ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง ร้องว่าถูกกระทบสิทธิจากการแต่งตั้งโยกย้าย แล้ว ก.พ.ค.ตร.มีคำวินิจฉัยให้ ตร.ยกเลิกคำสั่งในส่วนของผู้ร้องทุกข์ ที่ตำแหน่งถูกกำหนดให้อยู่เพียงในกลุ่มสายงานอำนวยการและสนับสนุน (สายงานนักบิน) ให้ดำเนินการแก้ไขคำสั่งดังกล่าวใหม่ โดยกำหนดให้ตำแหน่งของผู้ร้องทุกข์อยู่ในกลุ่มสายงานบริหารเพิ่มเติมอีกหนึ่งกลุ่มสายงานดังกล่าวข้างต้น และให้ตำแหน่ง นักบิน (สบ 5)
ในสังกัดกองบินตำรวจ เป็นตำแหน่งสูงสุดของตำแหน่งในสายงานการบิน เพื่อรองรับให้ผู้ร้องทุกข์สามารถเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บังคับการในกลุ่มสายงานอำนวยการและสนับสนุนในหน่วยงานอื่นได้ เล่นเอา บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี คิ้วขมวด เพราะเมื่อจัดเรียงบัญชีอาวุโสใหม่แล้ว ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งก็ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถ เรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนตำแหน่งว่าง จำนวนตำแหน่งว่างที่เหลือ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน ซึ่งกลุ่มอาวุโสสายงานนักบินมีอาวุโสสูงอยู่ลำดับต้นๆ ถึง 11 ราย จาก 37 ตำแหน่งตามหลักอาวุโส 50% ของตำแหน่งว่าง 74 ตำแหน่ง ทำให้เหลือเก้าอี้ให้ตำแหน่งทั่วไปที่อยู่ในอาวุโสเลื่อนขึ้นเพียง 26 เก้าอี้ ๐
ที่สำคัญปัญหาวุ่นๆ ก็เกิดตามมาตรงบัญชีแต่งตั้ง "นายพลเล็ก" ระดับ รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) ถึง ผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2567 บางส่วนได้จัดวางคน วางตำแหน่งกันไปบ้างแล้ว เมื่อกลุ่มสายนักบินเข้ามากินอาวุโสตามโควตาอาวุโส 50% ลำดับอาวุโสตำแหน่งทั่วไปเดิมก็ต้องถูกถอยร่นหลุดวงอาวุโสไป 11 ราย ซึ่งจะมีใครหลุดบ้างต้องไปดูการจัดเรียงอาวุโสใหม่ ตามที่ บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบช.สกพ. แจ้งเรื่องการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เพื่อรอการขยับลำดับบัญชีอาวุโสใหม่อีกครั้ง แต่นั่นก็ทำให้แวดวงสีกากีสะเทือน ถึงขนาดตอนนี้เริ่มมีรายการ "เตะตัดขา" นำลำดับอาวุโสตำรวจระดับ รองผบก. ประเภทตำแหน่งเฉพาะทางสายงานนักบิน มาส่งต่อกันว่อนโซเชียล ในท่วงทำนองหลายคนประเมินตั้งแต่ (สบ 1-สบ 5) ไม่ผ่านงานบริหารกองบินตำรวจ เหมือนส่งสัญญาณเป็นนัยเรื่องคุณสมบัติในการแต่งตั้ง ก็ยิ่งทำให้บิ๊กต่ายต้องรอบคอบในการพิจารณา ๐
แม้ล่าสุด วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่ "ผบ.ต่าย" นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร. แทน นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ลาราชการ 1 วัน จะไฟเขียวขยายระยะเวลาการคัดเลือกแต่งตั้งตำรวจระดับ รอง ผบช.-ผบก.ออกไปถึงวันที่ 15 ม.ค. 2568 เช่นเดียวกับปมร้อนกรณีนักบิน (สบ 5) ตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร. ทาง บิ๊กปู้-พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร. บอกแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นเรื่องเฉพาะตัวในเรื่องของผู้ร้องทุกข์ เรื่องของการจัดเข้ากลุ่มสายงาน ก็มีการดำเนินการให้เป็นการเฉพาะตัว ในส่วนของคำวินิจฉัยที่เป็นเรื่องของภาพรวม ในเรื่องของการพิจารณาตำแหน่งนักบินในเรื่องของความเจริญก้าวหน้า เป็นเรื่องของภาพรวมและได้ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร.ในกรอบที่สามารถดำเนินการได้ ในส่วนที่เป็นกรอบภาพรวมที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้จำกัดเรื่องระยะเวลา ก.ตร.ก็ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาในภาพรวม...หากถอดรหัสตามคำพูด บิ๊กปู้ โอกาสในการแต่งตั้งนายพลเล็กรอบนี้ จะเยียวยาเฉพาะผู้ร้องเพียงตำแหน่งเดียว ส่วนที่เหลืออีก 10 นักบินที่อยู่ในบัญชีอาวุโสน่าจะยังไม่มีผลในการแต่งตั้งครั้งนี้ เหมือนคำที่บอก "..ไม่ได้จำกัดเรื่องระยะเวลา ก.ตร.ก็ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เรียกว่าตัดจบไปก่อน
