ถ้าไม่รู้ทัน "มันกินเรียบ"

"ตรรกะโจร" บางเรื่องนี่ ใช้ได้นะ

เช่นที่พูดว่า "ผลไม้พิษย่อมมาจากต้นไม้พิษ"

ผมตรอง เออ....ก็จริงของเขาแฮะ!

อย่าง "ตัวพ่อ" มันก็คือ "ต้นไม้พิษ" ดีๆ นี่เอง

ฉะนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ตัวลูก" ไม่ใช่ "ผลไม้พิษ"!

เมื่อต้นพิษและลูกพิษอยู่รวมกัน จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เรียก "ผีห่าเข้าธานี" ตามกาพย์พระไชยสุริยา ดังว่า

"ผีป่ามากระทำ มรณกรรม ชาวบุรี

น้ำป่าเข้าธานี ก็ไม่มี ที่อาศัย

ข้าเฝ้าเหล่าเสนา หนีไปหา พาราไกล

ชีบาล่าลี้ไป ไม่มีใคร ในธานี"

"พ่อประทับทรงลูก-ลูกประทับทรงพ่อ" นัวเนียในบท "ผู้นำ" จนผมแยกไม่ออก ตกลง..."ลูกหรือพ่อ" กันแน่ (วะ)....

ที่้เป็น "ผู้นำตัวจริง" วันนี้?

เวียนหัว ใครไม่อ้วก....ผมอ้วก!

ตัวพ่อ โง่เจ้าเล่ห์ ส่วนตัวลูก โง่ตอหลด ตัวพ่อพูดที่ไหน ก็ชมอวดชาวบ้านว่าลูกตัวเอง เก่ง ฉลาดกว่าพ่อ รับการถ่ายทอดวิชามาร "ผลาญบ้าน-ผลาญเมือง" จากพ่อได้เร็ว

ก็แหงละ.......

ลูกพิษ จากต้นพิษ ย่อมรับการถ่ายพิษสู่กันตามพันธุกรรมเป็นธรรมดา

ทุกวันนี้ ภาพประเทศไทยที่ปรากฏ.....

ตำรวจปราบ "โจร-บ้านใหญ่" ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน             "อำนาจรัฐ" อยู่ใต้อุ้งตีน "โจร-ครอบครัวใหญ่" มันกร่าง เหิมเกริม แผ่อิทธิพล หวังกลืนทั้งแผ่นดินเป็น "เขตแดนอำนาจ" ของมัน ภายใน ๑๗ ปี

ท่ามกลางข้าเฝ้าเหล่าเสนาและประชาชี ต่างยินดี ทุกถิ่นที่ ซุกหัวให้ อยู่ใต้ตีน โจรครอบครัวใหญ่

ซุกคราบผู้ช่วยหาเสียง ไม่เลี่ยงหลบเจตนา ตีป่าเพื่อยึดทั้งท้องถิ่นแลสภาใหญ่

มุ่งแก้กฎหมาย จากราชอาณาจักรไทย แบ่งกันเอาไปครอง แล้วร้องหา...ประธานาธิบดี!

พูดถึงเรื่องแก้กฎหมาย ไม่ทราบว่า ชาวบ้าน-ชาวเมือง รู้ตัวหรือเปล่า หวุดหวิดเสียเมืองให้ "โจราประชาธิปไตย" เมื่อสัปดาห์ก่อน

เคราะห์ดีที่บ้านเมืองมี "สว.สีน้ำเงิน" ชุดนี้!

ท่ามกลางวิปริต-วิปลาสการเมือง เพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล กลับสมคบกับประชาชน พรรคแกนนำฝ่ายค้าน          ปกติจะตรวจสอบอยู่คนละด้าน

แต่เรื่อง "พ.ร.บ.ประชามติ" ประตูด่านแรก จะไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ฉีกฉบับปราบโกง ตั้ง ส.ส.ร.เขียนใหม่เป็น ฉบับเอื้อโกงและการนิรโทษกรรม

แกนรัฐบาลกับแกนค้าน กลับ "ผสมพันธุ์" กันกลางถนน

จะเอากติกา "เสียงข้างมากชั้นเดียว" ในการทำประชามติให้จงได้

สมมุติ ผู้มีสิทธิออกเสียง ๑ แสนคน แต่ออกมาใช้สิทธิแค่ ๑ หมื่นคน "เพื่อไทย-ประชาชน" ให้ถือว่า

จำนวนนั้นเป็น "ประชามติ" ตามหลักประชาธิปไตยแล้ว

ฝ่าย สว.สีน้ำเงิน ยืนยันหนักแน่น...ไม่ได้

ประชามติที่ถูกต้อง มันต้อง "เสียงข้างมาก ๒ ชั้น"

คือต้องข้างมากทั้ง "ผู้มีสิทธิออกเสียง" และข้างมากทั้ง "ผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียง"

สมมุติ ผู้มีสิทธิออกเสียง ๑ แสนคน จะต้องออกมาใช้สิทธิ ๕ หมื่นคนขึ้นไป

และในจำนวน ๕ หมื่นนั้น.....

