ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่

กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน

ใครที่ไม่ได้เฉียดไปในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาล่ะก็ ขอชวนเชิญให้ไปเยือนใหม่อีกสักครั้ง แล้วจะรู้สึกตืนตื่นตาตื่นใจ ว่า นี่มันถนนเยาวราชหรือบรรทัดทองกันแน่

เรียกว่าตามซอกตามมุม มีร้านค้าขายของอร่อยเยอะแยะไปหมด ที่สำคัญคือ แทบทุกร้านมีคนเข้าคิวรอยาวเหยียด 

ทำให้มนุษย์ป้ารู้สึกทึ่งสุดๆ เพราะตอนเด็กๆ เคยอาศัยอยู่ในแถบนั้น สองฟากถนนบรรทัดทองส่วนมากจะเป็นร้านค้าอะไหล่ หรือไม่ก็เป็นเหมือนสาขาย่อยๆของเซียงกง สลับไปกับร้านขายเสื้อผ้ากีฬา ร้านปรินต์เสื้อ อิงค์เจ็ต รับทำไวนิล โปสเตอร์ อะไรเทือกนั้น

จะมีร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อ ก็เป็นแค่ตึกแถวห้องเดียว ซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวบ้าง ข้าวมันไก่บ้าง ซึ่งแต่ละร้าน ในช่วงก่อนโควิดระบาดก็จะบอกว่า เตรียมปิดร้านในเร็วๆ นี้ เพราะอายุอานามก็มากแล้ว ลูกหลานส่วนใหญ่ก็มีงานทำเป็นหลักเป็นฐานไม่สนใจที่จะรับช่วงต่อค้าขายอาหารที่เป็นงานหนัก

แต่หลังโควิดนี่สิ อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไป ลูกหลานที่เคยคิดว่าไม่เอาแล้วกับอาชีพเก่าๆ ของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย กลับหวนคืนสู่สามัญ เลือกที่จะใช้ตึกแถวดั้งเดิมของบรรพบุรุษในการปรับรูปแบบแล้วเปิดร้านที่เอาใจวัยรุ่นกันอย่างคึกคัก

เมื่อเจนใหม่ลงมือทำต่อยอดในสิ่งที่รุ่นพ่อแม่ทำ วิธีคิดวิธีทำแตกต่างเข้ากับยุคดิจิทัล วันนี้ บนถนนบรรทัดทองจึงเป็นจุดเช็กอินที่น่าสนใจอย่างมาก ขนาดมนุษย์ป้าไปอยู่แถวนั้น ยังให้รู้สึกว่า อยู่ผิดที่ผิดทางแล้วกระมัง

อย่างไรก็ตาม เราก็ยังฝ่าฟันเข้าไปถึงร้านอาหารเก่าแก่ที่เรากินเมื่อตอนเป็นเด็กบนถนนสวนหลวงได้ ซึ่งเจ้าของร้านก็ยิ้มแย้มแจ่มใส บอกว่า เดี๋ยวนี้เพื่อนบ้านเยอะมาก คึกคัก ชวนวุ่นวาย แม้จะเป็นคนต่างวัย เพราะเจ้าของร้านอายุ 70 ปีขึ้นแล้วทั้งนั้น แต่อาแปะอาม่า ก็รู้สึกว่า คนเยอะดีกว่าเหงาแน่นอน

ไม่ไปก็ไม่รู้ ลองไปดูก็จะเห็นว่า อีกหน่อยเยาวราชอาจจะหงอยนะจ๊ะ.

"ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามโลก..ไม่ทันแล้ว!!!

โลกอินเทอร์เน็ตทำให้สังคมมนุษย์ไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารสามารถแพร่กระจายได้ในพริบตาด้วยคลิกนิ้วเดียว สังคมยุคดิจิทัลแบบนี้เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน และมนุษย์ป้าเองก็เพิ่งปรับตัวปรับใจเดินไปกับการหมุนเปลี่ยนนี้ได้เมื่้อเร็วๆ นี้เอง

ความปลอดภัย..ของนักท่องเที่ยว

เป็นเรื่องเป็นราวกันอีกแล้วว่า นักท่องเที่ยวจีนพากันบอกยกเลิกทริปเที่ยวไทย อันเนื่องมาจากข่าวใหญ่โต นายหวัง ซิง (Wang Xing) หรือ ซิงซิง (Xing Xing) นักแสดงชาวจีน วัย 31 ปี ถูกกลุ่มค้ามนุษย์หิ้วตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังประเทศเมียนมา โดยผ่านช่องทางบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา แถว อ.แม่สอด จ.ตาก

ละเลิก..หวังลมๆแล้งๆ

หมดไปอีกปีหนึ่งแล้ว คุณเคยลองทบทวนตรึกตรองหรือไม่ว่า ปีที่ผ่านไปนั้น สิ่งที่คุณเคยหวังและอยากให้เป็นนั้น มันสำเร็จสมอารมณ์หมายมากน้อยเพียงใด หรือมันยังคงย่้ำอยู่ในโหมด "ความหวัง" ต่อไป

คอนเทนต์...คนวัยตกกระ

เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่

เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล

ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย

เงิน..ก้อนสุดท้าย!!

สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย