
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด ...ในวันที่เข้าสู่ช่วงเตรียมนับถอยหลังอำลาปี 2567 ปีมะโรง เพื่อเตรียมต้อนรับปีมะเส็ง งูเล็ก 2568 ทำให้ตอนนี้คนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดเพื่อพักผ่อนปีใหม่กันแล้ว ซึ่งในส่วนของการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตคนและทางเศรษฐกิจ จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมมือกันใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัยในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะต้องท่องไว้ในใจว่า "เมาไม่ขับ” และขับรถ ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง
...สำหรับปีนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีไอเดียจะขยายจาก 7 วันอันตราย เป็น 10 วันอันตราย ที่คงอาจเพื่อต้องการลดสถิติให้ดูน้อยลง ส่วนว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็คงต้องดูตัวเลขที่จะออกมา ซึ่งในส่วนของสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว คือช่วงสิ้นปี 2566 ถึงต้นปี 2567 พบว่าอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.66–4 มกราคม 67) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,288 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 2,307 คน ผู้เสียชีวิต รวม 284 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ กาญจนบุรี (82 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (89 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (19 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 11 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาฬสินธุ์ ชัยนาท ตาก นครนายก ปัตตานี พิจิตร แม่ฮ่องสอน สตูล สมุทรสงคราม และอำนาจเจริญ... ส่วนในปีนี้ สถิติจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น ทุกคนช่วยกันได้ในการทำให้ตัวเลขสถิติลดลง รวมถึงการกวดขันเอาจริงเอาจังของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัด เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจำจังหวัด ที่อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทย เป็นต้น...
ช่วงนี้พรรค รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ตกเป็นเป้าทางการเมืองพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวมาตลอดว่ามีปัญหาเกิดขึ้นภายในพรรค จนพรรคแทบแตก บ้างก็ว่าในพรรคแตกออกเป็นอย่างน้อยสามกลุ่ม รอวันแยกย้าย บ้างก็ลือว่า นายทุนใหญ่พรรคที่แนบแน่นชอบตีกอล์ฟกับทักษิณ ชินวัตร โบกมือลาพรรคแล้วจากที่เคยเป็นกองหนุนให้ เพราะมีปัญหาขัดแย้งกับพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและ รมว.พลังงาน ยิ่งมาเจอทั้งกรณี ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ตัวจริงบอกว่ามีรัฐมนตรีบางคนในพรรคร่วมรัฐบาลทำตัวเป็นอีแอบ หากไม่อยากอยู่ด้วยกันก็ให้เขียนใบลาออกได้เลย และล่าสุดการตั้งฉายาการเมืองของสื่อทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ฉายาที่สื่อตั้งให้พีระพันธุ์คือ พีระพัง พร้อมกับการให้คำจำกัดความที่สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของ รมว.พลังงาน และปัญหาในพรรค รทสช. มันเลยยิ่งทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติตกอยู่ในช่วงโดนโฟกัสเป็นพิเศษว่าในพรรคเกิดปัญหาอย่างหนัก
...ล่าสุดผลการประชุมพรรคเมื่อ 24 ธันวาคม 2567 พรรคให้ อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แจกข่าวสื่อแถลงผลการประชุมประจำสัปดาห์ของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ในวันนี้ทั้งผู้บริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคได้เดินทางมาประชุมร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงและพร้อมใจกันให้กำลังใจนายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ให้ยึดมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป เนื่องจากเข้าใจดีว่า การทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ต้องหนักแน่นแน่วแน่ ไม่หวั่นไหว เชื่อว่าประชาชนพร้อมอยู่เคียงข้าง ซึ่งในที่ประชุมต่างยืนยันจะขออยู่เคียงข้างหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และพร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมกับอ้างว่า นายพีระพันธุ์ได้แจ้งต่อที่ประชุมด้วยว่า ขณะนี้พรรคได้คะแนนนิยมและเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากประชาชน เห็นได้จากยอดเงินบริจาคที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงขอให้ สส.พรรคทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนเดินเคียงข้างไปพร้อมๆ กันกับตนเองและเลขาธิการพรรค เพื่อพัฒนาพรรคให้เติบโต แข็งแกร่ง เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไปให้เหมาะสมกับคำขวัญของพรรคที่ว่า “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง”... นี่คือสิ่งที่คนในพรรค รทสช.พยายามสื่อออกมาเพื่อกลบกระแสข่าวลือต่างๆ ของพรรค รทสช. ส่วนฟังแล้วจะเชื่อหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละคน.
“พายุหมุน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

