
“หัวใจติดปีก” ภารกิจสำคัญสำหรับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 หรือช่วงเวลาเว้นวรรคทางการเมือง
โดย อาสาขับเครื่องบินนำทีมแพทย์ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้เสียชีวิตสมองตาย ที่ยินยอมบริจาคอวัยวะ ไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น โดยได้ปฏิบัติการไปจำนวนมาก และ ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด “อนุทิน” ได้ขับเครื่องบินส่วนตัว พาทีมแพทย์ นำโดยนพ.พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เดินทางมา ผ่าตัดนำอวัยวะออกจากร่างผู้เสียชีวิตสมองตายเพื่อนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอการรักษา โดย “อนุทิน”ได้มีโอกาสพูดคุยให้กำลังใจมารดาผู้เสียชีวิต
“อนุทิน” เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้ครบ 10 ปีนับตั้งแต่ครั้งแรก ที่ได้ขับเครื่องบินนำทีมแพทย์ ไปผ่าตัด รับอวัยวะจากผู้เสียชีวิตมาปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอการรักษาโดยภารกิจแรกที่ทำเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมปี 2557 ซึ่งตรงกับวันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ตอนนี้ ทำไปแล้วประมาณ 70 เที่ยวบิน ตนเองจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้นับด้วย ทุกครั้งที่ได้ทำก็รู้สึกอิ่มเอมใจได้ช่วยให้ผู้ที่จากไปได้ทำบุญใหญ่ สำหรับคนป่วย ก็ได้ชีวิตใหม่
ภารกิจในวันนี้ผู้บริจาคอวัยวะเป็นชายอายุ 32 ปีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ต้องขอบคุณ ทางครอบครัว ที่ยินยอมให้การบริจาคอวัยวะนั้นเกิดขึ้น
ซึ่งทางผมได้บอกว่า แม้ร่างกายจะจากไป แต่หัวใจของลูกชายของคุณแม่ยังเต้นอยู่ ถือว่าเป็นบุญใหญ่ครั้งสุดท้ายของน้องแล้ว น้องจะได้ไปเป็นเทวดาบนสวรรค์ แน่นอนว่าผู้สูญเสียย่อมมีความเสียใจ ซึ่งตน ได้อธิบายว่าสภากาชาดไทยจะมีกิจกรรม ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับการ บริจาคอวัยวะมาเจอกัน เพื่อให้ครอบครัวของผู้จากไปได้ฟังเสียงหัวใจ ที่ยังเต้นอยู่ นี่คือกิจกรรม ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความปิติยินดีของผู้ให้และผู้รับ
“อนุทิน” เปิดเผยอีกว่าภารกิจในวันนี้ทีมแพทย์ได้อวัยวะ ได้แก่ หัวใจ 1 ดวง ไต 2 ข้าง และ ดวงตา 2 ดวง ไปช่วยเหลือคนต่อไป
นี่คือ ภารกิจ “หัวใจติดปีก” ที่อยู่เหนือการเมือง และจะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องไม่มีวันหยุด เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยได้มีชีวิตใหม่
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โหวตตามลุงป้อม
ผ่านไปแล้วสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 2 วันเต็มๆ เสียงไว้วางใจฝ่ายรัฐบาลท่วมท้น แถมได้งูเห่ามาโปะอีกหลายตัว
“ศรีสะเกษยั่งยืน”
จังหวัดศรีสะเกษถือเป็นยุทธศาสต์สำคัญทางการเมือง หากพรรคใดช่วงชิงได้ ก็มีโอกาสจะขยายความนิยมครองพื้นที่ในดินแดนอีสานใต้
"กีกี้" เป็นเหตุวุ่นวายทั้งสภา
กลายเป็นประเด็นร้อนฮือฮากลางวงประชุมขึ้นมาทันที เมื่อ”วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เปิดประเด็นร้อนระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2568 โดยเปรียบ
“ไม่เป็นความจริง”
เริ่มวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องมีความตื่นเต้นกันเป็นปกติ แต่จากที่ดูบรรยากาศในศึกซักฟอกครั้งนี้ หลายคนมองว่าไม่เหมือนกับปีก่อนๆ บรรยากาศดูไม่ค่อยเข้มข้น แต่ก็มีความพยายามสร้างบรรยากาศให้ดูฮึกเหิม
มุ่งมั่นเพื่อบ้านโป่ง
ก่อนถึงวันเปิดศึกโหมโรงเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เริ่มขึ้นวันแรก 24 มีนาคม ที่ทั้งฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างเตรียมตัว เตรียมข้อมูลขึ้นจ้อบนเวที และคาดว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันไม่น้อย แต่ขณะเดียวกันในการขับเคลื่อนงานในสภาเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนยังเดินหน้าต่อ
เดี๋ยวโดนปลด
ต้องบอกว่า ลดโทนดุดันกว่าตอนเป็น สส.ไปเยอะ สำหรับ เสี่ยยุ-จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีต สส.กทม. เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย