"พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เจ้าสำนัก "รวมไทยสร้างชาติ" นี่
ดูเหมือน "งานจะเข้า" แฮะ!
เท่าที่สังเกต หลังจาก "นาย ส.ท.ร." ที่เป็น "พ่อนายกฯ" ส่งสัญญาณอยากไล่ "บางพรรค" ออกจากการร่วมรัฐบาลเท่านั้นแหละ
ขบวนการสื่อรับลูก "ขยายผล" รุมกระทอกเป็นทอดๆ พุ่งตรง "ตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน" ของนายพีระพันธุ์
สรุป คือ "พีระพันธุ์" เป็นผลไม้นอกสายพันธุ์ "ต้นไม้พิษ"
แถม "หัวแข็ง" ขวางหูขวางตานาย ส.ท.ร.เอามากๆ!
และที่สำคัญ...พีระพันธุ์รู้มั้ย ใครคือ "เจ้าพ่อพลังงาน"?
การที่พีระพันธุ์ประกาศจะ "ปลดแอก" ค่าไฟฟ้าจากนายทุนผูกขาด ให้ชาวบ้านจ่ายค่าไฟที่ "สมเหตุ-สมผล" นั้น
มัน "เยี่ยวรดหัวใจ" กันชัดๆ!
เพราะ "กูนี่แหละ" พ่อของ "เจ้าพ่อพลังงาน" อีกที!!!
ยิ่งเมื่อพฤหัสฯ ที่ ๑๙ ธันวา. "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" หัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งกระทู้สด ถามนายกฯ ไอแพด
เรื่องรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ๓,๖๐๐ เมกะวัตต์
และให้นายกฯ "ยกเลิกสัมปทาน" รับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนนั้น
คุณหนูจะเอาปัญญาที่ไหนไปตอบล่ะ ก็มอบให้พีระพันธุ์ตอบแทน แต่วันนั้น พอดีรัฐมนตรีพีระพันธุ์ติดภารกิจ จึงเลื่อนมาตอบเมื่อวานซืน
ก็ตอบสไตล์พีระพันธุ์เขานั่นแหละ...
เมื่อถามตรง ก็ตอบกันตรง ไม่เลี้ยวซ้าย-เลี้ยวขวา หวังซบตีนใคร
คำตอบพีระพันธุ์ก็คือ ยอมรับว่าการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าว "มีปัญหาจริง"
ท่านทำหนังสือถึง กกพ. (คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน) "ให้ระงับการรับซื้อไฟฟ้า ๓,๖๐๐ เมกะวัตต์" แล้ว!
ก็ที่เป็นข่าวกราวเกรียวหลายวันก่อนนั่นแหละ
หมูเขาจะหามดันเอาคานเข้าไปสอด พีระพันธุ์ก็เลยถูกขบวนการรับจ้างปั่นข่าวอัดซะน่วม
ขณะที่พีระพันธุ์สั่่ง กกพ. "ระงับการรับซื้อ"
อีกทาง กพช. (คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ) โดยมี "มาดามแพไอแพด" นั่งเป็นประธาน
มีมติ ยืนยันให้ "เดินหน้าตามแผนเดิม"!
เมื่อนายกฯ สั่ง กกพ.ก็ไม่สนคำสั่งให้ระงับการซื้อของรัฐมนตรีพีระพันธุ์ เดินหน้าประกาศรายชื่อผู้ได้รับโควตา
เร่งรัดให้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ภายใน ๑๔ วัน นับจาก ๑๖ ธันวา.ทันที
นายณัฐพงษ์บอกว่า...
"กกพ.ประกาศรายชื่อออกมาแล้ว จะต้องลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากลุ่ม ๑ ภายใน ๑๔ วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ ๓๐ ธันวา.ที่จะถึงนี้
และกลุ่มที่ ๒ ใน ๑๔ กุมภา.๖๘ ถ้านายกฯ ไม่หยุดยั้งตอนนี้ ก็จะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้แล้ว
ตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าของ กกพ.......
รัฐบาลมีอำนาจยกเลิกได้ หากยังไม่มีการเซ็นสัญญา"
“เราอยากได้รับคำตอบว่านายกฯ จะปล่อยให้กระบวนการแบบนี้ ที่สืบทอดมาจากรัฐบาลก่อนๆ และทำให้ประชาชน ต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นถึงปีละ ๔,๑๖๒ ล้านบาท
หรือ ๑๐๔,๐๕๐ ล้านบาท ตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ๒๕ ปี อย่างนั้นหรือ
มันเป็นการซ้ำเติมค่าไฟที่แพงอยู่แล้ว จากที่รัฐอนุมัติให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น
จนกลายเป็นภาระที่คนไทยทุกคน ต้องจ่ายค่าไฟ ปีละ ๑,๓๐๐ บาท ให้กับโรงไฟฟ้า "ที่ไม่ได้เดินเครื่อง" เป็นการเอื้อกลุ่มธุรกิจพลังงาน"
แล้วนายณัฐพงษ์ยังเตือนสำนึกผ่านความว่างเปล่าตัวนายกฯ ว่า.....
