'รัฐมนตรี' ที่ 'นักข่าวลืม'

"นายกฯ แพทองธาร" นี่....

ต้องยอมรับกันจริงๆ จังๆ ว่า "ออร่า" ในตัวเธอเจิดจ้ามาก!

ขนาดแฟชั่น "แบรนด์เนม" ชุดละเป็นแสนๆ ที่เห็นรายวัน

พอนายกฯ ใส่เท่านั้นแหละ

ด้วยรัศมีออร่า ข่มชุดแฟชั่น "แบรนด์เนม" ให้กลายเป็นชุด "แบกะดินส์" ไปทันที!

สิ่งที่ตามมาโดยไม่ตั้งใจ .........

คลาสการแต่งกายเจ้านายนั้น ช่วยสร้าง "มูลค่าเพิ่ม" ให้แจ๋ว ๓-๔ นางที่เยื้องย่างเป็นวอลเปเปอร์ "พลอยดูแพง" เสมอหน้า-เสมอตาไปด้วย

อย่าง "มนพร" รมช.คมนาคม .....เห็นมั้ย

ยืนแยกยิ้มประกบข้างนายกฯ ตอนให้สัมภาษณ์ทีไร หน้า "แอนโทเนีย โพซิ้ว" ลอยเด่นขึ้นมาเลย!

ของ "แพง" แต่แต่งแล้วทำให้ดูเป็น "ของถูก"  แบบนี้ ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ ทุกคน

นอกจากต้องเข้าใจเรือนร่างของตนแล้ว ต้องมีศิลปะในการเลือก ต้องมีรสนิยมในการแต่ง ผสมจิตวิทยาชั้นสูงจริงๆ อย่างนายกฯ หญิงของเรา

จึงจะสามารถทำให้ชาวบ้านร้านตลาด เห็นแล้วเกิดความรู้สึกว่า

"อุ๊ย!...นายกฯ หญิงคนนี้ "ติดดิ๊นน...ติดดิน" น่ารักจัง!"

วันนี้ ศุกร์ ๒๗ ธันวา.ถือว่า "ส่งท้ายปี ๒๕๖๗" เพราะดูปฏิทินแล้ว คงหยุดลากยาว "ข้ามปี" ไปสัปดาห์ที่ ๒ ของปี ๖๘ นั่นแหละ ถึงจะเริ่มชีวิตใหม่กัน

มา "เช็กเค้า" ประเทศกันหน่อยปะไร

วานซืน "นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์" ผอ.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)กระทรวงพาณิชย์ แถลง ซึ่งผมจะสรุปคร่าวๆ

ส่งออกเดือน พ.ย.๖๗ มูลค่า ๒๕,๖๐๘.๒ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม ๘% บวก ๕ เดือนติด

รวมยอด ๑๑ เดือน มูลค่า ๒๗๕,๗๖๓.๖ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม ๕% คิดเป็นเงินบาท ๙,๖๙๕,๔๕๕ ล้านบาท

คาด ธ.ค. ยังส่งออกได้ดี มีลุ้นทำนิวไฮ ๓ แสนล้านเหรียญฯ โตทะลุเป้า ๕.๒% 

นำเข้ามีมูลค่า ๒๕,๘๓๒.๕ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ๐.๙% คิดเป็นเงินบาท ๘๖๗,๔๕๖ ล้านบาท

ขาดดุลการค้า ๒๒๔.๔ ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท ๑๘,๓๘๗.๑ ล้านบาท

ส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากสินค้าเกษตร เพิ่ม ๔.๑% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม ๗.๗% และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม ๙.๕%

ตลาดส่งออก "ตลาดหลัก" สหรัฐฯ เพิ่ม ๙.๕% จีน เพิ่ม ๑๖.๙% สหภาพยุโรป เพิ่ม ๑๑.๒% CLMV เพิ่ม ๒๑.๐%

ญี่ปุ่น ลด ๓.๗% อาเซียน (๕ ประเทศ) ลด ๑.๕% ตลาดรอง เพิ่ม ๗.๑% 

เอเชียใต้ เพิ่ม ๑๘.๓% ทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม ๑.๐% ตะวันออกกลาง เพิ่ม ๑.๗% แอฟริกา เพิ่ม ๑๓.๘%

ลาตินอเมริกา เพิ่ม ๓๑.๘% และสหราชอาณาจักร เพิ่ม ๑๒.๐%

กลุ่ม CIS (รัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนีย มอลโดวา อาเซอร์ไบจาน คีร์กีซ อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และยูเครน)

ลด ๕.๓% และตลาดอื่นๆ เพิ่ม ๒๙.๐%

นี่คร่าวๆ นะครับ เพื่อจะบอก ๒ อย่าง....