ประชามตินั้นจะผ่าน ก็ต้องได้เสียงมากกว่า ๒๕,๐๐๐ เสียงขึ้นไป นี่คือประชามติตามหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

สรุป รัฐบาล+ฝ่ายค้าน แพ้, วุฒิสภา ชนะ

"ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ" ต้องถูกแขวนไว้ ๖ เดือน!

ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รัฐสภาไทยเลยก็ได้นะ ที่ "วุฒิสภา" ถ่วงดุลสภาผู้แทนสำเร็จ ใช้อำนาจ “ยับยั้ง” การออกกฎหมาย "สนองอำนาจ" ได้สำเร็จ

ผลของมันคือ การถูกแขวน ๖ เดือน แม้สภาผู้แทนจะนำกลับมาใช้ได้หลังจากนั้น แต่มันก็ทำให้รัฐบาล "ผิดล็อก-ผิดแผน"

ที่จะตั้ง ส.ส.ร.เขียนรัฐธรรมนูญ ฉบับเอื้อโกงและนิรโทษกรรมเหมาเข่งไปในตัวให้เสร็จทันใช้เลือกตั้งใหญ่ ปี ๒๕๗๐

แน่นอน...

ถ้าสำเร็จตามแผน ที่เห็นชัดๆ ทักษิณกลับเข้าลงการเมืองได้ เป็นหัวหน้าพรรค ลงสมัคร สส.ได้ เป็นนายกฯ ได้

ประเทศไทย "เสร็จ" เบ็ดเสร็จ "ตระกูลชิน" สมบูรณ์แบบไปเลย!

แต่เมื่อถูกแขวน ๖ เดือน จะครบ ก็ตกมิถุนา.๖๘ อยู่ในช่วงสภาปิดสมัยประชุมอีก

สรุปถึงเอามาใช้เปิดประตูบานแรกได้ ก็ไม่ทันแล้ว

เพราะกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ กว่าจะทำประชามติ ผ่านหรือไม่ก็ยังไม่แน่ กว่าจะตั้ง ส.ส.ร.กว่าจะเสร็จ และกว่าจะออกกฎหมายลูก

ปี ๒๕๗๐ ก็ยังไม่เสร็จ...

ก็ต้องใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกงปัจจุบัน เป็นกติกาเลือกตั้ง ซึ่งทักษิณ ธนาธร พิธา และ ฯลฯ ก็ยังลงการเมืองไม่ได้!

นี่เป็นภาพตามตารางในปฏิทิน แต่ผมไม่สนเงื่อนนั้นเท่าไหร่ เพราะผมเชื่อแบบเลื่อนลอยของผมเองว่า

ยังไงๆ "เพื่อไทย-ประชาชน" ก็รวมหัว ฉีกแล้วเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ปูทาง "ครองอำนาจประเทศ" ไม่สำเร็จ

อีกอย่าง รัฐบาลไม่ต้องหวังรอถึงเดือนมิถุนา.หรอก แค่เดือนพฤษภา.๖๘ ทั้งทักษิณ ทั้งแพทองธาร ทั้งรัฐบาลเพื่อไทย

รักษาลมหายใจอยู่ให้ถึงซะก่อนเหอะ!?

ที่พูดกันว่า "กรรม...คือการกระทำ บ่งบอกเจตนา" มันจริงแท้

คือถ้าสุจริตใจและจริงใจ จะต้องไปร่างประชามติใหม่เพื่ออะไร ในเมื่อทุกวันนี้ ก็มี พ.ร.บ.ประชามติใช้อยู่แล้ว

คือ "พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ" พ.ศ.๒๕๖๔

แต่กลัวแพ้ใช่มั้่ยล่ะ ถึงต้องร่างใหม่

ในเมื่อ มาตรา ๑๓ พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับปัจจุบัน ก็ล็อก ๒ ชั้น เหมือนที่ "สว.สีน้ำเงิน" ยืนยันเจตนานั่นแหละ

มาตรา ๑๓ บอกว่า...

"การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวน "เกินกึ่งหนึ่ง" ของผู้มีสิทธิออกเสียง

และมีจำนวนเสียง "เกินกึ่งหนึ่ง" ของ "ผู้มาใช้สิทธิออกเสียง" ในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น"

เห็นมั้ย กรรมส่อเจตนาไม่สุจริตชัดๆ! ๒

"วุฒิสภา" ที่หยามกันถึงที่มา เอาเข้าจริง "สว.สีน้ำเงิน" ก็ทำหน้าที่เป็น "ปราการด่านหน้า" แทนประชาชนได้สำเร็จ

ยันเบาๆ เปรี้ยงเดียว "แดง-ส้ม" หงายท้องจมส้วมไปเลย!