นายกฯ จะทำให้เรื่องนี้เดินต่อจริงหรือ.......?
ถ้านายกฯ ไม่ทำอะไร ไม่ยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้า ๓,๖๐๐ เมกะวัตต์ ไม่ลดค่าผ่านท่อ ไม่จัดการกับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ไม่เดินเครื่อง
ก็จะทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้นถึง ๐.๓๐ บาทต่อหน่วย"
ผมก็หยิบๆ มาปูพื้นเป็นความเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆ
เรื่องพลังงานนั้น รัฐมนตรีพีระพันธุ์พยายาม "ปลดแอก" เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้พลังงานในราคายุติธรรม
แต่ดูเหมือน "หัวเดียวกระเทียมลีบ" ยิ่งรัฐมนตรีพีระพันธุ์เป็นคนไม่แคร์ใคร ไม่แยแสการทำตัวเป็นข่าว ขวานผ่าซากอีกตะหาก
อย่างวันก่อน นักข่าวถาม "ทำไมไม่ไปร่วมประชุมสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติล่ะ?"
ถูกรัฐมนตรีพีระพันธุ์จามหน้าแหกชนิดหมอไม่รับเย็บ
"ผมไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากไม่ได้เป็น สส. สื่อมวลชนน่าจะฉลาดกว่านี้”
ดอกนี้ "เจ็บจี๊ดดดด" ถ้าหนังหน้าไม่หนาพอ!
มาเมื่อวาน (๒๕ ธ.ค.) รัฐมนตรีพีระพันธุ์ ที่สื่อทำเนียบฯ เขาตั้งฉายา "พีระพัง" ก็เปิดศักราช "พีระพัง" ที่สภา เป็นการเฉลิมฉลอง
ผมคุยก็ประเภทน้ำท่วมทุ่ง ฉะนั้น วันนี้ เอาเนื้อๆ ดีกว่า
คือเมื่อรวมไทยสร้างชาติ "ของขึ้น" ก็ถอดคำจากที่สื่อเขารายงานมาให้อ่านกันเองเลย
ประเภท "คมเฉือนคม" หรือ "หักเหลี่ยมเจ้าพ่อ" ก็ประมาณนั้น แต่ด้วยเรื่องและประเด็นใด อ่านเอง
.............................
"พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" รองนายกฯ รมว.กระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
แถลงข่าวร่วม "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" รมว.กระทรวงอุตสาหกรรมและเลขาธิการพรรคฯ โดยแถลงว่า
"พรรครวมไทยสร้างชาติ" เตรียมเสนอร่างกฎหมายสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจาก "พลังงานแสงอาทิตย์"
ที่เรียกระบบ "โซลาร์ รูฟท็อป" เข้าสู่สภาผู้แทนฯ วันนี้
ซึ่งจะเป็นอีกวิธีหนึ่ง ช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากภาระค่าไฟฟ้าแพง และเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มุ่งลดภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน
"ปัจจุบันการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย ยุ่งยาก ซับซ้อน มีราคาแพง
อีกทั้ง ยังมี "หน่วยงานราชการ" ที่เกี่ยวข้องถึง "๕ แห่ง"
พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ดูแลกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งกำกับดูแลหน่วยงานหลัก ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
จึงประสานกันระหว่างทั้งสองกระทรวงอย่างต่อเนื่อง
เพื่อ "ปลดล็อกให้ประชาชน" สามารถติดตั้ง "ระบบโซลาร์เซลล์" ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น"
สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎหมายต่อ ครม.
"ให้ยกเว้นการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปทุกกำลังการผลิตที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ไม่ต้องขอใบอนุญาตอีกต่อไป"
ในขณะที่ "กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน" (พพ.) กระทรวงพลังงาน
ก็เร่งรัดการออกกฎหมาย "ปลดล็อก" เรื่องขออนุญาตติดตั้งเช่นกัน"
“เรามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง ๕ แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งต่างก็มีกฎหมายของตนเองที่ตีความว่าการจะติดตั้งระบบโซลาร์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของหน่วยงานตน
เรามีกฎหมายเยอะมาก แต่ที่ไม่เคยมีก็คือ "กฎหมายที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานจากแสงแดด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ....