๑.ให้เครดิตนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น-นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์

และ "ข้าราชการพาณิชย์" ทั้งกระทรวง

ท่องเที่ยวกับส่งออก เป็น "๒ เครื่องยนต์" ที่นำรายได้เข้ามาประคองเศรษฐกิจประเทศ ไม่ให้หัวปักทิ่มดิน เวลานี้!

๒.ปี ๖๘ เศรษฐกิจ จะ "เผาจริง" ทั้งโลก ....

ยิ่งทรัมป์แปลงการค้าเป็นอาวุธจี้หัวประเทศต่างๆ

บอก "ข้าจะเสนอในสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำตาม" ด้วยแล้ว

 การส่งออก "ทั้งโลก" มีปัญหาแน่นอน!

นำสู่ปัญหาที่ไทยต้องคิด ว่าการใช้เงินในปี ๖๘ รัฐบาลจะแค่เอาตัวเองรอดหรือเอาประเทศรอด?

ผมอ่านที่ "The Publisher" เขาโพสต์ เมื่อวาน มันเป็นเรื่องจริง ที่ต้อง "คิดหนัก" ทุกฝ่าย

The Publisher

ย้อนดูการจัดงบประมาณของรัฐบาลเศรษฐา มาจนถึงรัฐบาลแพทองโพย

พบว่า มีการจัดงบประมาณ "ขาดดุลต่อเนื่อง" อย่างมีนัยสำคัญ เริ่มจากปีงบประมาณ ๒๕๖๗  ขาดดุล ๖.๙๓ แสนล้านบาท

ปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ขาดดุล ๘.๗ แสนล้านบาท

และปีงบประมาณ ๒๕๖๙ วางแผนขาดดุลอีก ๘.๖ แสนล้านบาท 

บวกดูแล้วพบว่าการจัดงบประมาณ ๓ ปีของรัฐบาลเพื่อไทย รวมขาดดุลแล้วกว่า ๒.๔ ล้านล้านบาท

ทั้งๆ ที่มีเสียงเตือนจากหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ อาทิ สภาพัฒน์ เตือนมาตั้งแต่การทำงบประมาณปี ๖๗ ว่า "ต้องลดการขาดดุลลง ให้ต่ำกว่า ๓% ของจีดีพี"

 แต่การจัดงบประมาณของรัฐบาลเพื่อไทย สวนทางมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ ขาดดุลเกิน ๔%  ของจีดีพี ไปแล้ว

แน่นอนว่า "หนี้สาธารณะ" จะพุ่งเป็นเงาตามตัว

หาก "ภาวะขาดดุล" ยังดำรงอยู่เช่นนี้ ไม่มีการแก้ไข คาดการณ์ว่า ภายในปี ๒๕๗๒ ยอดหนี้สาธารณะจะแตะที่เพดาน ๗๐%

ขณะที่การหารายได้เพิ่มยังไม่มีหนทางที่ชัดเจน!

จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นความพยายามสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ทั้ง "พันธบัตรดิจิทัล"

ซึ่งเปรียบเสมือนการ "สร้างเงินสกุลใหม่" มาแข่งกับ "สกุลเงินบาท" ไปจนถึงการ "ล็อกเป้า"

เล็งล้วง "ทุนสำรองระหว่างประเทศ" มากระตุ้นเศรษฐกิจ

นี่คือทัศนคติที่น่าห่วง......

เป็นกับดักและความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย ถ้ายังเดินตามรอยนี้ ไม่เพียงไม่ได้ตามเป้าเศรษฐกิจโต ๔-๕% 

อาจตามมาด้วยการ "ถูกลดเครดิต" จากภาระหนี้ที่เกิดขึ้นด้วย

............................

"หนุมาน" หาวเป็นดาว-เป็นเดือน

แต่ "ไอ้ตัวมาร" มันจะฮุบประเทศ สอยทั้งดาว-ทั้งเดือน ไปเป็นสร้อยสวมคอตระกูลมัน!

หนี้ประเทศล้นคอหอย ก็พลิกแพลงจะไปพิมพ์ "พันธบัตรดิจิทัล" ทำให้ประเทศไทยมีเงิน ๒ สกุล (ฉิบหายละทีนี้)

จะเอาอะไรไปค้ำ "พันธบัตรดิจิทัล" ล่ะ?

ก็ทองคำ "หลวงตาพระมหาบัว" ที่เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศนั่นไงล่ะ!

