แบงก์ชาติ 'อย่านึกว่ารอด'!

ก็ "ไม่ผ่าน" คุณสมบัติ เป็น "กรรมการแบงก์ชาติ" ไม่ได้ เพราะยังเป็น "กรรมการบริษัท" ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธนาคารแห่งประเทศไทย

เป็นอันว่าแผนเพื่อไทยส่ง "๒ กุมารเทพอสูร" เข้า "ยึดแบงก์ชาติ" ล้มเหลว

แล้วใคร คือ "คนเก่ง" แต่ "นิยมคนโกง" รายต่อไป?      ที่ "คลัง" จะเฟ้นส่งให้ "คณะกรรมการสรรหา" ไปประกอบพิธีกรรมประเคนโจร?

"สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์" ทำหน้าที่ประธานสรรหาบอร์ดตามเดิมกระมัง?

ก็ไม่อยากพูดลงลึกนะ...สถิตย์

เอาเป็นว่าเป็น "สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์" อดีตปลัดคลัง  อดีต สว.นั่นน่ะ ประเสริฐแล้ว จงรักษาภาพนั้นไว้

อย่าให้ทรามในทะลักนอกจนชาวบ้าน-ชาวเมืองต้องประณามว่า "สถิตย์-ทาสทักษิณ" คนกินบ้าน-โกงเมืองเลย!

พูดถึงทักษิณ แรกๆ กระมิดกระเมี้ยนในบท "พ่อนายกฯ"

แต่ตอนนี้ อ้าซ่าเต็มตัวในบท "นายกฯ ตัวพ่อ" กร่างคับบ้าน-คับเมือง

เห็นบอก ๒๖ ธันวา.นี้ จะพบนายกฯ มาเลย์ "นายอันวาร์" ที่ตั้งให้ตัวเองเป็น "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน"

จะพบกันที่ไหน ที่จันทร์ส่องหล้าหรือที่ภาคใต้ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ไม่กล้าไปพบกันที่ "ตากใบ" นราธิวาส หรือที่ "มัสยิดกรือเซะ" ปัตตานีแน่!

มีข้อสังเกตนิด ทักษิณอยู่ในสถานะ "จำเลย" ต่อศาลอาญา ในข้อกล่าวหา ผิดตาม "มาตรา ๑๑๒"

ได้ประกันตัวระหว่างคดี และศาลห้ามออกนอกประเทศ

ดังนั้น การที่นายกฯ มาเลย์เลือกทักษิณเป็น "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน" ที่เขาจะรับตำแหน่งต่อจากลาว ต้นปี ๖๘

ถือเป็น "รสนิยม" ในการคบคนประเภทนั้นของ "นายอันวาร์" ที่มีภาพซ้อนซับ

ที่เราควรจับตา คือ....
ต้องคอยดูว่า ทักษิณจะใช้การเป็น "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน" ไปยื่นต่อศาล ในการขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่?

ปี ๒๕๕๑ ทักษิณอ้างต่อศาลว่า...

จีนเชิญไปงาน "พิธีเปิดโอลิมปิก" ศาลอนุญาต แต่กว่าจะกลับ ทักษิณใช้เวลาเดินทาง ๑๗ ปี!

ฉะนั้น ปี ๖๘ ทักษิณจะใช้มุก "ประธานอาเซียน" เชิญไปให้คำปรึกษาที่มาเลย์ เพื่อยื่นขออนุญาตศาล เดินทางออกนอกประเทศหรือไม่?

นั่นใช่ว่า ประวัติศาสตร์จะย้อนรอยเดิมอีกไม่ได้!

เพราะต้นปีหน้า ทั้งผลสอบเรื่องชั้น ๑๔ จากแพทยสภา และจาก ป.ป.ช. รวมทั้งพฤติกรรม "ผลาญบ้าน-ประจานเมือง" ของรัฐบาลเพื่อไทย

มันอาจเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ที่ประชาชนทนแบกต่อไปไม่ไหว พากันฮือแหกอก ก็มีความน่าจะเป็น!

"ลูก" ไปร่วมประชุมกลุ่มประเทศอาเซียน

"พ่อ" อ้างไปทำหน้าที่ "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน"

ระยะทางจากมาเลย์กลับถึงไทย...มันไกลโขนะ

ถึงตอนนั้น "พ่อ-ลูก" อาจต้องใช้เวลาอีก ๑๗ ปี กว่าจะเดินทางกลับไทย ทำเป็นเล่นไป

เพราะทุกการปล้น ไม่มีโจรรายไหน ไม่มีแผนเป็นช่องทางหนี!