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัฐบาลแถลงผลงานที่สถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีทีพอดี ทำให้รัฐมนตรีต้องไปรวมตัวรับฟังและรับคำสั่งการจากนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้รับมอบหมายงาน ทำให้ "รมต.อ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม จึงได้มอบหมายให้ "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการทดสอบและประเมินค่าการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ที่สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรีแทน โดยในพิธีนอกจาก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.แล้ว ยังมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร รอง ผบ.ทบ. ไปร่วมชมการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศของฝูงบิน หน่วยรบ และส่วนสนับสนุน โดยงานนี้ “บิ๊กเล็ก” ชื่นชมในศักยภาพของ ทอ. พร้อมสนับสนุนขีดความสามารถของเหล่าทัพให้ก้าวทันกับการพัฒนาของกองทัพรอบๆ บ้านเรา
รุ่งขึ้น "บิ๊กเล็ก" เดินทางไปกองทัพไทย ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ หลังจากที่ รมต.อ้วนได้ลงนามมอบหมายงาน อำนาจหน้าที่ เพื่อช่วยในการกำกับให้เป็นไปตามนโยบายเฉพาะของ รมว.กลาโหม 11 ประการ หลังจากพิสูจน์ทราบผลงานของตนในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแม่สาย จ.เชียงรายมาแล้ว ล่าสุด ได้รับมอบหมายให้ไปดูร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ฉบับที่เสนอโดยกระทรวง เพื่อหาจุดตรงกลางให้เจอระหว่าง กระแสสังคม ฝ่ายการเมือง และ การดำรงอยู่ของกองทัพอย่างมีศักดิ์ศรี โดยขณะนี้ร่าง กม.อยู่ที่คณะกรรมการกลั่นกรอง กม.ก่อนเข้า ครม. ซึ่งมี “ภูมิธรรม” เป็นประธาน และ "บิ๊กเล็ก" นั่งเป็นกรรมการอยู่ด้วย เพื่อดูประเด็นถ้อยคำในหมวดของการสกัดกั้นการปฏิวัติ การเขียนหลักเกณฑ์แต่งตั้งทหารชั้นนายพลใน กม.หลัก จำนวนบอร์ดปรับย้าย จะต้องมีการเขย่าอีกรอบ รวมถึงดูปฏิกิริยาในสภาฯ เมื่อ กม.เข้าสู่การพิจารณา ก็จะรู้ว่างานนี้มีการ "จับมือ-หลิ่วตา" ของพ่อลูกที่แสดงอาการตกใจเมื่อเห็นการเสนอ กม.ของลูกพรรคหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าผลโหวตหลังจากรับฟังความคิดเห็น เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยในการมัดคอกองทัพให้อยู่หมัด ๐
ไม่ได้หายไปไหน สำหรับ "บิ๊กปู" พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก สวมหมวกรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เดินทางไปกองอำนวยการภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อติดตามการปฏิบัติงานในพื้นที่ และร่วมหารือรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั้งในส่วนของประชาชนและกำลังพลในพื้นที่ ในด้านการปฏิบัติงาน เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและไม่ประมาท เพื่อลดการสูญเสียทุกรูปแบบ สั่งการให้วางมาตรการ และแนวทางในการทำงานให้รัดกุม แม้สถานการณ์จะดีขึ้นในภาพรวม แต่เป้าหมายหลักคือเจ้าหน้าที่ก็ถูกลอบยิง วางระเบิด จนเกิดการสูญเสียไปหลายนายในช่วงที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น