ได้ยกร่างกฎหมายซึ่งไม่เคยมีในประเทศไทยให้กับพี่น้องประชาชน คือ
"กฎหมายเกี่ยวกับการสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์" เข้าสภา
กฎหมายฉบับนี้ จะปลดล็อกอย่างถาวรจากกฎหมายอื่นๆ ที่เคยนำมาอ้างอิง
"ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สนับสนุนในการดำเนินการดังกล่าว กฎหมายฉบับนี้ จะทำให้พี่น้องประชาชนมีค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานไฟฟ้าถูกลง
และเป็นการทำตามนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ส่งเสริมให้ภาครัฐเป็นผู้ให้บริการ
โดยเปลี่ยนจากการ "ขออนุญาต" ติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เป็นการ "แจ้งให้ทราบ"
ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการติดตั้งได้เร็วขึ้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบการติดตั้งในภายหลังเท่านั้น
จะลดความล่าช้าในการติดตั้ง รวมถึงการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐได้
ผลของกฎหมายฉบับนี้ ยังช่วยสร้างอาชีพใหม่ โดยเฉพาะอาชีพติดตั้ง "โซลาร์เซลล์-โซลาร์รูฟท็อป"
ได้เตรียมความพร้อมในการเสริมสร้างทักษะอาชีพด้านนี้ ผ่านการอบรมโดยกระทรวงพลังงาน
รวมถึงปรับปรุงเงื่อนไขของกองทุนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับพี่น้องประชาชนที่มีความต้องการติดตั้งพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
สำหรับปัญหาราคาติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์ที่มีราคาแพงนั้น กระทรวงพลังงาน ได้มีการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ "อินเวอร์เตอร์" ในราคาที่ "ต่ำกว่าท้องตลาด" อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพจาก สวทช.ในขั้นตอนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังวิจัยการประดิษฐ์ "แบตเตอรี่" สำหรับกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกด้วย
“ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่ทุกอย่างที่หมักหมมมาหลายสิบปี จะได้รับการพังทลายโดยพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน
พลังงานจะต้องดีกว่าที่เคยเป็นแน่นอน ในระหว่างที่ผมดำรงตำแหน่ง ประชาชนและประเทศชาติ จะต้องได้รับประโยชน์มากที่สุด”
ครับ....
เหตุผลที่ผมยกข่าวทั้งดุ้นให้อ่าน คือต้องการให้ท่านเห็นว่า รัฐมนตรีพีระพันธุ์ไม่ได้ทำแบบ "ผักชีการเมือง"
จะเห็นว่า ท่านคิดครบวงจร ไม่แค่ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป แต่ท่านคิดครบตั้งแต่องค์ความรู้เรื่องติดตั้ง เรื่องอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ เรื่องแบตเตอรี่
นี่คือเครื่องหมายของ "นักปฏิบัติ" ทางการเมือง ไม่ใช่ "นักพูด" เพื่อการเมือง
สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า
"พ่อ" ของ "เจ้าพ่อพลังงาน" จะยอมปล่อยผ่านหรือไม่เท่านั้น!
-เปลว สีเงิน
๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๗
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แบงก์ชาติ 'อย่านึกว่ารอด'!
ประเทศ "พ้นบ่วงมาร" ไปอีกบ่วง! เมื่อวาน (๒๔ ธ.ค.๖๗) ปลัดคลังแถลง กฤษฎีกาตีความทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว
ถ้าไม่รู้ทัน "มันกินเรียบ"
"ตรรกะโจร" บางเรื่องนี่ ใช้ได้นะ เช่นที่พูดว่า "ผลไม้พิษย่อมมาจากต้นไม้พิษ"
'หลวงพ่อทวด' สำเร็จแล้ว
คุยเรื่องบาปมาหลายวัน วันนี้คุยเรื่องบุญกันนิด! แต่ขอเตือนความจำกันก่อน
2 สว. 'พิสิษฐ์-ชาญวิศว์' ปักธงพิทักษ์ รธน. ปกป้องสถาบันฯ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567
เรื่องนี้ 'ทักษิณ' ต้องอ่าน
ใครไม่อ่านวันนี้ ห้ามคุยเป็นแฟนคลับ "เปลว สีเงิน! เนื้อหาทั้งหมด นำมาจาก The room 44 ประทับใจหาดูได้ในช่องยูทูบ
'ให้มันรู้ไปว่าเหนือกรรม'
เข็มยาว "นาฬิกากรรม" กระดิกไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน เข็มสั้น "นาฬิกาเวร" บนข้อมือทักษิณ ริกๆ รออยู่ "แดน ๔" พื้นที่คุมขังและเรือนนอนของผู้ต้องขังชาย!