ทีนี้ ย้อนกลับเรื่องเดิม เหตุใด "นายพิชัย ชุณหวชิร" ขุนคลัง "ร่างทรงทักษิณ" จึงไม่ลดราวาศอก ที่จะคัดทาสตระกูลชิน เข้าไปเป็น "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"?

ต้นเดือน ขุนคลังพิชัย แย้มว่า...             

"มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ระยะที่ ๒ ภาครัฐ พิจารณาเติมเงินเข้าไปเกือบ ๑ ล้านล้านบาท ผ่านกลไกสถาบันการเงินของรัฐ

ส่วน 'ธนาคารพาณิชย์' จะหารือกับ 'ธนาคารแห่งประเทศไทย' เพื่อหาแนวทาง การให้สินเชื่อผ่อนปรน

'ภาครัฐ' มีงบประมาณ เช่น 'เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ' ที่มีกว่า ๔-๕ ล้านล้านบาท

ก็จะหาวิธี 'นำออกมาใช้' เพื่อดูแลประชาชน"

"คลังถังแตก" รัฐบาลเพื่อทักษิณ คิดชั่ว..คือชั่วแล่น จะเข้าไปล้วงควัก เอา "เงินทุนสำรองฯ" ขั้นต้น ๑ ล้านล้านบาท มาทำ "ประชานิยม"

แจกด้วย แหลกด้วย ซื้อเสียงล่วงหน้าด้วย มันดีแท้!

"คนรู้ทัน" ออกมาโวย ขุนคลังพิชัย แสยะยิ้มฟันขาว  ตาซ่อนเล่ห์ แต่ตีหน้าซื่้อว่า

"เข้าใจผิด เราไม่ได้จะเอาเงินสำรองฯ ออกมาใช้ แต่เป็นการนำ 'สภาพคล่อง' ที่มีอยู่ในระบบออกมาใช้

'สภาพคล่อง' หมายถึงเงินที่ 'แบงก์นำไปเก็บไว้ที่ธปท.' ซึ่ง ธปท.เขามีวิธีแปลงไปเป็นอะไรก็ได้ ไม่ใช่เป็นเงินสำรองฯ

แต่จะเติมเม็ดเงินลงไปเท่าไหร่และเติมอย่างไร รอประเมินผลมาตรการแก้หนี้ก่อน"

เข้าใจไม่ผิดหรอกครับ....

เพียงท่านยักเยื้องภาษา ทำให้คนไม่รู้ หลงเชื่อตามว่า "สภาพคล่อง" กับ "เงินทุนสำรองฯ" มันคนละส่วนกัน!

มัน "คนละส่วนเดียวกัน" นั่นแหละครับ

ขุนคลังพิชัยตะหาก พอเข้ามารับใช้ทักษิณออกหน้าฉากละก็ เป๋เลยนะครับทั่น เป๋จนสับสนเลอะเลือนว่า

"เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" กับ "เงินงบประมาณ" ที่รัฐบาลเพื่อไทยผลาญอยู่ตอนนี้ เป็นส่วนเดียวกัน!

ไม่ใช่นะครับ "งบประมาณ" มันเรื่องของคลัง

ส่วน "เงินทุนสำรองฯ" มันเป็นเรื่องของแบงก์ชาติ

"เงินที่แบงก์พาณิชย์นำไปเก็บไว้ที่แบงก์ชาติ" แล้วแบงก์ชาติ แปลงเป็น "สินทรัพย์" ประเภทต่างๆ นั่นเป็นการบริหารในส่วนเงินทุนสำรองฯ

เพื่อคงความเสถียรทางเชื่อมั่นสถานะการเงินประเทศ  สำคัญต่อการค้าขาย-การลงทุนระหว่างประเทศ ว่าไทยมีเงินสำรองฯ เป็นสิบๆ เท่า

เหมือนเจ้ามือไพ่ หน้าตักหนา ลูกค้าคนแทง ก็มั่นใจ ว่าแทงถูกแล้ว เจ้ามือมีเงินจ่ายแน่ ใครๆ ก็จะแห่มาล้อมวงนี้