แต่พวกแดง/ส้มเขารู้....
ในประเทศที่มากด้วย "คนตาบอด" ไม่กลัวเสือ รอแต่เงินแจกและประจบอำนาจ ไม่โง่ แต่ไม่สนว่ามันจะต้มยำทำแกง

บ้านเมืองอย่างไร ขอให้เอามาแจกเป็นใช้ได้

ฝ่ายโจราประชาธิปไตยจึงเหิม ด้วยมั่นใจ

"แยกกันตี" เพื่อรวมกัน "ครองเมือง" ในอนาคต ผ่านช่องทางหลากหลาย       

ขึ้นปีใหม่ มันก็บุกโจมตีเลย

๑๔-๑๕ มกรา.๖๘ มีประชุม "รัฐสภา" ว่าด้วยเรื่อง "ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม" ทั้งที่บรรจุระเบียบวาระแล้ว      และทั้งที่เสนอเพิ่มเติมแบบ "รายมาตรา" เข้ามาอีก ๒๐ ฉบับ

ก็จะเห็นว่า สภาชุดนี้ ตั้งแต่เข้ามา มีแต่ตั้งหน้า-ตั้งตาแก้รัฐธรรมนูญ เปิดประตูสู่ "อำนาจแดง/ส้มครองเมือง" อย่างเดียว!

 "พรรคเพื่อไทย" เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ๖ ประเด็น

ทั้งหมด "ทนโท่" มาตราที่แก้ ล้วนแต่แก้ให้พวกโกงกลับเข้ามาทั้งนั้น รวมทั้งด้านลดทอน "มาตรฐานทางจริยธรรม"

อย่าง แก้ไขมาตรา ๙๘ (๗) ที่ห้ามผู้เคยรับโทษจำคุกโดยพ้นโทษยังไม่ถึง ๑๐ ปี สมัคร สส.หรือเป็นรัฐมนตรี

แก้ (4) (5) มาตรา ๑๖๐ คุณสมบัติรัฐมนตรี ว่าด้วย

"ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์"

และว่าด้วย "พฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง"

แก้มาตรา ๒๑๑ ว่าด้วยเสียงข้างมากในการทำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

แก้มาตรา ๒๓๕ ที่ปัจจุบันให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งโดยไม่มีกำหนดเวลา และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งอีกไม่เกิน ๑๐ ปี

เพื่อไทยแก้เป็น “ให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งมีกำหนด ๕ ปี แต่ไม่มีการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง

แก้หมวด ๑๕ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเพิ่มเป็นวรรคสองของมาตรา ๒๕๕

ให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ "สามารถทำได้"

โดยแก้ (๘) ของมาตรา ๒๕๖ เดิมกำหนดว่าการแก้ไขในเรื่องต่างๆ ทั้งการแก้ไขหมวด ๑ หมวด ๒

การแก้ไขเกี่ยวกับคุณสมบัติ อำนาจหน้าที่ขององค์กรต่างๆ ก่อนนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติก่อน

ก็แก้เป็น เฉพาะหมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษัตริย์ และการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น ที่ต้องจัดทำประชามติ

นอกนั้น ไม่ต้องทำประชามติทั้งสิ้น แม้กระทั้งกฎหมายการเงิน!

เรียกว่า "เอาทุกดอก" ปลดล็อกทั้งหัวหน้าคอกและสมุนในคอกให้กลับมาลงการเมืองในการเลือกตั้งปี ๒๕๗๐ ให้จงได้

บ้านเมือง "อยู่ปากเหว" ยังพอเห็น

แต่อยู่ใน "ปากหมา" ในร่างเทวดาเหนือคุก คนตาสว่างเห็น แต่คนตาบอดซึ่งมีจำนวนมาก มองไม่เห็น

ผมทำอะไรไม่ได้ นอกจากกรวดน้ำให้เท่านั้น!.

-เปลว สีเงิน

๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรื่องนี้ 'ทักษิณ' ต้องอ่าน

ใครไม่อ่านวันนี้ ห้ามคุยเป็นแฟนคลับ "เปลว สีเงิน! เนื้อหาทั้งหมด นำมาจาก The room 44 ประทับใจหาดูได้ในช่องยูทูบ

'ให้มันรู้ไปว่าเหนือกรรม'

เข็มยาว "นาฬิกากรรม" กระดิกไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน เข็มสั้น "นาฬิกาเวร" บนข้อมือทักษิณ ริกๆ รออยู่ "แดน ๔" พื้นที่คุมขังและเรือนนอนของผู้ต้องขังชาย!

สัประยุทธ์ 'ธรรมะ-อธรรม'

"กฎหมาย" มีไว้สร้างสมดุลทาง "สังคมเป็นธรรม" แต่ทุกวันนี้ คนใน "๓ สถาบันอำนาจ" คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ "บางคน"