ฝากให้คิดกัน ประเทศตอนนี้ "เหลือน้ำมันก้นถัง" แล้ว

 รัฐบาลก็ยังขอด-ยังขุดเอาไปผลาญ แจกโน่น-ประชานิยมนี่ หว่านโปรยทุกครั้งที่ลงไปตะแล็ดแต๊ดแต๋ต่างจังหวัด

วานซืน รัฐมนตรีช่วยคลัง บอก

จะออก "สลากการกุศล" งวดละ ๑๑ ล้านฉบับ  เป็นเวลา ๒ ปี เอาเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาทไปทำ "โครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุนการศึกษา"

พูดให้ชัดลงไปก็สิ้นเรื่อง ว่าเอาไปทำ "ประชานิยม"!

ย้อนกลับไปที่พาณิชย์ซักหน่อย ที่ผมยกตัวเลขการส่งออกมาให้ดูนั้น ท่านทราบมั้ย เป็นการทำงานของหน่วยงานไหน?

"สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า" (สนค.) ที่ "นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์" เป็นผู้อำนวยการฯ นั่นแหละ

แล้วใครกำกับ-รับผิดชอบหน่วยงานนี้?

รมช."สุชาติ ชมกลิ่น"

ที่นักข่าวตั้งฉายา "รัฐมนตรีโลกลืม" คู่กับ "รมช.นภินทร" นั่นเอง!

นอกจาก สนค.แล้ว รมช.สุชาติ ยังได้รับการแบ่งงานให้คุม "กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ" และ "สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)" ด้วย

ถ้า "โลกลืม" หมายถึง รมช.ไม่ทำงาน ก็คงไม่มีเนื้องานเช่นนี้มาแถลง

ฉะนั้น ที่นักข่าวทำเนียบฯ ตั้งฉายา "รัฐมนตรีโลกลืม" น่าจะเป็นอย่างที่ "รมช.นภินทร" ท่านย้อนนักข่าว ว่า

 “ผมอยากฝากสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลว่า  ลองพูดคุยกับสื่อประจำกระทรวงพาณิชย์บ้าง ว่าผมทำงานอะไรบ้าง เนื่องจากผมไม่จำเป็นต้องมาแถลงที่ทำเนียบฯ 

เพราะไม่ใช่เรื่องที่ควรจะทำเนื่องจากเป็นงานกระทรวง”

สำหรับ รมช.สุชาตินั้น...
ท่านดูแลงาน "กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ" ด้วย

เผอิญโลกที่สองของผม คือพวกเว็บข่าวสารต่างๆ

จึงเห็นภาพ-ข่าว "รมช.สุชาติ" เดินทางไปเจรจาการค้า ไปเปิดตลาดการค้าตามประเทศโน้น-นี้ ไม่เว้นแต่ละเดือน

นั่นก็ช่างเถอะ

รัฐมนตรีก็ "ทำงาน-เอางาน" นักข่าวเขาก็ "ทำข่าวเป็นงาน" ขำๆ รายปีกันไป อย่าไปซีเครียด

ตรงนี้ตะหาก....

ที่ผมจะบอกให้ท่าน "รัฐมนตรีสุชาติ" ได้ปลื้มปริ่ม

คือผมมีมิตรสหายอดีต "ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่" กระทรวงพาณิชย์หลายคน ว่างๆ ก็นั่งซดกาแฟแกล้มนินทาโน่น-นี่กันตามประสา

เขาบอกว่า "ข้าราชการในกระทรวงเขาชมรัฐมนตรีสุชาติกันมาก"

"ชมเรื่องอะไร?" ผมถาม

ผู้ใหญ่ท่านนั้นบอกว่า "ข้าราชการเขาชมรัฐมนตรีสุชาติน่ารัก ไม่ถือตัว และให้เกียรติข้าราชการมาก ชี้แจงอะไรท่านก็รับฟัง ทำงานจริงจัง"

นี่คือ "แผ่นทอง" ที่ยากนัก-ยากหนา" อันข้าราชการจะปิดให้ "นักการเมือง" คนไหน ผมจึงมาเอาหน้ากับท่านรัฐมนตรีว่า

"นักข่าวลืม" นั่นโลกมายา

"ข้าราชการพาณิชย์" เขาไม่ลืมและชื่นชมท่าน นั่นตะหาก คือโลกจริง!

-เปลว สีเงิน

๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบงก์ชาติ 'อย่านึกว่ารอด'!

ประเทศ "พ้นบ่วงมาร" ไปอีกบ่วง! เมื่อวาน (๒๔ ธ.ค.๖๗) ปลัดคลังแถลง กฤษฎีกาตีความทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว

เรื่องนี้ 'ทักษิณ' ต้องอ่าน

ใครไม่อ่านวันนี้ ห้ามคุยเป็นแฟนคลับ "เปลว สีเงิน! เนื้อหาทั้งหมด นำมาจาก The room 44 ประทับใจหาดูได้ในช่องยูทูบ