"นำสินค้าเข้า" ต่างชาติก็มั่นใจ ว่าไทยมีเงินสกุลตามต้องการจ่ายค่าสินค้าให้

"ส่งสินค้าออก" พ่อค้าไทย ก็นำสกุลเงินต่างชาติที่ได้มาแลกเป็นเงินบาทได้ไม่อั้น

เมื่อเงินสำรองฯ หนา เครดิตก็แน่น นักลงทุนหรือนักท่องเที่ยว ก็มั่นใจในค่าของเงินบาท

นำเงินเข้ามาแลกเป็นบาท หรือเอาบาทมาแลกเป็นสกุลต่างชาติกลับไป ก็สบายใจ หายห่วง ในความเสถียร

ที่พวกจิ้งจอกการเมืองพูดว่า "เก็บเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไว้ทำไมเยอะแยะ ควรเอาไปทำประโยชน์ให้งอกเงย" นั้น

พูดเพื่อหวังงาบ ไม่ใช่เพื่องอกเงย!

ชื่อก็บอก "เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" ฉะนั้น ต้องมีพร้อมและมีพอต่อทุกกรณี ทั้งยามปกติและยามฉุกเฉิน

มาแลกปุ๊บ ต้องมีให้ปั๊บ

ถ้ามีไม่พอ หรือมีติดๆ ขัดๆ ต้องบอกเขาว่า...รอแป๊บนะ เดี๋ยวพายุหมุนจะหอบเงินมาให้

ฉิบหายเลย!

เงินบาทพัง เสถียรประเทศก็พัง เมื่อทั้งโลก รู้ว่าประเทศไทย "เงินทุนสำรองฯ" บ๋อต๋อ เครดิตไม่มี ใครจะค้า-จะมาลงทุน กับประเทศ "ถังแตก" ล่ะ?

"เงินบาท" ที่ศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก เพราะทุกบาทมี "เงินทุนสำรองฯ" เต็มถัง "หนุนหลัง" เต็มตามราคา

ก็จะกลายเป็น "แบงก์กาโม" ไปเลย!

ก็ต้องขอกู่ร้องให้ก้องโลกเพื่อให้คนไทยทุกคนได้รู้ไว้ชัดๆ ตรงนี้ด้วยเลย ว่า

๑ ในจำนวนสินทรัพย์ ที่เป็น "เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" นอกจากสกุลเงินต่างๆ, พันธบัตร และอื่นๆ แล้ว

"ทองคำ" ก็อยู่ในส่วนหนึ่งของ "เงินทุนสำรองฯ" ด้วย

นั่นคือ ทองคำ "หลวงตาพระมหาบัว" วัดป่าบ้านตาด กว่า ๑๓ ตัน ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกกว่า ๑๐ ล้านดอลลาร์

ก็เป็น "เงินทุนสำรองฯ" ที่รัฐบาลเพื่อไทย กะลิ้ม-กะเหลี่ย หวังเข้าไปเลียๆ แล้วงาบนั่นด้วย!

มีเงิน เขาเรียกว่าน้อง มีทอง เขาเรียกว่าพี่ มีทั้งเงิน-ทั้งทอง นับเป็นน้อง-เป็นพี่ เรียกว่า "พ่อมหาจำเริญ" คนก็ไม่ดูชา หมาก็ไม่ดูถูก

เนี่ย...

ตราบใดที่ตีนเรายังไม่ใหญ่ พิมพ์กระดาษเป็นดอลลาร์ให้คนทั้งโลกบูชา โดยไม่มีสินทรัพย์ใดๆ เช่นทองคำหนุนหลัง ได้เหมือนสหรัฐอเมริกาละก็

อย่าสะแอ๋ง เข้าไปล้วงควักเอา "เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" ไปผลาญ ไปแผล็บๆ ตามสโลแกน "โกงเอามาแบ่งกัน" เป็นอันขาด!

"แบงก์ชาติ" รอดจาก "ไฮยีนา" รอบนี้ไปได้ ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่ง เพราะ ๔ อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ คนแบงก์ชาติ กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม

ออกมาเป็น "กำแพงเหล็ก" กั้น!

ก็ดูยกต่อไป ว่า "ไฮยีนา" ฝูงนี้ จะส่งคนเล็ดลอดเข้าไปในคอกแบงก์ชาติ นั่งตำแหน่ง "ประธานบอร์ด" ได้สำเร็จหรือไม่?

ระวัง...ทองคำ "หลวงตาบัว" มันเอาแน่!

-เปลว สีเงิน

๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๗

คนปลายซอย