วน "เรื่องจริง" ใครเขาจะบอก!
แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา "ช่องทางธรรมชาติ" หรืออย่างไร?
อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข "ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ"
แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯ มาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย
ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์
พบ-พูดคุยกันแล้ว....
อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฏตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย?
อีกประเด็นที่ผมสน "ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร"
จึงเล่นบท "การเมืองลับๆ ล่อๆ" กับทักษิณ?
-ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี "มาเลเซีย-ไทย"
ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย
นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น "แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา" เป็นเจ้าของคอกหมา และ ฯลฯ
อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา "ขายแผ่นดิน"
และวิชา "แปลง" ทุนสำรองระหว่างประเทศ "เป็นเงินโปรย" ประชานิยม!
"การเมืองลับๆ ล่อๆ" นี้ "ฉีกประเทศไทย" ให้มี ๒ รัฐบาล
คือ "รัฐบาลพ่อ" กับ "รัฐบาลลูก"
แล้วกูจะต้องปฏิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล?
-เปลว สีเงิน
๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
วันเสาร์ที่ปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลึกสุดใจ..'บิ๊กต่าย' ยึดกฎกติกา ไม่กลัวทุกอิทธิพล
ลึกสุดใจ..'บิ๊กต่าย' ยึดกฏกติกา ไม่กลัวทุกอิทธิพล วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
'รัฐมนตรี' ที่ 'นักข่าวลืม'
"นายกฯ แพทองธาร" นี่.... ต้องยอมรับกันจริงๆ จังๆ ว่า "ออร่า" ในตัวเธอเจิดจ้ามาก!
ฮัลโหล 'พีระพัง' มาแว้ว!
"พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เจ้าสำนัก "รวมไทยสร้างชาติ" นี่ ดูเหมือน "งานจะเข้า" แฮะ!
แบงก์ชาติ 'อย่านึกว่ารอด'!
ประเทศ "พ้นบ่วงมาร" ไปอีกบ่วง! เมื่อวาน (๒๔ ธ.ค.๖๗) ปลัดคลังแถลง กฤษฎีกาตีความทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว
ถ้าไม่รู้ทัน "มันกินเรียบ"
"ตรรกะโจร" บางเรื่องนี่ ใช้ได้นะ เช่นที่พูดว่า "ผลไม้พิษย่อมมาจากต้นไม้พิษ"
'หลวงพ่อทวด' สำเร็จแล้ว
คุยเรื่องบาปมาหลายวัน วันนี้คุยเรื่องบุญกันนิด! แต่ขอเตือนความจำกันก่อน